เจแอลแอล ประเทศไทย (JLL) บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ฉลองครบรอบ 35 ปี แห่งการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เจแอลแอลได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของโครงการอสังหาฯ รูปแบบการใช้งานเดียว สู่ยุคโครงการมิกซ์ยูส จนถึงปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ล้ำสมัย
ผู้นำด้านอสังหาฯไทย ก้าวสู่ยุคใหม่ด้วย 4 กลยุทธ์หลัก
นายไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล ประจำประเทศไทยและอินโดนีเซีย กล่าวว่า “ตลอด 35 ปีที่ผ่านมา เจแอลแอลไม่เพียงแต่ภาคภูมิใจในความสำเร็จที่ผ่านมา แต่ยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ ความยั่งยืน เทคโนโลยี บุคลากร และ ข้อมูล”
1. ความยั่งยืน (Sustainability) : เจแอลแอลให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเป็นอันดับแรก โดยมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างสรรค์โลกที่ดีขึ้น พร้อมให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าในการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG
2. เทคโนโลยี (Technology) : เจแอลแอลพร้อมรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 5 โดยนำเทคโนโลยี โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน
3. บุคลากร (People) : เจแอลแอลมุ่งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงาน สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และสนับสนุนให้เกิดความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว
4. ข้อมูล (Data) : เจแอลแอลให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำเร็จที่โดดเด่น ตอกย้ำความเป็นผู้นำ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจแอลแอล ประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในหลายด้าน อาทิ
- ธุรกิจตลาดทุน: ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การซื้อขาย และการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์มูลค่ากว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี 2559-2566
- ธุรกิจโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม: ปิดการขายที่ดินรวมกว่า 1,600 เฮกเตอร์ (10,000 ไร่) ในช่วงปี 2561-2566
- ธุรกิจโรงแรมและบริการ: เป็นตัวแทนซื้อขายโรงแรม 54 แห่ง มูลค่ากว่า 66,000 ล้านบาท นับตั้งแต่ปี 2553 รวมถึงการเป็นตัวแทนในการซื้อขายโรงแรมมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย
- การจัดการอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์: บริหารพอร์ตสินทรัพย์รวมกว่า 7.1 ล้านตารางเมตรทั่วประเทศ รวมถึงโครงการระดับโลกอย่าง One Bangkok
- บริการวิจัยและให้คำปรึกษา: ได้รับรางวัล SEA Research Team of The Year ประจำปี 2567 จาก RICS (Royal Institution of Chartered Surveyors) และให้คำปรึกษากว่า 360 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 500,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2558
สร้างมาตรฐานใหม่ ยกระดับคุณภาพชีวิต
เจแอลแอล ประเทศไทย มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ โดยสำนักงานในกรุงเทพฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED Gold ด้านการใช้พลังงาน และเป็นสำนักงานแห่งแรกในไทยที่ได้รับรอง WELL Platinum ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของพื้นที่สำนักงานที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของพนักงาน นอกจากนี้ เจแอลแอล ประเทศไทย ยังได้รับการรับรอง Great Place to Work®
4 บริการใหม่ ตอบโจทย์อนาคต
เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ เจแอลแอล ปรับรูปแบบการให้บริการ โดยมุ่งเน้น 4 บริการหลัก ได้แก่
- บริการด้านกลยุทธ์การจัดพื้นที่สำนักงานและการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Workplace Strategy & Change Management): ช่วยให้ผู้ใช้สำนักงานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ และสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การทำงานยุคใหม่
- บริการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Energy & Sustainability Services: ESS): สนับสนุนลูกค้าในการดำเนินงานตามแนวทาง ESG
- ฝ่ายปรับปรุงและพัฒนาสินทรัพย์ (Asset Enhancement): ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของสินทรัพย์ เพื่อเพิ่มมูลค่า
- บริการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Tech Advisory): ให้คำปรึกษาในการเลือกใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานและการบริหารทรัพย์สิน
มุ่งสู่ผู้นำ สร้างอนาคตอสังหาฯ ไทย
อนาวิล เจียมประเสริฐ หัวหน้าแผนกบริการงานวิจัยและให้คำปรึกษา เจแอลแอล ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมายาวนาน ทำให้เรามีฐานข้อมูลเชิงลึกที่แข็งแกร่ง และพร้อมให้บริการงานวิจัยและให้คำปรึกษาคุณภาพสูง เพื่อสนับสนุนลูกค้าในการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์”
#JLL #JLLThailand #อสังหาริมทรัพย์ #Property #RealEstate #ความยั่งยืน #Sustainability #เทคโนโลยี #Technology #AI #PropTech #35ปี #Anniversary
–ปังไม่หยุด! เอพี ไทยแลนด์ คว้า RISING STAR AWARD 2024 “แบรนด์อสังหาฯ ที่โดดเด่นอย่างก้าวกระโดด”