พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เปิดแผนปี 67 เตรียมเปิดใหม่ 7 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 20,000 ล้าน พร้อมลดหนี้สร้างความคล่องตัวการบริหาร

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เปิดแผนปี 67 เตรียมเปิดใหม่ 7 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 20,000 ล้าน พร้อมลดหนี้สร้างความคล่องตัวการบริหาร

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค “PF” และ แกรนด์ แอสเสท “GRAND” เปิดแผนธุรกิจปี 2567 เตรียมเปิดใหม่ 7 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายรวม 20,000 ล้านบาท ส่วนรายได้วางไว้ที่ 18,000 ล้านบาท มุ่งปรับโครงสร้างการเงินให้แข็งแกร่ง ลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนให้เหลือ 1 เท่าภายในปีนี้ พร้อมลดหนี้ 11,000 ล้านบาทใน 3 ปี เผยรายได้จากโครงการร่วมทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ธุรกิจโรงแรมเติบโตเทียบเท่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 พร้อมเดินหน้าสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Go Green สร้างความอย่างยั่งยืน

อสังหาฯ ยังมีปัจจัยบวก

วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2567 นี้ธุรกิจอสังหาฯ ยังมีปัจจัยบวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผังเมืองกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ที่คาดว่าจะถูกเปิดใช้ในปีหน้าเป็นการเปิดพื้นที่พัฒนาใหม่ๆ มากขึ้น ขณะที่รถไฟฟ้าเปิดให้บริการครบ 10 สาย ซึ่งเส้นทางใหม่ๆ เป็นเส้นที่เดินทางออกนอกเมือง เข้ามาสนับสนุนคนที่อยู่บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์

ขณะที่เมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ จะเป็นตัวกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ในเมือง ไม่ว่าจะเป็น One Bangkok หรือ Dusit Central Park

ด้านการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว พบว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาฯ เป็นบ้านหลังที่ 2 ในไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชาวจีน ไต้หวัน หรือฮ่องกง ส่วนหนึ่งจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ

ด้านทิศทางการลดดอกเบี้ย ในปี 67 นี้มีแนวโน้มที่ดี คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะเริ่มลดดอกเบี้ยในปีนี้ 0.75% โดยจะเริ่มลดตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ที่ 0.25% ซึ่งจะทำให้ทั่วโลกรวมถึงไทยต้องลดดอกเบี้ยตาม

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เปิดแผนปี 67 เตรียมเปิดใหม่ 7 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 20,000 ล้าน พร้อมลดหนี้สร้างความคล่องตัวการบริหาร

จากปัจจัยดังกล่าว ปีนี้กลุ่มบริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 20,000 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 9,750 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2,540 ล้านบาท โครงการร่วมทุน 4,460 ล้านบาท และโรงแรม 3,250 ล้านบาท ขณะที่รายได้ปีนี้ตั้งไว้ที่ 18,000 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ 8,600 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2,380 ล้านบาท โครงการร่วมทุน 3,770 ล้านบาท และโรงแรม 3,250 ล้านบาท

มีนโยบายสร้างความมั่นคงด้านการเงิน ให้ความสำคัญกับการลดภาระหนี้มากกว่าการขยายตัว โดยในปีนี้จะเปิดโครงการใหม่เพียง 7 โครงการ เน้นโครงการที่ขายได้ไว และตั้งเป้าลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกลุ่มบริษัทให้ลงไปอยู่ที่ระดับ 1 เท่าภายในสิ้นปีนี้

โดยลดภาระหนี้ของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 2,000 ล้านบาท แกรนด์ แอสเสทฯ 5,000 ล้านบาท รวมเป็น 7,000 ล้านบาท จากการขายที่ดินและขายการลงทุนในธุรกิจโรงแรม นอกจากนี้ยังมีแผนลดภาระหนี้ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ใน 2 ปีข้างหน้าอีกปีละ 2,000 ล้านบาท จากการขายที่ดินและเงินคืนจากบริษัทร่วมทุน ซึ่งจะทำให้กลุ่มบริษัทสามารถลดภาระหนี้ลงรวม 11,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี

เดินหน้าเก็บเกี่ยวผลประโยขน์โครงการร่วมทุนต่อเนื่อง

ในส่วนโครงการร่วมทุน ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีการร่วมทุนกับ 3 บริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ เป็นมูลค่าโครงการรวม 28,120 ล้านบาท มีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ารายได้จากโครงการร่วมทุนเติบโตอีก 24% หรือ 3,770 ล้านบาท

ขณะที่ธุรกิจโรงแรมปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากปีก่อนถึง 54% หรือ 3,250 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยบวกหลักคือสถานการณ์โควิด-19 ที่กลับสู่ภาวะปกติ และการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงงานประชุมต่างชาติ โดยโรงแรมทั้ง 5 แห่งของบริษัท มีอัตราเข้าพักและราคาเฉลี่ยต่อห้องสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสามารถสร้างกำไรจากการบริหารงานได้สูงกว่าปี 2565 อยู่ที่ 152% มากกว่าปี 2562 ช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ถึง 10%

สำหรับปี 2567 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 22% กำไรขั้นต้นเติบโต 36% จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา

เพอร์เฟค เตรียมเปิด 7 โครงการ วางเป้าขาย 1.4 หมื่นล้าน

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัท วสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค วางเป้าขายอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนหลักมาจากบ้านเดี่ยว 67% หรือประมาณ 9,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 12,000 ล้าน

มีแผนเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 7,700 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 5 โครงการ มูลค่า 6,290 ล้านบาท ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ 2 โครงการ มูลค่า 1,410 ล้านบาท เป็นแนวราบทั้งหมดโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน โครงการไฮไลท์ได้แก่

“เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์” ซึ่งเป็นการกลับมาสานต่อความสำเร็จของแบรนด์เพอร์เฟค เพลส ในโซนกรุงเทพตะวันตก ทำเลที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญและได้รับการตอบรับอย่างดีมากว่า 20 ปี 

“วาวิล่า” โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นจับกลุ่มลักซ์ชัวรี่เพิ่มเติมในทำเลกรุงเทพกรีฑา

และยังมีการขยายโครงการในทำเลใหม่ “โมดิ วิลล่า สถานีคูคต” เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดทำเลใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่มีศักยภาพการเติบโตสูง บริษัทยังเน้นการพัฒนารูปแบบสินค้าทั้งบ้านเดี่ยวในโครงการเพอร์เฟค เพลส และ เพอร์เฟค พาร์ค ที่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ เพิ่มฟังก์ชั่นและขยายพื้นที่ใช้สอย  รวมถึงการกลับมารุกตลาดทาวน์โฮม 3 ชั้นอีกครั้ง ด้วย “เดอะ เมทโทร” ทาวน์โฮมที่ปรับโฉมใหม่ให้สวยงามเรียบง่ายในสไตล์มินิมอลลิสต์

เดินหน้าความยั่งยืนผ่าน 4 แกน

ทั้งนี้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ยังเดินหน้าสู่ความยั่งยืนภายใต้แนวคิด “Go Green” ผ่าน 4 แกนหลัก ได้แก่

1) Clean Energy การใช้พลังงานสะอาดทั้งในระดับโครงการและในบ้าน ทั้งการติดตั้งโซลาร์รูฟบนอาคารสโมสร สำนักงานขาย และบ้านในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ และ เลค เลเจ้นด์ ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับบ้านเดี่ยวสร้างใหม่ในโครงการ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ, เลค เลเจ้นด์ และวาวิล่า และติดตั้งระบบที่รองรับการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Ready) สำหรับบ้านเดี่ยวโครงการเพอร์เฟค เพลส, เพอร์เฟค พาร์ค และโมดิ วิลล่า

2) Water Saving การพัฒนาโครงการที่มีทะเลสาบขนาดใหญ่ให้มีความโดดเด่น  ควบคู่ไปกับการดูแลแหล่งน้ำและทะเลสาบภายในโครงการอย่างดี ทั้งการจัดการคุณภาพน้ำและหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ประโยชน์

3) Materials & Process การให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบให้ลดการใช้พลังงาน และเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้บริษัทมีส่วนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

4) Good Health & Well-Being ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกวัย โดยปีนี้จะเปิดคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่รูปแบบใหม่ในทำเลกรุงเทพกรีฑา เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัยในโครงการ

AP โชว์ผลดำเนินงานปี 66 กำไร 6,054 ล้านบาท ยอดขาย 51,390 ล้านบาท

Scroll to Top