บริษัท มีเดีย แท็งค์ จํากัด จัดงานแถลงข่าวรายการ Shark Tank Thailand ซีซั่น 3 รายการเรียลลิตี้ธุรกิจหนึ่งเดียวในไทยที่สานฝันผู้ประกอบการไปสู่เป้าหมายทางธุรกิจ ผ่านการระดมทุนจากชาร์คนักลงทุน หลังจากรายการออกอากาศเพียง 7 Ep ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม ทั้งจากกลุ่มผู้ชมรายการ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และกลุ่มนักลงทุน นักธุรกิจชั้นนำระดับหมื่นล้าน หรือ “ชาร์คนักลงทุน” สามารถปิดดีลเพื่อสานฝันให้กับผู้ประกอบการในรายการแล้วถึง 20 ราย รวมมูลค่ากว่า 134 ล้านบาท โดยมีชาร์คทั้ง 5 มาร่วมแถลงข่าว พร้อมด้วยผู้ประกอบการ SME ไทยที่มาร่วมเสนอดีลในรายการ
“ชาร์คเต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี” กล่าวว่า “ในปัจจุบันการแข่งขันในภาคธุรกิจมีความรุนแรงมากขึ้นและปัจจัยในการดำเนินธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอด ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีจึงควรเตรียมพร้อมและศึกษาปัจจัยรอบด้าน พร้อมจัดทำแผนการตลาดและช่องทางจำหน่ายสินค้าให้มีความชัดเจน และการหาพันธมิตรกับองค์กรต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ โดยสิงห์ ที่ดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลาร่วม 89 ปีแล้ว และยังมีบริษัท สิงห์ เวนเจอร์ส หน่วยธุรกิจที่พัฒนาขึ้นเพื่อมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เนื่องจาก การลงทุนผ่านธุรกิจร่วมทุน (Venture Capital) หรือ VC มีบทบาทและจำเป็นต่อภาคธุรกิจ เอสเอ็มอีที่จะช่วยผลักดันทำให้ก้าวไปสู่บริษัทขนาดใหญ่ในโลก ทั้งนี้บริษัทพร้อมร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการไทยเพื่อสนับสนุนธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น”
–NIA รุกระดมทุน 7 ดีพเทคสตาร์ทอัพเกษตร พร้อมดันนวัตกรรมเกษตรไทยสู่ระดับโลก
“ชาร์คกฤษน์ ศรีชวาลา” กล่าวว่า “การดำเนินธุรกิจในยุคนี้ที่ปัจจัยสภาพแวดล้อมต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยแนวทางการดำเนินงานแบบ Agile ที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวรวดเร็วจะยิ่งมีความสำคัญกับทุกธุรกิจ รวมถึงควรนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ชับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งจากข้อคำแนะนำจาก ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีใช้ดิจิทัล เพื่อลดต้นทุนและทำให้เข้าถึงตลาดใหม่ๆ มากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการจึงเป็นต้องทำแผนธุรกิจ (Business Model) ให้รอบคอบ การจัดทำแผน สร้างแบรนด์ให้ชัดเจน ทั้งนี้บริษัทพร้อมร่วมให้คำแนะนำแก่ภาคธุรกิจไทย เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ ร่วมถึงเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการไทย เพื่อสร้างโอกาสธุรกิจและร่วมสนับสนุนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งในตลาดและต่างประเทศ”
“ชาร์คหมู-ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์” กล่าวว่า “การดำเนินธุรกิจภายหลังโควิด-19 มีความท้าทายหลายด้าน ทั้งจากสภาพแวดล้อม เทคโนโลยี และเทรนด์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยผู้ประกอบการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้คือ การใช้เทคโนโลยีมาขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ สร้างสรรค์บริการใหม่ที่ดีขึ้น จึงช่วยให้ธุรกิจสามรถเข้าสู่โลกดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทั้งนี้บริษัทพร้อมร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการร่วมนำเทคโนโลยีมาสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ เพื่อให้พร้อมรับการแข่งขันและร่วมต่อยอดธุรกิจสู่ตลาดโลก”
“ชาร์คจิง-ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ” กล่าวว่า “เทรนด์การทำธุรกิจที่คำนึงถึงทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment Social and Governance) หรือ เรียกว่า ESG จะมีความสำคัญมากขึ้นหลังจากโควิด-19 ผ่านพ้นไปแล้ว และเป็นแนวทางที่สร้างความยั่งยืนในระยะยาว โดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยจึงควรปรับให้สอดคล้องกับปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมมุ่งสิ่งสำคัญในการ
บริหารธุรกิจคือ การทำแผนธุรกิจให้ชัดเจน การบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ก่อตั้งบริษัทจะต้องมีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงในการขับเคลื่อนธุรกิจ ทั้งนี้บริษัทพร้อมเข้ามาร่วมสนับสนุนและร่วมเป็น
พันธกิจกับธุรกิจเอสเอ็มอีไทย เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ และร่วมเติมเต็มความฝันในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทย”
“ชาร์คประพล มิลินทจินดา” กล่าวว่า “เทรนด์การดำเนินธุรกิจที่เกิดขึ้นในโลกต่างมุ่งไปสู่ความยั่งยืนและการเข้าสู่โลกดิจิทัล โดยผู้ประกอบการไทยจึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องเพื่อสร้างความยั่งยืน และมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจ โดยที่ผ่านมาได้ร่วมให้คำแนะนำ ทั้งด้านการตลาด การเงิน การขยายช่องทาง ให้แก่ผู้ประกอบการไทยมาตลอด รวมถึงได้เข้าไปร่วมสนับสนุนเป็นหุ้นส่วนกับผู้ประกอบการไทย เพื่อร่วมผลักดันธุรกิจไทยให้มีขยายตัวที่ดีและมีความเชื่อมั่นกับศักยภาพของผู้ประกอบการไทย ที่จะสร้างแบรนด์ขยายตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ”
ทั้งนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ได้แก่ ธุรกิจซอสปรุงรสแบรนด์หมีปรุง, ธุรกิจ Robotic & Automation System ผู้พัฒนาระบบหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรม, ธุรกิจปริญญาฟู๊ด ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น, ธุรกิจแจ่วฮ้อนยกซด และธุรกิจ Molly Ally ไอศครีมเจลาโต้ โดยกระแสตอบรับที่เกิดขึ้นในรายการหลังจากการออกอากาศไปแล้วใน EP1-EP7 ได้สร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ทั้งทำให้แบรนด์สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เช่น แบรนด์หมีปรุง ที่ทำผลิตภัณฑ์ซอสกะเพรา นับเป็นการร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางการแข่งขันในธุรกิจที่มีความรุนแรง
รายการ Shark Tank Thailand มีทั้งหมด 14 EP โดยออกอากาศทุกวันอาทิตย์ที่ เวลา 13.30 น.ทางช่อง 7HD กด 35