ทรู ดิจิทัล พาร์ค ผนึก บีโอไอ เปิด “Thailand Fast Track” ดึงดูดสตาร์ทอัพทั่วโลก ปักหมุดไทยศูนย์กลางลงทุนแห่งใหม่

ทรู ดิจิทัล พาร์ค เดินหน้าผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นประเทศที่น่าลงทุนที่สุดในภูมิภาค ผนึกกำลังกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดตัวโครงการสำคัญ “Thailand Fast Track” เพื่อเติมเต็มความต้องการของสตาร์ทอัพและนักลงทุนจากทั่วโลกที่สนใจเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย

โครงการ “Thailand Fast Track” มุ่งเน้นการลดอุปสรรคและอำนวยความสะดวกในการเข้ารับบริการต่างๆ ในประเทศไทยแบบครบวงจร ณ จุดเดียว (One-Stop Service) ผ่าน TDPK International Service Center ที่ตั้งอยู่ชั้น 3 ทรู ดิจิทัล พาร์ค เวสต์ โดยให้บริการครอบคลุมทั้งด้านธุรกิจ อาทิ การจัดตั้งบริษัท บริการวีซ่า คำแนะนำด้านกฎหมาย และด้านการใช้ชีวิต อาทิ การหาที่พักอาศัย รวมถึงการสร้างเครือข่ายธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจในประเทศไทยอย่างเต็มที่

ล่าสุด ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้จัดงาน “Thailand Fast Track: Attracting Global Community, Accelerating Thailand’s Growth” เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรนานาประเทศ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในนโยบายส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจากนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วยผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และลักเซมเบิร์ก รวมถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมงาน

ณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กล่าวถึงความมุ่งมั่นของทรู คอร์ปอเรชั่น ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัลผ่าน ทรู ดิจิทัล พาร์ค โดยการสนับสนุนทรัพยากรต่างๆ ให้กับสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ และนักลงทุน เพื่อส่งเสริมการเติบโตและประสบความสำเร็จ พร้อมย้ำว่าการเปิดตัว TDPK International Service Center และการเป็นตัวแทนที่ได้รับการรับรองจากบีโอไอสำหรับการขอวีซ่าพำนักระยะยาว จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว และเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น

ด้าน นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI กล่าวว่า ระบบนิเวศสตาร์ทอัพของประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ โดยประเทศไทยมีปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่ดึงดูดนักลงทุน ได้แก่ ทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และบุคลากรที่มีทักษะสูง พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงนโยบายและมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ รวมถึงโครงการ Global Talent Attraction ผ่านวีซ่าพิเศษต่างๆ และการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

ผู้แทนจากประเทศต่างๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และลักเซมเบิร์ก ต่างแสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดย Kajiwara Toru จากสถานทูตญี่ปุ่นเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรควบคู่ไปกับการเติบโตทางธุรกิจ ขณะที่ Zak Lawton จากสถานทูตสหราชอาณาจักรชื่นชมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่งของไทย และ Eric Lauer จากสถานทูตลักเซมเบิร์กมองเห็นศักยภาพของไทยในด้านเทคโนโลยีทางการเงินและการสนับสนุนทางการเงินเพื่อความยั่งยืน

โครงการ “Thailand Fast Track” ถือเป็นก้าวสำคัญในการตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางระดับโลกสำหรับสตาร์ทอัพ และแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการดึงดูดนักลงทุนและส่งเสริมการเติบโตของระบบนิเวศเทคโนโลยีของประเทศ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TDPK International Service Center สามารถดูได้ที่นี่

–กรุงศรี ฟินโนเวต ปักธงสู่ Global Venture Capital ดันสตาร์ทอัพไทย-อาเซียน ผงาดเวทีโลก

• Facebook
• X
• Line