กรุงศรี จับมือ ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล เปิดตัวโครงการ ESG-Linked Foreign Exchange (FX) หนุนความยั่งยืนระดับสากล

กรุงศรี จับมือ ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล เปิดตัวโครงการ ESG-Linked Foreign Exchange (FX) หนุนความยั่งยืนระดับสากล

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ กรุงศรี ร่วมกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก และ บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำระดับโลก ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ เปิดตัวโครงการ ESG-Linked Foreign Exchange (FX) ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ผสานหลักการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เข้ากับการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนของทั้งสามองค์กร และสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนของประเทศไทย

โครงการ ESG-Linked FX เป็นการต่อยอดและพัฒนาไปอีกขั้นของการบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแบบดั้งเดิม โดยเชื่อมโยงเงื่อนไขทางการเงิน เช่น ต้นทุนการประกันความเสี่ยง เข้ากับการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ ลูกค้าที่สามารถทำได้ตามเป้าหมายด้าน ESG ที่กำหนดไว้ จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน อาทิ ต้นทุนการประกันความเสี่ยงที่ลดลง ซึ่งถือเป็นแรงจูงใจสำคัญในการผลักดันและส่งเสริมให้ภาคธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

กรุงศรีได้ผสานตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน และเป้าหมายด้านความยั่งยืน ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบการเสนอขายตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน เข้ากับธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีหน่วยงานภายนอกที่เป็นกลางและมีความเชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบและประเมินผล เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางและการดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานสากล โปร่งใส และตรวจสอบได้ การบูรณาการปัจจัยด้านความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์ทางการเงินนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และยังช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอีกด้วย  

ฮิโรทากะ คุโรกิ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “กรุงศรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล ในโครงการ ESG-Linked FX ซึ่งเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนด้านการเงินที่ยั่งยืน เราตระหนักดีว่าความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ใส่ใจด้านความยั่งยืนในตลาดนั้นมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้พัฒนา ESG-Linked Derivatives ขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และตามมาด้วยโครงการ ESG-Linked FX ในวันนี้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ผสานหลักการด้าน ESG เข้ากับการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ นับเป็นการต่อยอดและยกระดับการบริหารจัดการความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนแบบเดิม เพื่อให้ครอบคลุมไปถึงปัจจัยด้านความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนของทั้งสององค์กรให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น”

ด้าน ประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “ที่ผ่านมา กรุงศรี และ ไทยยูเนี่ยน ได้สร้างความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในโครงการ Blue Finance ซึ่งเป็นการบริหารจัดการการเงินเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ท้องทะเลของไทยยูเนี่ยน โดยเราได้ร่วมกันสร้างความสำเร็จที่สำคัญในภูมิทัศน์ทางการเงินด้านความยั่งยืนของประเทศไทย ทั้งการออกสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) ครั้งแรกของประเทศไทยและญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2564 และในปีเดียวกันนั้น เรายังประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond หรือ SLB) เป็นครั้งแรกของประเทศไทยอีกด้วย ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำถึงเจตนารมณ์ของกรุงศรีในการเป็นผู้นำตลาดด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนลูกค้าให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนอย่างแท้จริง”

ยงยุทธ เสฎฐวิวรรธน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการบริหารการเงินกลุ่มและศูนย์บริการร่วมทางการเงิน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำคัญของความยั่งยืนต่อองค์กรว่า “ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยนและไอ-เทล ภายใต้เป้าหมายการมีสุขภาพที่ดีและท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ “Healthy Living, Healthy Oceans” ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ SeaChange®2030 ที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับอุตสาหกรรม ผู้คน และโลก โดยในด้านการเงิน ไทยยูเนี่ยนมีเป้าหมายที่จะจัดหาเงินทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้ได้ 75 เปอร์เซ็นต์ของการจัดหาเงินทุนระยะยาวภายในปี พ.ศ. 2568 เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ท้องทะเล ความร่วมมือกับกรุงศรีในโครงการ ESG-Linked FX สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำงานด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับนวัตกรรมทางการเงินเพื่อสร้างสมดุลในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล”

โครงการ ESG-Linked FX นับเป็นอีกก้าวสำคัญของภาคธุรกิจไทยในการผสานแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้ากับการบริหารจัดการทางการเงินอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความท้าทายและความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับภาคธุรกิจที่ใส่ใจด้าน ESG แต่ยังเป็นการสร้างระบบนิเวศด้านความยั่งยืนที่แข็งแกร่ง ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ไปรษณีย์ไทย ชู Green Hub ปลุกวัฒนธรรมแยกขยะ สร้างมูลค่าใหม่จากสิ่งของเหลือใช้

Scroll to Top