Sustainability

เปิดแนวคิด “TCP-มิตรผล-SCGC” ปรับองค์กรสู่ Circular Economy เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน

งาน TCP Sustainability Forum 2023 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 ที่ผ่านมาได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองต่อเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) แนวทางการปรับตัวองค์กร และภาคธุรกิจจะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ได้อย่างไร จาก 3 ผู้บริหารองค์กร กลุ่มธุรกิจ TCP, กลุ่มมิตรผล และ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC

โดยทั้ง 3 ท่านได้แสดงวิสัยทัศน์ ถึงแนวคิดการมีส่วนร่วมในการสร้างอัตราเร่งไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้จริงตามเป้าหมาย Net Zero Transition ลองมาดูกันว่าแต่ละองค์กรนั้นมีแผนการปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจอย่างไรกัน

TCP “เป็นตัวเราที่ดีกว่าเดิม”

สำหรับกลุ่มธุรกิจ TCP นั้นมองว่า การเปลี่ยนความคิดคือปัจจัยสำคัญ หากจะสร้างความยั่งยืนจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจ โดยยึดหลักการ “เป็นตัวเราที่ดีกว่าเดิม” ปรับการทำธุรกิจใน 4 แกน คือ

1.นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นเลิศ สินค้าที่ผลิตออกมาจำหน่ายจะต้องตอบโจทย์ลูกค้าในทุกด้าน เพราะหากสินค้าไม่ดี ลูกค้าไม่ชอบ ก็จะกลายเป็นการสร้างขยะออกมาสู่โลก

2.ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน แพ็กเกจต้องรีไซเคิลได้ 100% ซึ่งปัจจุบันทั้งบรรจุภัณฑ์ที่ TCP ใช้บรรจุเครื่องดื่มสามารถรีไซเคิลได้ 100% ส่วนกระป๋องทั้งหมดที่จำหน่ายในไทยผลิตจากจากรีไซเคิลอะลูนิเนียม รวมถึงกล่องกระดาษก็ได้รับมาตรฐาน FSC หรือเป็นไม้ที่ใช้ไม้จากป่าธรรมชาติหรือป่าปลูกที่มีการจัดการอย่างถูกต้องตามหลักการที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

3.ส่งเสริมการจัดการน้ำยั่งยืน คือการมีระบบหมุนเวียนน้ำในโรงงาน เพื่อให้ใช้น้ำลดลง และตั้งเป้ามุ่งสู่น้ำสุทธิเป็นบวก หรือ (Net Water Positive) การคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติและชุมชนให้มากกว่าน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในปี พ.ศ. 2573

4.มุ่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 ซึ่งปัจจุบันได้มีความก้าวหน้าไปหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง การใช้พลังงานทดแทนอย่าง Solar Rooftop เข้ามาทดแทนพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมดกว่า 23% การปรับสายการผลิตเป็น Smart Manufacturing เพื่อลดการใช้พลังงาน รวมไปถึงการนำรถ EV เข้ามาใช้ในภาคการขนส่ง

ซึ่ง คุณสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP ได้กล่าวในช่วงหนึ่งว่า ปี 2023 นี้โลกอุณหภูมิสูงขึ้นแบบทำลายสถิติ เกิดสภาวะอากาศแบบสุดขั้วมากขึ้น หลายประเทศถึงแม้จะมีระบบระบายน้ำดี แต่ยังรับมือไม่ไหวเมื่อเจอกับฝนตกติดต่อกัน 7 วัน นั่นเป็นสาเหตุที่วันนี้เราต้องมาร่วมมือกัน”

มิตรผล “สร้างคุณค่า สร้างอนาคตที่ยั่งยืน”

ด้าน กลุ่มมิตรผล เปิดเผยข้อมูลภาคการเกษตรว่า ปัจจุบันภาคการเกษตรมีการจ้างงานสูงถึง 12 ล้านคน สูงเป็นอันดับ 2 ของแรงงานไทย แต่กลับก่อให้เกิด GDP ได้เพียง 9% ต่ำกว่าภาคอุตสาหกรรมและบริการที่ดัน GDP ถึง 32% และ 59% ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเพราะผลิตภัณฑ์ที่คนไทยปลูกนั้นเป็นกลุ่มพืชที่มีมูลค่าต่ำเมื่อเทียบต่อพื้นที่เพาะปลูก ไม่ว่าจะเป็นข้าว ข้าวโพด หรืออ้อย

ซึ่งกลุ่มมิตรผลนั้นอยู่ในภาคเกษตรกรรม เล็งเห็นปัญหาที่เกษตรกรไทยประสบ จึงเดินหน้าสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยในไทย ไม่ว่าจะเป็น

1.การพัฒนาชลประทานเพื่อการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการช่วยเกษตรกรสร้างสระเก็บน้ำ ขุดเจาะบ่อบาดาล การวางระบบน้ำพุ่ง น้ำหยด ทำให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตอ้อยจาก 9 ตันต่อไร่ เป็น 15 ตันต่อไร่

2.การใช้เครื่องจักรกลเกษตร เข้ามาแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และยังช่วยเพิ่มผลผลิต และการกักเก็บน้ำใต้ดิน

3.ลดการเผาไร่อ้อย ปัจจัยการเกิด PM 2.5 ผ่านการรับซื้อใบอ้อย และฟางข้าว ตันละ 1,000 บาท เพื่อ นำไปแปลงเป็นพลังงาน จนถึงนำไปเป็นอาหารสัตว์

4.ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้อีกช่องทางให้เกษตรกร ผ่านการส่งเสริมการปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล สมุนไพร และเลี้ยงปลา คู่กับไร่อ้อย เพื่อลดรายจ่ายค่าอาหารในครัวเรือและยังเป็นช่องทางเสริมรายได้ ซึ่งที่ผ่านมาสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกรได้ประมาณ 12,000 บาท/ครอบครัว/ปี

“เราทำร้ายโลกมาหลายสิบปี วันนี้โลกเริ่มกลับมาทำร้ายเรา ขณะที่ภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตร ปัญหาสิ่งแวดล้อมจึงเป็นความเสี่ยงในอนาคต เพราะหากวันนี้เราไม่มีวัตถุดิบ โรงงานเราก็จะไม่มีความหมาย” อิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มมิตรผล กล่าวในงานเสวนา

SCGC สร้างความยั่งยืนผ่านนวัตกรรม

ส่วน SCGC ที่อยู่ในธุรกิจเคมีภัณฑ์ มองการใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning เข้ามาจัดการ Value Chain ช่วยด้านการทำงานที่รวดเร็ว แม่นยำ เป็นวิธีการช่วยลดคาร์บอนฯได้

โดยวิธีที่ SCGC จะไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้นั้นคือการลดขยะในภาคการผลิต ไปสู่การลดคาร์บอน โดยใช้หลักการ 4R คือ

1.Reduce ลดใช้ทรัพยากรผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ขณะที่ยังมีคุณภาพสูง

2.Recyclable ออกแบบเพื่อให้รีไซเคิลได้ผ่านการเลือกใช้วัตถุดิบที่รีไซเคิลง่าย แต่ตอบโจทย์ได้หลากหลายผลิตภัณฑ์

3.Recycle เดินหน้าพัฒนาวิธีการรีไซเคิลขั้นสูง ซึ่งปัจจุบัน SCGC ได้รับการรับรองมาตรฐานการรีไซเคิลเรซินเพื่อให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้

4.Renewable การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน โดยเฉพาะไบโอพลาสติก ซึ่งจะเลือกใช้สารประกอบที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ

supersab

Recent Posts

รฟม. เผยครบรอบ 1 ปี นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผลดีเกินคาด ทำยอดผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT และผู้ใช้บริการอาคารจอดแล้วจรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายวิทยา พันธุ์มงคล รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ รฟม. ได้ดำเนินการตามนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบาย Quick Win “คมนาคม…

2 hours ago

เป็นเจ้าของสถานีชาร์จฯ ง่ายนิดเดียว ชมแพคเกจสุดพิเศษจาก กฟผ.ในงาน Bangkok EV Expo 2024 ที่บูท EV3/2

กฟผ. ร่วมออกบูท EGAT EV Business Solutions (บูท EV3/2) ในงาน Bangkok EV Expo 2024 เพื่อส่งต่อความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการพัฒนาและการบริหารจัดการเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า…

2 hours ago

ลุ้น! สุดยอดซีอีโอแห่งปี “CEO ECONMASS Awards 2024” จากสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ วันที่ 30 ต.ค.นี้

สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จับมือกับ “กกร.-สคร.-ม.หอการค้าไทย” จัดงาน 'CEO ECONMASS Awards 2024' สุดยอดผู้นำองค์กร ประจำปี 2567 โดยนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร”  เป็นผู้มอบรางวัลในครั้งนี้…

2 hours ago

YouTube เปิดตัว YouTube Shopping ในประเทศไทย

YouTube ประกาศเปิดตัวโปรแกรมแอฟฟิลิเอต YouTube Shopping ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นด้วยการร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee โดยโปรแกรมใหม่นี้จะช่วยเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์สามารถรับค่าคอมมิชชันเมื่อผู้ชมซื้อสินค้าที่ครีเอเตอร์แนะนำ พร้อมมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่นและสะดวกสบายให้กับผู้ชม และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้กับครีเอเตอร์ และในขณะเดียวกัน ผู้ชมก็สามารถค้นพบและเลือกซื้อสินค้าที่พวกเขาชื่นชอบได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การช็อปปิ้งของผู้ใช้งานทั่วประเทศ ประเทศไทยนับเป็นประเทศที่ 4…

3 hours ago

UOB จับมือ DHL Express ก้าวสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการขนส่งทางอากาศ

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ประกาศเข้าร่วมโครงการ GoGreen Plus ของดีเอชแอล ซึ่งเป็นการสะท้อนความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างสองบริษัท โดยยูโอบีมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทางอ้อม (Scope 3) ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเงิน และผลักดันวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนของธนาคารให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ความร่วมมือนี้เปิดโอกาสให้ยูโอบีใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ในการขนส่งด่วนระหว่างประเทศทางอากาศผ่านบริการ…

3 hours ago

vivo ประกาศท้าชนทุกสเปก เปิดตัว Y200 5G ในราคาเริ่มต้น 9,999 บาท พร้อมวางจำหน่าย Watch 3 นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกในไทยอย่างเป็นทางการ

vivo ประกาศเปิดตัว Y200 5G สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Y Series ที่ได้พรีเซนเตอร์นักแสดงสาวสวย ‘ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร’ มาเป็นตัวแทนพาผู้ใช้งานไปพิสูจน์ความแกร่งของน้องเล็กทนทานเหนือระดับภายใต้แนวคิด ‘สุดทน! ท้าชนทุกสเปก’ โดดเด่นด้วยมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP64…

3 hours ago