ดีอีเอส หารือ ก.ล.ต. เร่งจัดการมิจฉาชีพหลอกลงทุนออนไลน์ ย้ำค่าปรับต้องไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท

ดีอีเอส หารือ ก.ล.ต. เร่งจัดการมิจฉาชีพหลอกลงทุนออนไลน์ ย้ำค่าปรับต้องไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ผนึกกำลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หารือแนวทางการแก้ไขปัญหาหลอกลวงการลงทุนออนไลน์ โดยเฉพาะพฤติกรรมหลอกลวงลงทุนผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมแนะนำประชาชนตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่แนะนำการลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจ หรือหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ก่อนการลงทุนทุกครั้งหรือสามารถตอบสอบ ได้ที่แอปพลิเคชัน SEC Check First

ชัยวุฒิ ธนาคมนุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ทางกระทรวงฯ ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อแก้ไขปัญหาหลอกลวงการลงทุนออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย รวมทั้งการระดมทุนที่ผิดกฎหมาย เช่น การให้บริการชักชวนคนมาลงทุน ขายหลักทรัพย์ โดยทางกระทรวงดิจิทัลจะจัดตั้งคณะทํางานร่วมกับทางก.ล.ต ในการติดตาม Facebook account หรือ เว็บไซต์ต่างๆ เพื่อวางแนวทางป้องกันปราบปรามปิดกั้นเว็บไซต์ที่หลอกลวงการลงทุนในช่องทางต่างๆ ที่ไม่ได้รับการอนุญาติจาก ก.ล.ต. หากพบจะถูกดําเนินคดีปิดกั้น Account หรือเว็บไซต์โดยทันที เพื่อลดผลกระทบความเสียหายของประชาชน

รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. พร้อมให้ความร่วมมือกับดีอีเอส โดยหลังจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อความโฆษณาชวนเชื่อและชักชวนให้ประชาชนลงทุนในลักษณะหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ และสื่อสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชน ทาง ก.ล.ต. ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและนำรายชื่อขึ้นไว้ใน Investor Alert บนเว็บไซต์ ก.ล.ต. เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการลงทุนหรือทำธุรกรรมการเงิน รวมถึงการเก็บเอกสาร หลักฐานเพื่อนำส่งให้กับดีอีเอสได้ดำเนินการต่อไป

“Blockchain Thailand Genesis 2022” เปิดโปร Super Early Bird ลดพิเศษกว่า 50%

ในกรณีที่ ก.ล.ต. ตรวจพบว่ามีการกระทำอันเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เช่น พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้กระทำผิดอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ และหากเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก.ล.ต. มีกระบวนการในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่แนะนำการลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจ หรือหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ที่แอปพลิเคชัน SEC Check First และเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th หัวข้อ SEC Check First หากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าสงสัย โปรดแจ้งที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.

ชัยวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดีอีเอส ขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนก่อนที่จะลงทุนขอให้ตรวจสอบที่มาของบริการหรือผลิตภัณฑ์การเงินต่างๆ ก่อน เพราะอาจเจอผู้ให้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาติ ผิดกฎหมาย และอาจถูกหลอกลวง ฉ้อโกงให้เกิดความเสียหายได้

โดยความผิดฐานเสนอขายหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ มาตรา 268 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสองเท่าของราคาขายของหลักทรัพย์นั้นทั้งหมด ทั้งนี้ เงินค่าปรับต้องไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดฐานประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับใบอนุญาต มาตรา 289 จำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท และปรับไม่เกินวันละ 10,000 บาท

สามารถแจ้งข้อมูลได้ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้ โทร.1212 OCC ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ในสังกัดดีอีเอส เพจอาสาจับตาออนไลน์ facebook.com/DESMonitor แจ้งความออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านเว็บไซต์ thaipoliceonline

Scroll to Top