โลกสามารถเร่งการดำเนินการด้านสภาพอากาศอย่างเร่งด่วนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2573 มุ่งสู่การเป็น Net Zero
ในการเปิดตัวงาน Innovation Summit World Tour 2021 ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ฌอง ปาสคาล ตริคัวร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญที่สนับสนุนเส้นทางเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ตามที่กำหนดอยู่ในรายงาน “ความจำเป็น 2030: การแข่งขันกับเวลา” จากสถาบันวิจัยความยั่งยืนชไนเดอร์ อิเล็คทริค
ความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องกำจัดคาร์บอนโดยเร็ว
ฌอง มุ่งกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมงานใช้มาตรการสำคัญในการกำจัดคาร์บอน พร้อมนำเสนองานวิจัยของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นพิมพ์เขียวเพื่อเป็นแนวทางมุ่งสู้เป้าหมายในการจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียส รายงานดังกล่าวได้ให้รายละเอียดถึงความจำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 30-50 เปอร์เซ็นต์ภายในช่วงทศวรรษนี้ เทียบกับระดับปัจจุบัน หากพลาดจุดนี้ไปก็อาจจะเป็นไปได้ยากที่จะจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิให้อยู่ที่ระดับ 1.5°C ตามที่คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel for Climate Change หรือ IPCC) ได้กำหนดกรอบไว้
สถาบันวิจัยความยั่งยืนของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้นำเสนอแบบจำลองที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่สามารถลดคาร์บอน 10 กิกะตันต่อปี (10GtCO2/y) ได้จริงภายในปี 2030 รายงานดังกล่าว เน้นที่องค์ประกอบย่อยของการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก จาก 50GtCO2e/y การจำลองสถานการณ์ “ความจำเป็นในปี 2030” พบโอกาสในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 30% (10GtCO2e/y) จากฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั้งหมดที่ 30GtCO2/y ซึ่งเป็นการเร่งลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยตามคำปฏิญาณที่ให้ไว้เมื่อเร็วๆ นี้ (อยู่ในราว 3GtCO2e/y ที่คิดเป็น 10% ของเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษ) อย่างไรก็ตาม ยังมีการปล่อยก๊าซที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังงานประมาณ 20GtCO2e/ปี ซึ่งไม่ครอบคลุมในแบบจำลองของรายงานนี้
พร้อมกันนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ พยายามมากขึ้น 3-5 เท่า ทางสถาบันเชื่อว่าทางเดียวที่จะทำให้เกิดความสำเร็จและเป็นจริงได้ คือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้รับการพิสูจน์แล้วมาปรับใช้ควบคู่ไปกับการใช้พลังงานไฟฟ้าให้มากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการขจัดคาร์บอนในอาคาร การขนส่ง และอุตสาหกรรม แนวทางนี้นับเป็นการซื้อเวลาเพื่อจัดการกับภาคส่วนที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้ค่อนข้างยาก โดยแบบจำลองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทางเลือกอื่นจะสร้างภาระให้กับผู้บริโภคจำนวนมาก
กลยุทธ์และโซลูชันเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในห่วงโซ่คุณค่า
ดัชนีด้านความยั่งยืนของชไนเดอร์สำหรับปี 2564-2568 จะเร่งดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาด้านความยั่งยืนทั่วโลก พร้อมขยายบริการด้านพลังงานและความยั่งยืนโดยต่อยอดจากความสำเร็จในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวมาเป็นเวลา 10 ปี
ความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้านบริการให้คำปรึกษาที่เป็น “เป้าหมายที่ท้าทาย + การดำเนินการ” ของชไนเดอร์ คือเหตุผลที่ขับเคลื่อนการขยายตัว ซึ่งรวมถึงปัจจัยต่อไปนี้
-บริการให้คำปรึกษาในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ และการลดคาร์บอนในซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการประเมินความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ
-บริการด้านการสื่อสาร ซึ่งรวมถึงการรายงาน/การประเมินด้าน ESG และการเรียกร้องเกี่ยวกับความยั่งยืนและเรื่องของชื่อเสียง
-บริการเรื่องของการหมุนเวียนและการตรวจสอบย้อนกลับ
-โมดูล ESG สำหรับแพลตฟอร์ม EcoStruxure™ Resource Advisor ที่ได้รับรางวัลเพื่อใช้ในการติดตามมาตรการด้านสังคมและการกำกับดูแล
หนึ่งในเป้าหมายที่ท้าทายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการผลักดันนวัตกรรมที่ให้ความยั่งยืน และสร้างเส้นทางไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ด้วยการช่วยให้ลูกค้าในหลายภาคส่วนคิดค้นนวัตกรรมและย้ายไปสู่ระบบเปิดที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายดายผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงแนวทางที่ช่วยให้ทำธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น