Technology IT

ซิสโก้ เผยกลยุทธ์ธุรกิจสู่ตลาด 4 ด้านในปี 2566 เร่งพัฒนาไทยแลนด์ 4.0

ซิสโก้ ประกาศกลยุทธ์และแผนธุรกิจสู่ตลาด (Go-to-market) สำหรับปีงบประมาณ 2566 เพื่อปลดล็อคไทยแลนด์ 4.0 ในงานแถลงข่าวประจำปี โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความยืดหยุ่นด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแอปพลิเคชัน งานแถลงข่าวดังกล่าวมีการเจาะลึกรายละเอียดเกี่ยวกับกลยุทธ์ของ  ซิสโก้ และความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่เอื้อประโยชน์แก่คนทุกกลุ่มในไทย, แผนธุรกิจสู่ตลาดสำหรับประเทศไทย และอัปเดตความเคลื่อนไหวของโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลในประเทศไทย (Country Digital Acceleration – CDA) ของซิสโก้

ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) และการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขันของไทยจะช่วยปลดล็อคมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากถึง 2.5 ล้านล้านบาทต่อปี[1] ภายในปี 2573 จากรายงานผลการศึกษาฉบับล่าสุดเกี่ยวกับโอกาสทางเศรษฐกิจจากการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย  สำหรับปีงบประมาณ 2566 ซิสโก้ได้กำหนดกลยุทธ์และแผนงานธุรกิจสู่ตลาด 4 ด้านโดยร่วมงานกับภาครัฐ ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ ได้แก่ การปรับโฉมแอปพลิเคชัน, การทรานส์ฟอร์มโครงสร้างพื้นฐาน, ความปลอดภัยขององค์กร, การขับเคลื่อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบไฮบริด

  • การปรับโฉมแอปพลิเคชัน: แอปพลิเคชันเป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ลูกค้าไม่ว่าจะในแง่ของวิธีการให้บริการ หรือวิธีที่บริษัทสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า องค์กรในประเทศไทยต้องปรับใหม่ว่าพวกเขาจะสร้างประสบการณ์การใช้งานแอปพลิเคชันที่เหมาะสมที่สุดได้อย่างไร เช่น ใช้งานได้เร็วขึ้น, ลดต้นทุนและความล่าช้าของเครือข่าย และการจัดการง่ายขึ้น นวัตกรรม full-stack observability ของซิสโก้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้มองเห็นกระบวนการทำงานของแอปพลิเคชันทั้งหมด รวมถึงให้ข้อมูลเชิงลึก และแนะนำการดำเนินการอย่างครบถ้วนสำหรับทีมปฏิบัติการเพื่อประเมินประสิทธิภาพของอินเทอร์เน็ต เครือข่ายคลาวด์ และบริการแอปพลิเคชันเพื่อให้ผู้ใช้ปลายทางได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
  • ทรานส์ฟอร์มโครงสร้างพื้นฐาน: ในสภาพแวดล้อมที่เน้นแอปเป็นหลัก เครือข่ายเปรียบเสมือนระบบประสาทที่ช่วยให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันได้ ปัจจุบันมีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 20,000 ล้านเครื่อง และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 29,000 ล้านเครื่องภายในปี 2566 แต่ละอุปกรณ์จะมีจุดเชื่อมต่อ ทำให้เครือข่ายทำงานหนักมากขึ้น และจะต้องได้รับการจัดการแบบเรียลไทม์ องค์กรจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานโดยเน้นเครือข่ายเป็นหลัก โดยการสร้างและปรับใช้นโยบายที่เน้นการจัดการแบบอัตโนมัติเพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่น สถาปัตยกรรม Secure Access Service Edge (SASE) ของซิสโก้รวมฟังก์ชันเครือข่ายและความปลอดภัยในระบบคลาวด์เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้กับแอปและข้อมูลในทุกสภาพแวดล้อมจากทุกที่ และบริหารจัดการการเข้าถึงโดยบังคับใช้ชุดความปลอดภัยระดับองค์กรที่สอดคล้องกัน
  • ความปลอดภัยขององค์กร: ในโลกของการทำงานแบบไฮบริด การรักษาความปลอดภัยไม่เพียงมีความสำคัญแต่ยังมีความซับซ้อนมากขึ้น ด้วยประสบการณ์การรักษาความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ที่รักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใช้แอปพลิเคชัน และอุปกรณ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรในไทยในการสร้างความคล่องตัวและความยืดหยุ่นทางธุรกิจ โดย Cisco Security Cloud ได้นำเสนอแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับการรักษาความปลอดภัยแบบ end-to-end ในสภาพแวดล้อมทั้งแบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ โดยช่วยให้องค์กรปกป้องและป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลาได้
  • ขับเคลื่อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบ Hybrid: การทำงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำงานที่ไหนอีกต่อไป แต่อยู่ที่ว่าคุณกำลังทำอะไร ในโลกใหม่ของการทำงานแบบไฮบริด พนักงานจะทำงานจากที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่ใดก็ได้ องค์กรต้องใช้เทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับพนักงานทุกคนในทุกสถานการณ์ผ่านเครือข่าย การทำงานร่วมกัน และการรักษาความปลอดภัย โดยซิสโก้มีนวัตกรรมแบบ end-to-end ที่สามารถตรวจสอบการใช้งาน รักษาความปลอดภัยในการทำงานร่วมกัน และรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงจากการติดต่อสื่อสารทุกประเภทได้อย่างราบรื่น

ทวีวัฒน์ จันทรเสโน กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประเทศไทย และพม่า กล่าวว่า “ประเทศไทยกำลังอยู่บนเส้นทางของการเร่งพัฒนาด้านเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค ในขณะที่กำลังวางแผนกรเติบโตในเฟสต่อไป องค์กรและธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินงานเพื่อก้าวให้ทันกับเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเฟื่องฟู ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือ ความรู้ และความเชี่ยวชาญที่ส่งผลต่อความสำเร็จ ซิสโก้ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลและพันธมิตรในอีโคซิสเต็มของเราเพื่อสร้างนวัตกรรมสำหรับอนาคต ปลดล็อกโอกาสของไทยแลนด์ 4.0 และขับเคลื่อนอนาคตของทุกคน”

Intel เร่งพัฒนานวัตกรรมสำหรับนักพัฒนาด้วยแนวทางที่เปิดกว้างแบบ Software-First

เพื่อสนับสนุนประเทศไทยและวิสัยทัศน์ของรัฐบาลด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ซิสโก้ได้เริ่ม “โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัล (CDA Program)” ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 โดยให้ความสำคัญกับ 4 ด้านหลักได้แก่: Connected Healthcare, 5G สำหรับองค์กร, สมาร์ทซิตี้และระบบขนส่ง, ความปลอดภัยทางไซเบอร์

ที่งาน Cisco Thailand Media Kick-off ประจำปี 2565 ซิสโก้ได้นำเสนอไฮไลท์ที่สำคัญของโครงการที่กำลังดำเนินการภายใต้ Connected Healthcare และ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ดังนี้:

  • Connected Healthcare: ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระดับสูงสุด ซิสโก้ทำงานร่วมกับกรมควบคุมโรคเพื่อควบคุมอุณหภูมิและการจัดเก็บวัคซีนโควิด-19 ให้คงประสิทธิภาพสูงสุดระหว่างการใช้งาน ด้วยความร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายวัคซีน ซิสโก้ได้นำเสนอโซลูชัน Meraki ให้กับโรงพยาบาล 10 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยทางกายภาพสำหรับการจัดเก็บวัคซีน การใช้วัคซีนอย่างยืดหยุ่นด้วยการกระจายวัคซีนแบบโมบายล์ และการมอนิเตอร์ทราฟฟิกแบบรีโมทซึ่งช่วยในการรักษาระยะห่างทางสังคม กล้องอัจฉริยะและเซ็นเซอร์ของ Cisco Meraki จะจำกัดการเข้าถึงวัคซีนที่ไม่ได้รับอนุญาต รักษาการควบคุมการบริหารวัคซีนอย่างมีคุณภาพ และควบคุมระบบเปิด-ปิดประตูตู้จัดเก็บวัคซีน โดยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำงานได้อย่างราบรื่นบนแดชบอร์ดแบบรวมศูนย์ที่จัดการบนคลาวด์ สถาปัตยกรรมบนคลาวด์ของ Meraki ทำให้สามารถตรวจสอบและแจกจ่ายวัคซีนสำหรับสถานที่ที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนมากที่สุดนอกเหนือจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ช่วยในการจัดส่งทางไกล และลดจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค
  • ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity): การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศเป็นสิ่งสำคัญท่ามกลางภัยคุกคามที่พัฒนาตลอดเวลา โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงคือ อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas) ซิสโก้กำลังทำงานร่วมกับบริษัท Oil & Gas ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเพื่อประเมินและพัฒนาความสามารถของ Security Operations Center (SOC) ที่ตรงตามหลักการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบการจัดการ การตรวจจับภัยคุกคามและการตอบสนอง รวมทั้งระบบข่าวกรองภัยคุกคาม ซิสโก้ได้แต่งตั้งทีมที่ปรึกษาโดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ขององค์กรเพื่อประเมินความสามารถในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัย เคสที่ประสบความสำเร็จ ปรับแต่งการเรียนรู้ และให้คำแนะนำให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ

โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัล (CDA Program) เป็นความร่วมมือที่เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับรัฐบาลทั่วโลก เพื่อช่วยปลดล็อกคุณค่าของ digitalization และสร้างมูลค่าใหม่ ๆ ให้กับประเทศ อุตสาหกรรม และประชากรในประเทศนั้น ๆ ปัจจุบันซิสโก้ทำงานร่วมกับรัฐบาลระดับชาติ และระดับท้องถิ่นใน 44 ประเทศ โดยมีโครงการที่ดำเนินการอยู่ หรือที่ดำเนินการแล้วเสร็จมากกว่า 1,400 โครงการ เพื่อเร่งขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลของแต่ละประเทศ รวมถึงความร่วมมือในการพัฒนาโซลูชันที่ล้ำสมัย และการให้บริการดิจิทัลที่จำเป็นแก่ประชากรของแต่ละประเทศ

supersab

Recent Posts

ResMed เผยคนไทย 22% เคยมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เดินหน้าเปิดสำนักงานในไทย ยกระดับสุขภาพการนอนหลับและการหายใจ

ResMed ปักธงบุกตลาดไทย เผยข้อมูลสำคัญพบว่า 22% ของประชากรในประเทศไทย เคยมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) พร้อมสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขและพันธมิตรในประเทศไทย เพื่อยกระดับการเข้าถึงการรักษา ลดความเสี่ยงและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพการนอนและการหายใจ พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ตั้งเป้าหมายช่วยผู้คนกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกใช้ชีวิตเต็มศักยภาพภายในปี 2030 ผ่านเทคโนโลยีการนอนและการหายใจ คาลอส…

1 hour ago

เซ็นทรัลพัฒนา ดันกำลังซื้อ Q4 คึก เดินเกม Loyalty Program แรง กับแคมเปญ “The 1 Point Countdown” ช้อปคุ้มส่งท้ายปี! เริ่มวันนี้-31 ธ.ค. 2567

เซ็นทรัลพัฒนา ตระหนักถึงพฤติกรรมและความต้องการของนักช้อปยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ เปิดตัวแคมเปญ “The 1 Point Countdown แลกน้อย ลดหนัก เริ่มต้นเพียง 100 พอยท์ กับกว่า 1,000 แบรนด์ดังที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ”…

21 hours ago

สิงห์ เอสเตท เผย 9 เดือนแรก ปี 2567 กวาดรายได้กว่าหมื่นล้านบาท เติบโต 13% จากงวดเดียวกัน

สิงห์ เอสเตท (SET:S) ประกาศผลประกอบการงวดเก้าเดือนแรก ของปี 2567 มีรายได้จากธุรกิจหลักรวมทั้งสิ้น 11,431 ล้านบาท โดยเป็น (1) รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 2,534 ล้านบาท…

21 hours ago

ไทย เตรียมขึ้นแท่นเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ฮับชั้นนำของภูมิภาค

JLL ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในการสรรหาที่ดินให้แก่หนึ่งในบริษัทผู้จัดเก็บระบบข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือดาต้าเซ็นเตอร์ บนทำเลทองริมถนนบางนา-ตราด ซึ่งเจแอลแอลได้อาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายระดับสากล ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของบริษัท และองค์ความรู้เชิงลึกด้านตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ ในการอำนวยความสะดวกให้การทำธุรกรรมมีความราบรื่นส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความสำเร็จครั้งนี้ การซื้อที่ดินเพื่อลงทุนทำโครงการดาต้าเซ็นเตอร์บนถนนบางนา-ตราดในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ของผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมในการเป็นดิจิทัลฮับ จากความต้องการบริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น และการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย…

22 hours ago

แมคไทย คว้ารางวัล ‘AMCHAM Corporate Social Impact Awards 2024’ ต่อเนื่องปีที่ 13

นางสาวพัชนีวรรณ ตันประวัติ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท แมคไทย จำกัด รับรางวัลองค์กรที่มีผลงานด้านการสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมดีเด่น ระดับแพลตตินัม จากเวที ‘AMCHAM Corporate Social Impact Awards 2024’…

22 hours ago

AIS ผนึก สตช. ตำรวจไซเบอร์ เปิด “มาตรการระเบิดสะพานโจร” บุกรวบจีนเทา พร้อมเครื่องส่ง SMS ปลอมหลังตระเวนขับส่ง SMS แนบลิงก์ดูดเงินย่านสุขุมวิท

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมกับ AIS โดย นายวรุณเทพ…

1 day ago