Categories: PRTechnology IT

ทีมไทย คว้าแชมป์การแข่งขัน Tech4Good

หัวเว่ยประกาศรายชื่อผู้ชนะการแข่งขันระดับโลก Tech4Good ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยทีม “Are u OK?” ตัวแทนประเทศไทยได้รับรางวัลชนะเลิศจากผลงานโซลูชันสำหรับช่วยให้ผู้ป่วยในประเทศไทยได้รับการรักษาในสถานการณ์ฉุกเฉินรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการใช้นวัตกรรมการวางเส้นทางและการสื่อสารแบบเรียลไทม์ระดับสูงจากเทคโนโลยี 5G, AI และเทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อลดระยะเวลาการขนส่งผู้ป่วยมายังศูนย์การแพทย์ ทั้งยังช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการรอดชีวิตให้แก่ผู้ป่วยอีกด้วย

การแข่งขัน Tech4Good เป็นโครงการใหม่ซึ่งริเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2564 ภายใต้โครงการฝึกอบรม Seeds for the Future อันเป็นโครงการเรือธงของหัวเว่ย โดย Tech4Good จะเปิดให้นักเรียนที่เข้าร่วมได้ระบุถึงปัญหาทางสังคมและเสนอโซลูชันทางเทคนิคเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผ่านทักษะด้านไอซีทีที่พวกเขาได้เรียนรู้จากโครงการนี้ โดยการแข่งขันครั้งนี้ได้รับการออกแบบให้ช่วยบ่มเพาะทักษะด้านความเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีม ด้วยการฝึกฝนและการแข่งขันกันระหว่างกลุ่ม

ไมโครซอฟท์เปิดพรีออร์เดอร์ Surface Pro 8 ใหม่ เริ่ม 25 ม.ค. 65
ซีเค พาวเวอร์ ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอีก 2,800 เมกะวัตต์

โครงการ Seeds for the Future ได้รับการเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2551 เพื่อพัฒนาผู้มีทักษะด้านไอซีที ภายในประเทศนั้นๆ พร้อมกับเชื่อมช่องว่างด้านการสื่อสารและสานวัฒนธรรมระหว่างประเทศต่างๆ โดยเยาวชนจากทั่วทุกมุมโลกจะได้ศึกษาเทคโนโลยีไอซีทีในระดับสูง เสริมสร้างทั้งความเชี่ยวชาญและทักษะที่สามารถนำไปใช้ได้ในสถานการณ์จริง โดยในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 3,500 คน จาก 117 ประเทศ ทำให้มีจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการสะสมทั้งหมดในช่วง 13 ปีที่ผ่านมามากถึง 120,000 คน จาก 139 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โครงการนี้ได้สร้างประโยชน์ให้แก่นักเรียนไทยถึง 215 คนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ

ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานในพิธีมอบรางวัล Tech4Good แคทเธอรีน เฉิน รองประธานอาวุโสและคณะกรรมการบริหารของหัวเว่ย ได้กล่าวถึงความสำเร็จอย่างล้นหลามของโครงการในปีนี้ว่า “การเข้าร่วมโครงการ Seeds for the Future ในปี พ.ศ. 2564 ถือว่าได้ทำลายสถิติที่เราเคยมีมาทั้งหมด โดยเราได้รับข้อเสนอแนะและความสนใจจากผู้เข้าร่วมโครงการอย่างอบอุ่น นอกจากนี้ ดิฉันยังรู้สึกประทับใจในความสนใจอย่างแรงกล้าและความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก” ทั้งนี้ เธอยังได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการที่มุ่งพัฒนาความครอบคลุม ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และการร่วมมือกันภายใต้สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันในระดับนานาชาติ พร้อมทั้งกล่าวถึงวัตถุประสงค์ทางสังคมด้านอื่นๆ อีกด้วย

ในการแข่งขันดังกล่าว ทีมผู้ชนะจะได้เข้ารับคำปรึกษาและคำแนะนำเป็นการส่วนตัวจากคณะผู้บริหารของหัวเว่ย และยังได้รับโอกาสขึ้นกล่าวในงานประชุมระดับนานาชาติและงานอีเวนท์อื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น ทีมที่ชนะเลิศอันดับหนึ่งจะได้รับโอกาสเข้าพบกับนักลงทุนเพื่อนำเสนอโครงการของพวกเขาอีกด้วย

ทีมชนะเลิศ “Are u OK?” จากประเทศไทยได้นำเสนอโซลูชันที่ชื่อว่า Turning Green ซึ่งมีจุดประสงค์หลักเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่กระบวนการขนส่งผู้ป่วยในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยได้ประยุกต์ใช้ชุดเทคโนโลยีแผนที่ (map kit) เทคโนโลยีคลาวด์ และเทคโนโลยีเสาอัจฉริยะ power cube 500 จากหัวเว่ย เพื่อตอบโจทย์เรื่องการขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉินให้ไปถึงมือแพทย์ที่โรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที ช่วยให้บุคลากรแพทย์สามารถขนส่งผู้ป่วยได้โดยสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รวมทั้งยังสามารถช่วยรองรับโปรเจ็คสมาร์ทซิตี้ในอนาคตของรัฐบาล เป้าหมายของแพลตฟอร์ม Turning Green คือการลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินในระหว่างการขนส่งเนื่องจากประสบปัญหาเรื่องการจราจรติดขัด รวมทั้งช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

ทั้งนี้ โซลูชันดังกล่าวจะให้บริการในรูปแบบแอปพลิเคชันแก่โรงพยาบาลและรถพยาบาลอัจฉริยะ โดยจะใช้โมเดลธุรกิจในรูปแบบการเก็บค่าบริการแบบสมัครสมาชิกจากในแอปพลิเคชัน

ภายในพิธีมอบรางวัล เอกพงษ์ หริ่มเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยังได้กล่าวแสดงความยินดีกับความสำเร็จและชัยชนะของทีมจากประเทศไทยว่า “ผมขอขอบคุณนิสิตและนักศึกษาทุกคนสำหรับความตั้งใจและความพยายามอย่างหนักในการพัฒนาโครงการที่มีแนวคิดดีๆ เช่นนี้ และต้องขอขอบคุณหัวเว่ยในการจัดโครงการเพื่อสังคมที่มีคุณภาพ ทั้งยังช่วยบ่มเพาะทักษะทางไอซีทีของบุคลากรในประเทศไทยอีกด้วย”

การพัฒนาทักษะทางดิจิทัลนั้นเป็นสิ่งที่หัวเว่ยเน้นย้ำในเชิงยุทธศาสตร์มาโดยตลอด โดยในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ประเทศไทยได้จัดโครงการ Seeds for the Future ครั้งที่ 13 มีนิสิตและนักศึกษาทั้งหมด 15 คนที่มีผลงานโดดเด่นจนได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการจากผู้สมัครทั้งหมด 30 คน ประกอบไปด้วยนิสิตและนักศึกษาจากหลากหลายสถาบัน อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยขอนแก่น

สำหรับประเทศไทย กลุ่มนิสิตและนักศึกษาได้เข้าร่วมโครงการอบรมหลักสูตรเข้มข้นรวมทั้งหมด 8 วันทั้งในรูปแบบออนไลน์และห้องเรียน ซึ่งการอบรมในห้องเรียนนั้นมีหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นความรู้พื้นฐานด้านเทคโนโลยี 5G ความรู้ด้านเทคโนโลยี Cloud และ AI วัฒนธรรมจีนดั้งเดิม การแบ่งปันประสบการณ์กับผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการ Seeds พร้อมเข้าเยี่ยมชมศูนย์ Thailand 5G Ecosystem Innovation Center (5G EIC)

ในประเทศไทย มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะมีสัดส่วนมากถึง 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ภายในปี พ.ศ. 2573 และประเทศไทยกำลังขึ้นเป็นผู้นำของภูมิภาคอาเซียนอย่างรวดเร็วในด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี 5G และแอปพลิเคชันต่างๆ สำหรับภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ติดตั้งสถานีฐานสำหรับเทคโนโลยี 5G ไปแล้วกว่า 20,000 สถานี โดยมีผู้ใช้ 5G จำนวน 4.2 ล้านคน อัตราความครอบคลุมของเทคโนโลยี 5G ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และกรุงเทพมหานคร เกิน 70%

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองเทคโนโลยี 5G ชั้นนำใน 10 อันดับแรกของโลกจากองค์กรกำกับดูแลมาตรฐานการสื่อสาร (GSMA) ในขณะเดียวกัน หัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อเร่งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย อันได้แก่ ภาคการเกษตร ภาคสาธารณสุข และภาคอุตสาหกรรมการผลิต

ภายใต้พันธกิจ “เติบโตในประเทศไทยและสนับสนุนประเทศไทย” หัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศไทย และเตรียมบุคลากรด้านไอซีทีสำหรับประเทศไทยในยุคดิจิทัล ซึ่งในปี พ.ศ. 2562 ได้มีการก่อตั้งสถาบัน Huawei ASEAN Academy (ประเทศไทย) ด้วยเงินลงทุนประมาณ 180 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อฝึกฝนผู้มีความสามารถด้านไอซีทีจำนวน 100,000 คนสำหรับประเทศไทยภายในช่วงเวลา 5 ปี และจนถึงขณะนี้ หัวเว่ยได้จัดฝึกอบรมด้านดิจิทัลสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีทีไปแล้วกว่า 41,000 รายและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) อีกกว่า 1,300 ราย

supersab

Recent Posts

“โค้ก” ซีโร่ กลิ่นวานิลลา: เขย่าตลาดเครื่องดื่ม เติมความซ่าส์ หอมหวานลงตัว เอาใจ Gen Z

โค้ก โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย สร้างความฮือฮาให้กับตลาดเครื่องดื่มอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "โค้ก" ซีโร่ กลิ่นวานิลลา ความอร่อยใหม่ที่ผสานความซ่าส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ "โค้ก" เข้ากับความหอมหวานละมุนละไมของวานิลลาได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือมาในสูตรไม่มีน้ำตาล ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen…

10 hours ago

Epson ประกาศแต่งตั้ง โยชิดะ จุนคิชิ ขึ้นแท่นผู้นำคนใหม่

บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น (Epson) ประกาศแต่งตั้ง โยชิดะ จุนคิชิ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและตัวแทนผู้อำนวยการ (President and Representative Director) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (Chief…

10 hours ago

รฟม. ลุยตรวจเข้ม ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีม่วง

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดย กองสิ่งแวดล้อม ฝ่ายพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง ช่วงเวลากลางคืน การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ โดยเริ่มตั้งแต่จุดก่อสร้าง Cut…

11 hours ago

LINE MAN MART ผนึกกำลัง Lotus’s และ Lotus’s go fresh ขยายบริการช้อปปิ้งออนไลน์สู่ 1,400 สาขา จัดเต็มส่วนลดสุดปังทุกสัปดาห์!

LINE MAN ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Lotus’s และ Lotus’s go fresh ขยายฐานบริการ LINE MAN MART ให้ครอบคลุมกว่า 1,400 สาขาทั่วประเทศ…

15 hours ago

พฤกษา จับมือ รพ.วิมุต มอบสิทธิพิเศษดูแลสุขภาพลูกบ้านตลอดปี 2568 ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯ สร้างชุมชนสุขภาพดี

พฤกษา ผนึกกำลัง โรงพยาบาลวิมุต มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพครบวงจรให้ลูกบ้านตลอดปี 2568 ภายใต้แนวคิด "สุขภาพดีเริ่มต้นที่บ้าน" จิตชญา ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง…

15 hours ago

HONOR Magic7 Pro 5G ยอดขายพุ่งทะยาน 2.4 เท่า สะท้อนความเชื่อมั่นเทคโนโลยี AI

ออเนอร์ (HONOR) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป HONOR Magic7 Pro 5G ที่สร้างยอดขายเติบโตสูงถึง 2.4 เท่า นับตั้งแต่เปิดให้พรีออเดอร์เมื่อวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568…

15 hours ago