Technology IT

สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล

สปสช. เพิ่มศักยภาพไอทีและเทคโนโลยีดิจิทัลบนคลาวด์กลางภาครัฐ “GDCC” พัฒนายกระดับบริการบัตรทองยุคใหม่ตอบสนองวิถีชีวิตนิวนอร์มอล พร้อมขยายนวัตกรรมเพิ่มโอกาสคนไทยเข้าถึงบริการสุขภาพวิถีใหม่

ประเทือง เผ่าดิษฐ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช) ฝ่ายบริหารเทคโนโลยีและเครือข่าย การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัลและนวัตกรรมข้อมูลอัจฉริยะ ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ “บัตรทอง 30 บาท” เพื่อคนไทยผู้มีสิทธิ์กว่า 46 ล้านคนได้รับการรักษาพยาบาลโดยทั่วถึง กล่าวว่าเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนบริการ 30 บาท ในสภาพสังคมไทยยุคหลังโควิด ทั้งนี้เนื่องจากวิถีนิวนอร์มอลซึ่งคนเปลี่ยนมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้นแต่เลี่ยงการไปโรงพยาบาล ขณะที่โรงพยาบาลได้หันมาเพิ่มบริการเทเลเมดและรูปแบบบริการสุขภาพใหม่ๆ เพิ่มความสะดวกในแบบวิถีใหม่ต่างไปจากยุคเดิม ซึ่งในส่วน สปสช ได้พัฒนาการให้บริการบัตรทองให้สอดคล้องวิถีดังกล่าว เน้นลดข้อจำกัดการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และเพิ่มสิทธิประโยชน์บริการรูปแบบใหม่ๆ โดยที่เปิดบริการแล้ว เช่น การลงทะเบียนย้ายหน่วยบริการได้สิทธิ์ทันทีจากเดิมที่ต้องรอ 15 วัน นโยบายมะเร็งเข้ารักษาที่ไหนก็ได้ไม่ต้องมีใบส่งตัวจากจังหวัด และนโยบายให้ผู้ป่วยในแอดมิทในโรงพยาบาลนอกพื้นที่ได้โดยไม่ต้องกลับไปเอาใบส่งตัว ฯลฯ รวมถึงแผนอนาคตที่มุ่งขยายโอกาสให้ผู้ใช้สิทธิ์ทั่วประเทศเข้าถึงบริการอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ขับเคลื่อน ‘นวัตกรรมบริการวิถีใหม่’ รองรับนิวนอร์มอลอย่างยั่งยืน

“จากบริการใหม่ในช่วงโควิดที่เกิดขึ้นด้วยความจำเป็นเช่น การจัดชุดคัดกรอง ATK ให้ประชาชนรับไปตรวจเองผ่านทางร้านยา สปสช.ได้ต่อยอดเป็น ‘นวัตกรรมบริการวิถีใหม่’ หลักคิดคือใช้พฤติกรรมและความสะดวกของผู้ป่วยเป็นตัวตั้ง และหาวิถีทางสนับสนุนบริการเพื่อตอบโจทย์ให้ตรงจุดที่สุด” ทั้งนี้โดย สปสช.ได้มุ่งมั่นผลักดันการเพิ่มจำนวนหน่วยบริการปฐมภูมิที่ตั้งอยู่ในชุมชนต่างๆ เข้าร่วมในระบบบัตรทองเพื่อเป็นช่องทางกระจายการบริการสู่ทั่วประเทศ ประชาชนจะเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลเบื้องต้นที่ครอบคลุมมากขึ้นได้จากคลินิกและร้านยาใกล้บ้านแทนการต้องเดินทางไกลไปโรงพยาบาลและรอคิวนาน โดยล่าสุด สปสช.ได้เปิดบริการแล้วทั้งสิ้น 8 นวัตกรรมบริการวิถีใหม่ ได้แก่ ร้านยา คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม รถทันตกรรมเคลื่อนที่ และคลินิกแพทย์แผนไทย โดยหน่วยบริการเหล่านี้ยังเป็นช่องทางให้กับการส่งเสริมการดูแลสุขภาพตัวเองของประชาชนได้ในระยะยาวอีกด้วย

ทั้งนี้ การพัฒนานวัตกรรมบริการต่างๆ เพิ่มการเข้าถึงสิทธิ์บัตรทองผ่านช่องทางหลากหลาย เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายและนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขในการอัปเกรดสิทธิบัตรทองด้วยนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ซึ่งต้องการศักยภาพเชื่อมโยงข้อมูลขนาดใหญ่ วิสัยทัศน์ด้านไอที สปสช.ได้คาดการณ์ว่าเมื่อขยายบริการเพิ่มขึ้นจะส่งผลเพิ่มข้อมูลจำนวนมากในระบบไอทีซึ่งการรองรับด้วยดาต้าเซ็นเตอร์ไม่เพียงพอ โครงสร้างพื้นฐานไอทีที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพสูงจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ โดย สปสช ได้ใช้ระบบคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC (Government Data Center and Cloud service) และจุดแข็งของระบบคลาวด์ที่ขยายได้ไม่จำกัด สนับสนุนการดำเนินงานไอทีให้รองรับได้

เพิ่มศักยภาพรับข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยระบบไอทีบนคลาวด์ GDCC

ประเทือง กล่าวเพิ่มเติมถึงการเตรียมระบบไอทีต้องพร้อมรับข้อมูลจากนวัตกรรมบริการต่างๆ เน้นการพิสูจน์ตัวตนก่อนรับบริการและการเบิกจ่ายเป็นระบบหลักที่สำคัญ การ Authentication สำคัญมากทั้งฝั่งคนไข้ที่ต้องทำการเสียบบัตรประชาชนเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนว่ามารับบริการจริง และฝั่งหน่วยบริการที่จะต้องยืนยันให้ตรงกันด้วยเพื่อเบิกจ่ายไม่ผิดพลาด ตรงนี้เป็น work load พอสมควรโดยหากมองภาพย้อนไปไม่ต่างจากช่วงโควิด 19
“ช่วงโควิดเราใช้ดาต้าเซ็นเตอร์จะพบปัญหาระบบล่มเมื่อผู้ใช้สิทธิ์พร้อมกันจำนวนมากทำให้ สปสช.เริ่มใช้คลาวด์ โดยระบบแรกๆ ที่เริ่มย้ายขึ้นคลาวด์คือ Authentication หรือระบบพิสูจน์สิทธิ์ผู้ใช้บริการ และระบบเบิกจ่ายซึ่งต้องทำงานสัมพันธ์กัน ปัจจุบันเราใช้คลาวด์ GDCC พิสูจน์ตัวตนได้ในเวลาไม่ถึง1นาที และระบบสามารถ Auto Extend รับข้อมูลพีคไทม์ช่วงเช้าได้รวดเร็วคนไข้จึงไม่ต้องใช้เวลาเข้าคิวรอนาน ทุกวันนี้ สปสช.รับข้อมูลคนไข้ 1 ล้านทรานแซกชันต่อวันจากโรงพยาบาลและหน่วยบริการต่างๆ ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม วันนี้การเพิ่มนวัตกรรมวิถีใหม่เต็มรูปแบบถือเป็นโหลดงานมากและท้าทายยิ่งขึ้นอีกระดับ โดยโจทย์ใหญ่ของระบบงานไอทีคือเมื่อมีบริการเพิ่มขึ้นจะต้องสามารถรักษาคุณภาพงานพิสูจน์การใช้สิทธิ์และการเบิกจ่ายที่รวดเร็วให้ได้ รวมถึงต้องปรับกลไกการเงินให้สอดคล้องกับนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้รองรับเป้าหมายสำคัญคือการเบิกจ่ายที่รวดเร็วใน 72 ชม. ซึ่งขณะนี้นำร่องใน 4 จังหวัด ร้อยเอ็ด แพร่ เพชรบุรี นราธิวาส ล่าสุดขยายเพิ่ม 8 จังหวัด เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, สิงห์บุรี, สระแก้ว, หนองบัวลำภู, นครราชสีมา, อำนาจเจริญ และพังงา โดยมีเป้าหมายขยายเพิ่มทั่วประเทศภายในกันยายน ทั้งนี้ สปสช. ใช้เทคโนโลยีช่วยให้การเบิกจ่าย รวดเร็วและถูกต้อง จากเมื่อก่อนที่ระบบล่ม วันนี้ สปสช.มั่นใจการเพิ่มศักยภาพพร้อมรับมือด้วยคลาวด์ GDCC ซึ่งหัวใจคือการเชื่อมโยงข้อมูลระบบทั่วประเทศ โดยเราเปลี่ยนจากการส่งข้อมูลแบบเดิมซึ่งช้า เป็นแบบใหม่คือเชื่อมระบบข้อมูลของหน่วยบริการเข้ามาที่ สปสช. เพื่อข้อมูลส่งได้เร็วขึ้น บวกกับเริ่มใช้ AI Audit ตรวจสอบการส่งเบิกให้ได้เร็วขึ้นเพื่อสามารถจ่ายเงินได้เร็วขึ้น”

คลาวด์เชื่อมโยง สปสช. สื่อสารใกล้ชิดเข้าถึงประชาชนรองรับการขับเคลื่อน Self -Care

การสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคให้กับคนไทย 67 ล้านคนทั่วประเทศ เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักที่ สปสช ต้องทำให้คนไทยทั่วประเทศทั้งผู้มีสิทธิ์และไม่ได้มีสิทธิ์บัตรทองสามารถดูแลสุขภาพตัวเองได้ผ่านหน่วยบริการใกล้บ้าน อย่างสะดวกสอดคล้องกับวิถีชีวิตปัจจุบัน ใช้ค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุดและไม่เป็นภาระครอบครัว ทั้งนี้ มุ่งใช้นวัตกรรมบริการวิถีใหม่ร่วมกับหลัก Self-Care เป็นเครื่องมือในการขยายบริการที่ทั่วถึงและบริหารใช้จ่ายงบประมาณเพื่อสุขภาพประชาชนอย่างคุ้มค่าเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยในหลักของ Self-Care สิ่งที่ สปสช.ต้องทำคือคืนข้อมูลสุขภาพให้ประชาชนและปัจจุบันนี้ทำได้ด้วยเทคโนโลยีของคลาวด์

“ที่ผ่านมาระบบดาต้าเซ็นเตอร์บนเซิร์ฟเวอร์ของ สปสช.เป็นข้อจำกัดที่ไม่สามารถนำข้อมูลให้ประชาชนได้ แต่บนคลาวด์ประชาชนเข้าถึง สปสช.และ สปสช.สื่อสารเข้าหาประชาชนได้โดยตรงเราสามารถคืนข้อมูลให้ประชาชนได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน“สปสช.1330” และผ่านทางไลน์ ทั้งนี้ การผลักดัน Self-Care ไม่เพียงการคืนข้อมูลการรักษาพยาบาล แต่สำคัญคือการให้ข้อมูลความรู้สุขภาพโดยเฉพาะเกี่ยวกับโรคร้ายแรงต่างๆ พร้อมกับอุปกรณ์ชุดคัดกรองเพื่อประชาชนสามารถทำ Self-Screening โดยคัดกรองโรคที่เสี่ยงหรือโรคที่ใช้จ่ายค่ารักษาแพงๆได้ด้วยตัวเอง”

นอกจากนี้ ช่องทางการสื่อสารของ สปสช.ยุคใหม่ที่รองรับผู้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ยังรวมถึงการพัฒนาเว็บไซต์หน่วยงานที่มีความเสถียร และคอนแท็กเซ็นเตอร์ 1330 ที่บริการข้อมูลให้กับประชาชนในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์และช่องทางโซเชียลมีเดีย ร่วมกับการใช้ AI ช่วยในการค้นหาข้อมูลและตอบปัญหาต่างๆได้อย่างรวดเร็วขึ้นด้วย

ผสานเทคโนโลยี Big Data ดูแลสังคมไทยสูงอายุ

ประเทือง ได้กล่าวถึงการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากที่ใช้เทคโนโลยีคลาวด์และ AI เข้ามาเพิ่มความเร็วการทำงาน ว่า สปสช.ต้องรองรับโจทย์สำคัญในอนาคตที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุเต็มขั้นซึ่งท้าทายการใช้เทคโนโลยีในอีกระดับ ด้วยแนวคิดการใช้เทคโนโลยี Big Data มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและกำหนดนโยบาย ควบคู่ไปกับนโยบายหลักที่รองรับด้วยการจัดบริการผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพให้มีค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด และเน้นการดูแลที่ใกล้ชิดผ่านครอบครัว ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แทนการจ่ายเงินให้โรงพยาบาล

“โดยเฉลี่ยปีหนึ่งๆ ระบบ สปสช.รับข้อมูลสุขภาพ 200 ล้านทรานแซกชันจากผู้ใช้บริการบัตรทอง โดยมีผู้ใช้สิทธิ์จากเริ่มเปิดบริการรวมแล้วกว่า 42 ล้านคนที่วันนี้เป็นข้อมูลมหาศาลอยู่บนคลาวด์ GDCC หากใช้คลาวด์เอกชนจะเป็นค่าใช้จ่ายไม่น้อยขณะที่คลาวด์กลางภาครัฐช่วยประหยัดงบประมาณของ สปสช. รวมทั้งมีเครื่องมือซอฟแวร์ต่างๆ ด้าน Big Data ซึ่งยังเป็นความท้าทายที่ สปสช.จะใช้ Big data เหล่านี้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เพื่อการกำหนดนโยบายดูแลสังคมสูงอายุที่เพิ่มความแม่นยำตรงเป้าหมาย และสอดคล้องสภาพความเป็นจริงปัจจุบันของสังคมไทยมากที่สุด”

AIS ชู พลังจากสุดยอดพันธมิตร ช่องทางจัดจำหน่าย ที่ 1 ตัวจริง พร้อมส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลจากมือถือและเน็ตบ้านที่ดีที่สุดให้กับคนไทย

supersab

Recent Posts

โซนี่ไทยเปิดตัว BRAVIA 9 และ BRAVIA 8 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อม BRAVIA Theatre Bar รุ่นล่าสุด

บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดตัวทีวีบราเวีย (BRAVIA) รุ่นใหม่ล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Cinema is Coming Home" โดยเน้นความสว่างสูงสุดและคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด มอบประสบการณ์การรับชมเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ นำทีมโดยรุ่นเรือธงอย่าง…

8 hours ago

True ออกหุ้นกู้ ดอกเบี้ย [2.85 – 4.30]% ต่อปี ความน่าเชื่อถือระดับ “A+” คาดเปิดให้จองซื้อ 27 – 29 สิงหาคม 67

True เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป จำนวน 5 ชุด อายุหุ้นกู้ตั้งแต่ 1 ปี 3 เดือน ถึง 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [2.85…

9 hours ago

Xiaomi ประกาศวางจำหน่ายแท็บเล็ต Xiaomi Pad 6S Pro และ Redmi Pad Pro พร้อมด้วยสมาร์ทโฟน Redmi 13 ในไทย

Xiaomi ประกาศวางจำหน่ายแท็บเล็ต 2 รุ่น ประกอบด้วย Xiaomi Pad 6S Pro แท็บเล็ตที่ถูกดีไซน์มาเพื่อการอ่านและการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และ Redmi Pad Pro แท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงบนหน้าจอขนาดใหญ่…

9 hours ago

ละมุน เบบี้ ปลื้ม 6 เดือนแรกเป้าตามคาด คว้าเป้ยและน้องโปรดเป็นพรีเซนเตอร์

ละมุน เบบี้ เผยรายได้ 6 เดือนแรกเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 30% คาดปิดรายได้ปีนี้ตามคาดที่ 250 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวเป็นพรีเซนเตอร์ เป้ย ปานวาดและน้องโปรด มั่นใจช่วยเสริมทัพกระแสการดูแลสุขภาพในกลุ่มเด็กโต เป็นการเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ให้ละมุนอีกด้วย เนตรนพิศ…

9 hours ago

Samsung อัปโปรเพิ่มรับเลยส่วนลด 5,000 บาท สั่งจองล่วงหน้า Galaxy Z Fold6 l Z Flip6 พร้อมรับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ

ชาวพับห้ามพลาด! Samsung มอบส่วนลดเพิ่ม 5,000 บาท สำหรับลงทะเบียนสั่งจองล่วงหน้า Galaxy Z Fold6 l Z Flip6 เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนจอพับก่อนใคร พร้อมรับสิทธิพิเศษอีกเพียบ! Galaxy…

9 hours ago

กฟผ.จับมือ AIT และ CSU ร่วมศึกษาพัฒนาแผงโซลาร์เซลล์ชนิด Edge Sealed Modules

นายทิเดช เอี่ยมสาย รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วยศาสตราจารย์นิติน ตรีปาธี (Prof. Nitin Tripathi) รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) และศาสตราจารย์เคนเน็ธ เรียร์ดอน…

9 hours ago