หัวเว่ยได้ระบุเทรนด์สิบข้อสำหรับอุตสาหกรรมเครือข่ายไร้สาย ซึ่งจะช่วยกำหนดทิศทางของเครือข่ายสัญญาณไร้สายแห่งอนาคต และเตรียมความพร้อมให้กับอุตสาหกรรมสู่ Intelligent World 2030 หรือโลกแห่งความอัจฉริยะปี พ.ศ. 2573
เดวิด หวัง กรรมการบริหารและประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันทางด้าน ไอซีที ของหัวเว่ย อธิบายว่า ภายในปี พ.ศ. 2573 โลกแห่งความจริงและโลกเสมือนจะผสานกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดประสบการณ์ที่เสมือนจริงยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา ในขณะที่เศรษฐกิจดิจิทัลจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของระบบเศรษฐกิจ และภาคอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนมาให้ความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการตัดสินใจแทนที่ประสิทธิภาพของตัวอุปกรณ์ แต่ความก้าวหน้าเหล่านี้จำเป็นจะต้องอาศัยความปลอดภัยภายในเครือข่ายอย่างยิ่งยวด รวมถึงยังต้องพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งจะช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย ก่อนกล่าวสรุปถึงเทรนด์ทั้ง 10 ข้อสำหรับอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือในช่วงทศวรรษหน้า ดังนี้
เทรนด์ที่ 1: ความเร็วระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาที เพื่อการผสานกันของโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือน
การสื่อสารดิจิทัลจะถูกนำมาใช้เพื่อขยายและเชื่อมต่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างมนุษย์อย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ผ่านการส่งต่อประสบการณ์หลากหลายประสาทสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น เสียง ภาพ สัมผัส หรือกลิ่น โดยระบบการสื่อสารแบบไร้สายทุกแห่งจำเป็นต้องมีสัญญาณครอบคลุมพร้อมความเร็วระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาทีและความหน่วงระดับมิลลิวินาที เพื่อรองรับฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้ในอนาคต
เทรนด์ที่ 2: เครือข่ายหนึ่งเดียวเพื่อการเชื่อมต่อ IoT แบบครอบคลุมทุกสถานการณ์
สังคมดิจิทัลจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์กับอุปกรณ์ (thing-to-thing) กว่าแสนล้านการเชื่อมต่อ ซึ่งระบบการสื่อสารแบบไร้สายจะต้องรองรับให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยเครือข่ายต่างๆ จะถูกขับเคลื่อนด้วย IoT แบบครอบคลุมทุกสถานการณ์เป็นหลัก และต้องเริ่มส่งมอบบริการการเชื่อมต่อใหม่ๆ ที่แตกต่างกันไปตามความเร็วและเงื่อนไขความต้องการใช้งาน
เทรนด์ที่ 3: การเชื่อมต่อแบบครอบคลุมทุกมิติ ด้วยการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมควบคู่สัญญาณภาคพื้น
การส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมควบคู่สัญญาณภาคพื้น จะช่วยอุดช่องโหว่ด้านความครอบคลุมของสัญญาณภาคพื้นยิ่งขึ้น ทั้งยังเสริมการส่งสัญญาณแบบสามมิติครอบคลุมพื้นที่น่านฟ้า ซึ่งจะช่วยพัฒนาการสื่อสาร การควบคุมโดรนและอากาศยานอื่นๆ ได้ในอนาคต ในขณะที่ระบบการสื่อสารแบบไร้สายเองก็มีแนวโน้มที่จะถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านดาวเทียมใหม่ๆ ต่อไป
เทรนด์ที่ 4: เทคโนโลยีเซ็นเซอร์และการสื่อสารแบบควบรวม เพื่อสร้างประสบการณ์จำลองแบบดิจิทัลเสมือนจริง
เทคโนโลยีเซ็นเซอร์และการสื่อสารจะถูกผสานควบรวมกันยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยจำลองให้เกิดประสบการณ์ดิจิทัลที่คล้ายคลึงกับโลกแห่งความเป็นจริงได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังช่วยเสริมศักยภาพการขับขี่แบบอัตโนมัติและการจัดการโดรนในระดับสูง
เทรนด์ที่ 5: ความอัจฉริยะในทุกอุตสาหกรรมและทุกการเชื่อมต่อ
เครือข่ายไร้สายจะถูกผสานเข้ากับเทคโนโลยี AI อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้เกิดเป็นเครือข่ายระบบการควบคุมอัตโนมัติระดับ 5 เต็มรูปแบบ (Full Driving Automation) ซึ่งจะต่อยอดไปรองรับการปฏิบัติการและการบํารุงรักษา (O&M) แบบอัตโนมัติ มอบประสบการณ์ที่พรีเมียมยิ่งขึ้น และลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้ได้มากที่สุด
เทรนด์ที่ 6: เครือข่ายสีเขียวที่เชื่อมต่ออย่างครบวงจรและเต็มวัฏจักร
เมื่อปริมาณการรับส่งข้อมูลในเครือข่ายเติบโตขึ้นอีก 100 เท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ความต้องการโซลูชันที่สามารถลดการใช้พลังงานของเครือข่ายก็จะเติบโตขึ้นในอัตราเทียบเท่ากัน ประสิทธิภาพการใช้พลังงานต่อบิตก็จะต้องได้รับการพัฒนาขึ้นในอัตราที่สอดคล้องกันตามไปด้วย
เทรนด์ที่ 7: คลื่นความถี่ต่ำกว่า 100 กิกะเฮิรตซ์ที่ไม่กำหนดตายตัว
ภายในปี พ.ศ. 2573 หลายประเทศจะต้องการแบนด์วิดท์ของย่านความถี่ระดับกลาง 2 กิกะเฮิรตซ์ และแบนด์วิดท์บนคลื่นมิลลิเมตร (Millimeter Wave) ที่สูงกว่ากว่า 20 กิกะเฮิรตซ์ เพื่อรองรับจำนวนการรับส่งข้อมูลที่เพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมจำเป็นจะต้องส่งเสริมวิวัฒนาการจากคลื่นความถี่ต่ำกว่า 100 กิกะเฮิรตซ์ (sub-100 GHz spectrum) ให้ไปสู่ยุค NR (New Radio) และสร้างนิยามใหม่ของการใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่ โดยการบูรณาการหลายย่านความถี่เข้าด้วยกัน รวมถึงใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมอื่นๆ เพื่อให้บรรลุการพัฒนาประสิทธิภาพคลื่นความถี่ได้ 10 เท่าตัว
เทรนด์ที่ 8: การใช้เสารับสัญญาณแบบหลายเสาที่ส่งสัญญาณกว้างขึ้นเพื่อลดต้นทุนต่อบิต
ค่าใช้จ่ายของการส่งผ่านข้อมูลต่อบิตจะลดลงเมื่อนำเทคโนโลยีเสารับสัญญาณแบบหลายเสา (multi-antenna) ไปใช้กับทุกย่านความถี่และทุกสถานการณ์ เสารับสัญญาณแบบ Ultra-wideband หรือ UWB จะรองรับการใช้งานร่วมกันของหลายย่านความถี่แบบไม่ตายตัว และเทคโนโลยี Intelligent Reflecting Surface หรือ IRS จะนำเทคโนโลยีเสารับสัญญาณแบบหลายเสาไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้ติดตั้งใช้งานบนเทคโนโลยีคลาวด์แบบประสิทธิภาพสูงได้
เทรนด์ที่ 9: ความปลอดภัยคือรากฐานของอนาคตแห่งโลกดิจิทัล
ความปลอดภัยจากภายในอุปกรณ์และความปลอดภัยที่อัจฉริยะและเรียบง่ายของเครือข่ายจะยิ่งทวีความสำคัญขึ้น เนื่องจากทั่วโลกจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความยืดหยุ่นของเครือข่ายมากยิ่งขึ้น
เทรนด์ที่ 10: เครือข่ายประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบมือถือสำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างเทคโนโลยี Device-Pipe-Cloud
เครือข่ายเคลื่อนที่ในอนาคตจะรองรับบริการที่หลากหลายมากขึ้น เช่น เมตาเวิร์ส (Metaverse) เครือข่ายสำหรับในเขตอุตสาหกรรม และการสื่อสารระบบ V2X หรือระหว่างรถยนต์ไปยังสิ่งอื่นๆ ซึ่งหมายความว่าการประมวลผลจะต้องรวมเข้ากับระบบการสื่อสารไร้สาย เพื่อมอบบริการที่มีคุณภาพสูงและไม่ถูกรบกวนตามความต้องการของผู้ใช้งาน เนื่องจากรูปแบบการบริการเพียงแบบเดียวจะไม่เพียงพอต่อการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ๆ อีกต่อไป
Biztalk Gadget จะมา รีวิว TECNO CAMON 40Pro สมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 7,000 บาท ที่มาพร้อมดีไซน์บาง เบา กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68/69 กล้อง…
โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ (King’s Bangkok) เดินหน้าสานต่อพันธกิจสำคัญในการมอบโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมแก่เยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ประกาศมอบทุน ‘King’s Bangkok Academic Excellence Scholarship’ เป็นปีที่ 3 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนผู้ที่มีศักยภาพให้ได้รับการศึกษาในระดับนานาชาติอย่างเต็มที่ ทุนการศึกษานี้เปิดกว้างสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Year…
ไปรษณีย์ไทย รุกตลาดท่องเที่ยว เปิดตัวบริการใหม่ "Travel Lite by Thailand Post" อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวให้เดินทางตัวเปล่า หมดกังวลเรื่องสัมภาระ สามารถฝากเก็บและรับ-ส่งกระเป๋าเดินทางและสัมภาระต่างๆ ได้ง่ายดาย ในราคาเริ่มต้นเพียง 100 บาท…
ตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ในภาวะผันผวนอย่างหนัก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากนานาประเทศแบบไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกเทขายหุ้นด้วยความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจตามมา เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นใน "วันปลดแอก" (2 เมษายน 2568) เมื่อผู้นำสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ในรอบศตวรรษ โดยกำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำ 10% สำหรับสินค้าจากทุกประเทศที่ส่งเข้ามายังสหรัฐฯ…
ไปรษณีย์ไทย จับมือกับ บริษัท เทคซอส ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) อย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมกันพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีและข้อมูล สู่บริการใหม่ "Data-as-a-Service" หวังสร้างโอกาสทางธุรกิจและยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้บริการในแวดวงโลจิสติกส์ พิธีลงนามจัดขึ้น ณ อาคารภาณุรังษีไปรษณียาคาร สำนักงานใหญ่…
กสทช. เร่งเครื่องโอเปอเรเตอร์ เปิดใช้งานระบบ Cell Broadcast เต็มสูบ รองรับทั้ง Android และ iOS หวังแจ้งเตือนภัยพิบัติประชาชนได้ทันท่วงที แม้ระบบกลางของ ปภ. ยังไม่พร้อม ไตรรัตน์…
This website uses cookies.