AIA เดินหน้ารุกแพลตฟอร์ม ALive เป็นช่องทางเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ที่สนใจด้านสุขภาพ เผยปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 1 ล้านราย ตั้งเป้าปีนี้โตถึง 1.5 ล้านราย มั่นใจเข้าใจเทคโนโลยี เข้าใจลูกค้าดันแบรนด์เป็นเบอร์ 1 ในระยะยาว
หากย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน จะพบว่ายังไม่มีนวัตกรรมเข้ามาตรวจจับสุขภาพมากนัก แต่ในวันนี้เทคโนโลยีด้านสุขภาพมาไกลมาก คนหันมาใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น มองหาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทวอทช์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ใส่ติดตัวกับร่างกาย ขณะเดียวกันก็ยังเก็บข้อมูลสถิติผ่านแอปพลิเคชันได้อีกด้วย
–ALive Powered by AIA เปิดงาน สเตย์ เอ ไลฟ์ ออฟฟิศ แฟร์ อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้
AIA เห็นโอกาสของเทรนด์สุขภาพจึงผลักดันแพลตฟอร์มอย่าง ALive แอปพลิเคชันสำหรับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่สนใจดีแลทั้งสุขภาพกายและใจ
จุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา ดิจิทัล โซลูชันส์ แอนด์ ดีไซน์ เอไอเอ เวลเนส เปิดเผยว่า แอปพลิเคชัน ALive มียอดผู้ใช้ (Active Users) เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่วันที่เปิดตัวในปี 2021 มีผู้เข้ามาใช้งาน 3 แสนบัญชี ในปี 2022 มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป๋น 6 แสนบัญชี จนปัจจุบันมีผู้ใช้ 1 ล้านบัญชี ซึ่ง 90% ของผู้เข้ามาใช้แอปพลิเคชันไม่ได้เป็นลูกค้าของ AIA
และจากการเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ จุฑาภัทร ตั้งเป้าว่าภายในปีนี้จะดึงผู้ใช้เข้ามาใช้แอปถึง 1.5 ล้านบัญชี
“คนตื่นตัวเรื่องสุขภาพมากขึ้น ขณะที่เรามีเป้าหมายอยากให้ทุกคนมีสุขภาพดี ถึงแม้เขาจะยังไม่ได้ซื้อประกันกับเรา”
ข้อมูลแลกประกันชีวิตฟรี
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ AIA ใช้ในการเข้าถึงลูกค้า คือ การผู้ใช้แอปฯ ทุกคนได้รับสิทธิ์ประกันชีวิตฟรี แลกกับการให้ให้ข้อมูลกับทางบริษัท เพื่อให้ AIA นำข้อมูลไปวิเคราะห์ทางการตลาด แยกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่ม เพื่อออกแคมเปญให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
“เป้าหมายของเราคือ การเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้ใช้ AIA เพื่อดูว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีไลฟ์สไตล์อย่างไร ชอบคอนเทนต์แบบไหน จะทำการตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายอย่างไร ซึ่งหากลองใช้แอปพลิเคชันก็จะเห็นว่า Feed ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เพราะคนมีความสนใจไม่เหมือนกัน”
“คอมมูนิตี้ คอนเทนต์ พาร์ทเนอร์” ตัวช่วยส่งขึ้นเบอร์ 1
จุฑาภัทร เชื่อว่าหากจะเป็นเบอร์ 1 ในระยะยาวจำเป็นจะต้องสร้าง คอมมูนิตี้ คอนเทนต์ และ พาร์ทเนอร์ ให้แข็งแกร่ง โดยวิธีการสร้างการรับรู้นั้นเน้นการใช้การตลาดดิจิทัลในการขับเคลื่อนเป็นหลัก รองลงมือคือสื่อ Out of Home และการจัดอีเวนต์
สำหรับด้าน คอมมูนิตี้ คือการปั้นแอปพลิเคชันให้เป็นพื้นที่ที่คนเข้ามาหาข้อมูล ให้ความรู้ซึ่งกันและกัน มี Super User เข้ามาแชร์ด้านการดูแลสุขภาพต่างๆ โดยไม่ต้องพึ่งพา Admin เป็นผู้ตอบคำถามแต่เพียงผู้เพียง
ด้านคอนเทนต์ คือการดึง KOL เข้ามาให้ความรู้คน สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง นอกจากนี้ยังมีแผนจะดึง Loyalty Program เข้ามาใช้
ด้านพาร์ทเนอร์ ที่เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีอย่าง Fitbit กับ Garmin จะเข้ามาเป็นตัวช่วยเก็บข้อมูลว่าลูกค้ามีสุขภาพดีหรือไม่ ถ้าดีเบี้ยประกันก็จะถูกลง ช่วยลูกค้าลดค่าใช้จ่าย และในอนาคตจะมีพาร์ทเนอร์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันโดยตรงเข้ามาร่วม เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้
“เราเชื่อว่าเทคโนโลยี และการเข้าใจลูกค้า จะช่วยให้เราเป็นเบอร์ 1 ในระยะยาว” จุฑาภัทร กล่าวปิดท้าย
