AIS Business สร้างแลนด์มาร์คใหม่ใจกลาง Thailand Digital Valley ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วยการเปิดตัว AIS Evolution Experience Center หรือ AIS EEC ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยด้วยสมาร์ทโซลูชันส์
ภูผา เอกะวิภาต รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า AIS Business มุ่งมั่นผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านของภาคธุรกิจด้วยดิจิทัลเทคโนโลยีผ่านการใช้งานสมาร์ทโซลูชันส์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้องค์กรมีขีดความสามารถใหม่ๆ ที่พร้อมรับมือและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองว่าปี 2567 นี้ ยังเป็นปีที่ท้าทายจากผลกระทบของสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่กระทบโดยตรงไปยังระบบเศรษฐกิจโลกและไทย ดังนั้นดิจิทัลจึงกลายเป็น Norm ของการสร้างสรรค์ Business Model ที่แตกต่างในทุกธุรกิจ
ทั้งนี้ AIS Business ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลโซลูชันส์และ ICT สำหรับองค์กรภาคธุรกิจด้วยแนวคิด AIS Business Digital Evolution : Sustainable Business for a Sustainable Nation จึงพร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโต อุ่นใจ อย่างยั่งยืน รับมือความท้าทาย ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลกและหน่วยงานหลักด้านนวัตกรรม รวมไปถึงสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน โดยล่าสุดได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa เปิดตัว AIS Evolution Experience Center (AIS EEC) หรือ ศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อธุรกิจแห่งแรกซึ่งตั้งอยู่ใจกลาง Thailand Digital Valley อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ภายในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC
สำหรับ AIS Evolution Experience Center มีวัตถุประสงค์หลักคือเป็นศูนย์กลางสำหรับให้ภาคอุตสาหกรรมได้เรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจ เป็นพื้นที่เปิดสำหรับการทดสอบ ทดลองเชิงปฏิบัติ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมบนเครือข่ายและระบบนิเวศดิจิทัล โดยมี 3 เป้าหมายหลักในการใช้งานศูนย์ดังนี้
1.Evolution Technology ส่งเสริมและสร้างความรู้ ความเข้าใจโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล แพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะมาช่วยสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มาปรับใช้เพื่อเอาชนะความท้าทายทางธุรกิจ
2.Experience Digital Transformation สัมผัสประสบการณ์ การใช้งานจริงในการนำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และเทคโนโลยีมาสร้างนวัตกรรม และโซลูชันส์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในสู่การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลสำหรับภาคธุรกิจ
3.Center of Collaboration ศูนย์แห่งการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ สมาคม ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ผู้ให้บริการโซลูชันส์ นักพัฒนา และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อทดสอบ ทดลอง แลกเปลี่ยนความรู้ และสร้างการเติบโตตามแนวทาง ECOSYSTEM ECONOMY การทำงานร่วมกันข้ามอุตสาหกรรม เพื่อความมุ่งหมายในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน
“5 ขุมพลังดิจิทัล” จุดแข็ง AIS Business
ภูผา กล่าวต่อว่า AIS Business พัฒนาโซลูชันส์ต่างๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สอดรับกับความต้องการขององค์กรธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมกับพันธมิตรระดับโลกในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีจนเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้ AIS Business ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง โดยมี 5 ขุมพลังดิจิทัลที่สำคัญ ได้แก่
ขุมพลัง 5G อัจฉริยะ 5G Ecosystem จากศักยภาพและคลื่นความถี่ซึ่งมีมากที่สุดในรูปแบบหลากหลายทั้ง Network Slicing, Private Network เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นด้วยศักยภาพของ Paragon Platform แพลตฟอร์มที่รวบรวม 5G โซลูชันส์ เช่น 5G Network Orchestrator, MEC, Edge, Cloud, Application Ecosystem มีกว่า 17 องค์กร เริ่มใช้งานจริงแล้ว
ขุมพลังแห่งโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ Intelligent Network and Infrastructure เพื่อยกระดับการบริหารจัดการองค์กรและการประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็วและปลอดภัยในยุคปัจจุบัน พร้อมให้บริการตอบโจทย์ทุกองค์กรครบครันตั้งแต่ On-Premise Cloud ไปจนถึงระดับไฮเปอร์สเกล ซึ่งยืนยันด้วยรางวัล Microsoft Partner of the Year – Thailand 3 ปีซ้อน (2022-2024), ผู้ให้บริการ Broadcom’s VMware Cloud Service Provider อันดับหนึ่งในไทย พร้อมความร่วมมือกับ Oracle เพียงรายเดียวในประเทศไทย ที่จะให้บริการ Cloud ที่สนับสนุนการบริหารจัดการสำหรับองค์กรที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
อีกทั้ง AIS Businessพร้อมแล้วที่จะให้องค์กรต่างๆ สามารถแสดงความจำนงการใช้บริการศูนย์ GSA ดาต้าเซ็นเตอร์ จากความร่วมมือของ Gulf, Singtel และ AIS ขนาดกว่า 20 เมกะวัตต์ ที่มุ่งนำเทคโนโลยีล้ำสมัยจากพลังงานสะอาดได้แล้ว ซึ่งเตรียมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2568
ขุมพลังแห่งปัญญาประดิษฐ์เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก AI and Data Analytics ที่พร้อมเปิดตัวบริการ Analytic X บริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Insight) ที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้ในการวางกลยุทธ์และสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างตรงจุด
ขุมพลังแห่งการเชื่อมต่อ Digital Platform and APIs ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล อย่าง AIS Open APIs มาตรฐานระดับโลกของ GSMA และ CAMARA ที่ทำให้นักพัฒนา สามารถออกแบบบริการที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และ AIS CPaaS – Communication Platform as a service แพลตฟอร์มการสื่อสารในรูปแบบบนคลาวด์ที่ช่วยยกระดับการสื่อสารขององค์กรให้สามารถสื่อสารได้แบบเรียลไทม์ ทั้งเสียง วิดีโอ และSMS
Industry Transformation ขุมพลังการยกระดับภาคอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปทรานส์ฟอร์มองค์กร โดยเน้นให้ความสำคัญกับองค์กรในทุกระดับ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต, ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก, ธุรกิจ SME, องค์กรสาธารณะและภาครัฐ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่ EEC จึงเป็นที่มาของการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
4 โซนไฮไลท์ “AIS Evolution Experience Center”
AIS Evolution Experience Center หรือ AIS EEC แบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่ โซนแรกคือ Exhibition Area ที่ประกอบด้วยการนำเสนอโซลูชันส์ต่างของ AIS Business แบ่งเป็น 4 ส่วนหลักได้แก่ ส่วนแรก Digital Infrastructure & Platform ประกอบด้วย 5G Network & Cloud, Communication Platform (CPaaS & Open APIs) และData Analytic Platform ส่วนที่ 2 Digital Industry Evolution ประกอบด้วย Smart Manufacturing และSmart Property & Retail ส่วนที่ 3 Sustainable Nation ประกอบด้วย Smart City and Public Sector Service, Smart Agriculture และ Smart Health และส่วนที่ 4 คือ Modern Business Transformation ประกอบด้วยSmart Solution for Business และIoT Solution
สำหรับโซนที่ 2 คือ Meeting Area เป็นพื้นที่สำหรับการพูดคุยแลกเปลี่ยน โซนที่ 3 คือ Laboratory Area พื้นที่สำหรับทดสอบและทดลอง และโซนที่ 4 คือ Matching Area
ร่วมบ่มเพาะบุคลากรดิจิทัลเทคโนโลยีเข้าตลาดงาน
นอกจากนี้ AIS Business ได้ยกระดับขีดความสามารถด้านทักษะดิจิทัลเทคโนโลยีให้กับบุคลากรเพื่อส่งเสริมการเพิ่มกำลังคนด้านนี้เข้าสู่ตลาดแรงงานที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทุกรูปแบบ ผ่านการทำงานร่วมกับพันมิตรอย่าง สำนักงานคณะทำงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC HDC ทั้ง 8 ศูนย์ผู้เชี่ยวชาญความเป็นเลิศด้านอุตสาหกรรม ประกอบไปด้วย
- ศูนย์ความเป็นเลิศด้าน Automation
- ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการท่องเที่ยว
- ศูนย์ความเป็นเลิศด้านยานยนต์ไฟฟ้า
- ศูนย์ความเป็นเลิศด้านพาณิชย์นาวี
- ศูนย์ความเป็นเลิศด้านแมคคาทรอนิกส์
- ศูนย์ความเป็นเลิศด้านอากาศยาน
- ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์
- ศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยี Digital AI & 5G
ภายใต้ความร่วมมือจาก 6 เครือมหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ, วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ, สถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ และสถาบันไทย-เยอรมัน
“จากการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามั่นใจว่าสามารถใช้ศักยภาพของดิจิทัลเทคโนโลยีมาสนับสนุนและช่วยทรานส์ฟอร์มภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านเครื่องมือและโซลูชันส์ที่ตอบโจทย์ ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายการทำงานครั้งนี้ไม่เพียงขับเคลื่อนการเติบโตเท่านั้น แต่ต้องเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืนอันจะเป็นแรงส่งสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้มีขีดความสามารถใหม่ๆ สร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแรงและยั่งยืนท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบันและอนาคต” ภูผา กล่าวทิ้งท้าย
