บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK แนะภาคธุรกิจเร่งทำ “Data Architecture หรือ สถาปัตยกรรมข้อมูล” ในการออกแบบและสร้างมาตรฐานการบริหารจัดการข้อมูลองค์กรในทุกกระบวนการ ให้เป็นไปอย่างมีระบบระเบียบและมีมาตรฐานผ่านหลักปฏิบัติ 6 ขั้นตอนเพื่อปูทางสู่การเป็น Data-Driven Organization ช่วยปลดล็อคศักยภาพและการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มความได้เปรียบทางธุรกิจจากกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงที่ถูกต้องแม่นยำ
พิพัฒน์ ประภาพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการและหัวหน้าทีม Big Data and Advanced Analytics บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กระแสความตื่นตัวของภาคธุรกิจเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสู่องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในประเทศไทยนั้นถือว่าอยู่ในระดับสูง แต่กลับมีองค์กรจำนวนไม่น้อยที่มองข้ามขั้นตอนสำคัญในการวางรากฐานให้กับข้อมูลอย่าง การวางแผนและออกแบบการจัดการข้อมูลตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำอย่างเป็นระบบ “Data Architecture หรือ สถาปัตยกรรมข้อมูล” ส่งผลให้หลายองค์กรที่นำ Artificial Intelligence (AI) หรือ Machine Learning (M/L) มาใช้งานโดยที่ไม่มีการออกแบบสถาปัตยกรรมข้อมูลที่เหมาะสม ต้องเผชิญกับปัญหาด้านการประมวลผลข้อมูลที่คลาดเคลื่อน จำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและแก้ไขข้อมูล (Data Cleansing) นานเกินไปจน ทำให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจและก่อให้เกิดต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ซึ่งหากไม่แก้ไขปัญหาดังกล่าวจะส่งผลต่อขีดความสามารถการแข่งขันในอนาคตในที่สุด
–ไทยพาณิชย์ จับมือ empeo ให้ผู้ประกอบการใช้ฟรีตลอดระยะเวลาการจ่ายเงินเดือนผ่าน SCB
–เซ็นทรัลพัฒนา เปิดแผน 4 ธุรกิจหลัก เดินหน้าลงทุน 5 ปี 120,000 ล้านบาท พัฒนาทุกธุรกิจรวมกันกว่า 180 โครงการ
“การให้ความสำคัญเกี่ยวกับการสร้างสถาปัตยกรรมข้อมูลในประเทศไทยนั้นยังน้อย สวนทางกับความต้องการทำ Data Analytics หรือ การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์หาข้อมูลเชิงลึก (Insights) ที่มีสูง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณภาพและถูกต้องแม่นยำสูงนั้น จำเป็นต้องมีสถาปัตยกรรมข้อมูลที่กำหนดมาตรฐานในการรวบรวม จัดเก็บ ประมวลผล ตรวจสอบ คัดกรอง แก้ไข และวิเคราะห์ข้อมูลให้ถูกต้อง รวมทั้งออกแบบให้การเรียกใช้งานข้อมูลที่มีความยืดหยุ่น ซึ่งในโลกของ Data Analytics มีคำเปรียบเปรยเกี่ยวกับข้อมูลว่า Garbage in – Garbage out หรือ GIGO หมายถึง หากข้อมูลที่เราป้อนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ ไม่สอดคล้องกับความต้องการ จึงเปรียบเหมือนกับขยะ ผลลัพธ์ที่ได้จากคอมพิวเตอร์ก็ไม่ต่างกับขยะที่ไร้ประโยชน์เช่นกัน ด้วยเหตุนี้การสร้างสถาปัตยกรรมข้อมูลจึงเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญในการนำข้อมูลไปใช้งานทุกรูปแบบ” พิพัฒน์ กล่าว
ด้วยเหตุนี้ Data Architecture จึงเป็นส่วนสำคัญในการวางรากฐานและการออกแบบการบริหารจัดการ โครงสร้างและสร้างมาตรฐานคุณภาพข้อมูลให้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และตอบโจทย์ธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ลดเวลาการทำงาน และความผิดพลาดจาก Human Error รวมถึงยกระดับความถูกต้องแม่นยำให้กับข้อมูล เพื่อเพิ่มศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงด้วย
ดังนั้นองค์กรที่ต้องการก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล หรือองค์กรที่กำลังประสบปัญหาการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้ไม่เต็มศักยภาพ จึงควรเร่งทำ Data Architecture ซึ่งทาง บลูบิค ได้วางแนวปฏิบัติในการทำ Data Architecture เบื้องต้น 6 ขั้นตอน ที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกองค์กร ด้วยการออกแบบโมเดลสถาปัตยกรรมข้อมูลเฉพาะสำหรับแผนกลยุทธ์หรือโครงการต่างๆ ดังนี้
1) การทำความเข้าใจกลยุทธ์ของธุรกิจ รวบรวมความต้องการและเป้าหมายของธุรกิจ เพื่อนำไปกำหนดการออกแบบสถาปัตยกรรมข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อกระบวนการตัดสินใจ เพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของกลยุทธ์นั้นๆ
2) การคัดแยกข้อมูลที่มีคุณค่า (Identify Value Data) เมื่อเข้าใจกลยุทธ์ทางธุรกิจแล้ว คัดกรองเฉพาะข้อมูลหลักที่จำเป็นต้องมีคุณภาพ (Critical Data Elements) ทำความเข้าใจกับทิศทางการไหลของข้อมูล และโครงสร้างของข้อมูลที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับการคิดแผนกลยุทธ์ และมีประโยชน์ต่อกระบวนการตัดสินใจ โดยจัดให้มีหน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการคุณภาพข้อมูล จัดให้มีการกำหนดโครงสร้างและคุณลักษณะข้อมูลที่มีคุณภาพที่ชัดเจน และเข้าใจการไหลของข้อมูลตั้งแต่การนำเข้าข้อมูลจนถึงส่วนที่จะนำข้อมูลไปใช้งาน
3) การจัดลำดับความสำคัญข้อมูล (Prioritization of Data) การจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลทำให้สามารถกำหนดจุดเริ่มต้นของการออกแบบและจัดระเบียบของโมเดลข้อมูล เพื่อที่จะทำให้สถาปัตยกรรมข้อมูลที่สร้างขึ้นมานั้นสอดคล้องกับการนำข้อมูลไปใช้งานและกลยุทธ์ในการดำเนินงานขององค์กร จึงสามารถเรียกข้อมูลไปใช้ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
4) การนำข้อมูลที่ได้มาไปเชื่อมโยงกับ Use Case เพื่อกำหนดกรอบข้อมูล ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในเชื่อมต่อ รวบรวมข้อมูล การออกแบบแบบจำลองข้อมูล และเข้าสู่กระบวนการสร้างแบบจำลองข้อมูล สำหรับกลยุทธ์นั้นได้
5) การใช้ประโยชน์จากข้อมูล Insights นำข้อมูลที่ผ่านการกระบวนการวิเคราะห์โดย Data Analytics หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อทำแผน Quick Win หรือ ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายตามแผนกลยุทธ์ที่ได้วางไว้
6) การสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนในองค์กร เมื่อประสบความสำเร็จจากการนำข้อมูลจากสถาปัตยกรรมไปใช้แล้ว ควรทำการประชาสัมพันธ์ให้บุคลากรในองค์กรทราบถึงความสำคัญและประสิทธิผลในการใช้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณภาพ เพื่อปรับมุมมองเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมข้อมูลให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
“เมื่อ Data-Driven Organization กลายเป็นพันธกิจของหลายองค์กร การวางรากฐานข้อมูลด้วยการสร้างสถาปัตยกรรมข้อมูลจะช่วยให้องค์กรเข้าใจข้อมูลและการจัดการข้อมูลได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับการใช้งานในภาคธุรกิจนั้น ซึ่งภารกิจเหล่านี้ล้วนจำเป็นต้องมีบุคคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่เข้าใจทั้งภาคธุรกิจและเทคโนโลยีเป็นอย่างดี เพื่อให้การปรับเปลี่ยนองค์กรสามารถบรรลุตามเป้าหมายได้อย่างราบรื่น จากประสบการณ์ของ บลูบิค ที่ได้เข้าไปช่วยปรับเปลี่ยนองค์กรชั้นนำสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล พบว่า การออกแบบสถาปัตยกรรมข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจการใช้งานข้อมูลในมุมธุรกิจนั้น สามารถลดความเสี่ยงจากข้อมูลสำคัญสูญหายระหว่างกระบวนการจัดเก็บ ลดเวลากระบวนการทำ Data Cleansing สามารถตรวจสอบและสร้างมาตรฐานข้อมูลที่เหมาะสมกับธุรกิจ ทำให้จำนวนข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้องและแม่นยำมีมากขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิดพลาดลดลงด้วย” พิพัฒน์ กล่าวปิดท้าย
การสร้างตัวตนของประเทศไทยในระดับโลก เป็นสิ่งที่คนไทยทำมาตลอด 50 ปี ไม่ว่าจะเป็น ดินแดนแห่งรอยยิ้ม ครัวไทยสู่ครัวโลก ฯลฯ และมันส่งผลต่อวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเราในปัจจุบันอย่างยิ่ง ที่สำคัญอานิสงส์ที่ส่งตรงต่อธุรกิจต่างๆ ที่รองรับตัวตนของประเทศนั้นมหาศาลเหลือเกิน จนเราปฏิเสธไม่ได้ว่าการสร้างตัวตนที่ชัดเจนต่อสายตาชาวโลกนั้นเป็นมรดกตกทอดไปสู่คนยุคใหม่ๆ อย่างน้อยช่วงหนึ่งอายุคนกันเลยทีเดียว “ประเทศไทยจะเป็นผู้นำทางด้าน Green…
โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ขานรับเทรนด์ Gastronomy Tourism ที่กำลังเติบโตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ผนึกกำลัง Toby’s Farm สวนทุเรียนพรีเมียมจากจันทบุรี เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ “Durian Decadent…
แคนนอน (CANON) เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องพิมพ์หน้ากว้างแบบตั้งโต๊ะรุ่นใหม่ล่าสุดถึง 2 รุ่น ได้แก่ imagePROGRAF TC-21 และ imagePROGRAF TC-21M ในงานสถาปนิก 68 (ASA Architect'25)…
บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) เผยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 อนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.22 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 30 เมษายน 2568…
พฤกษา เรียลเอสเตท ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ทั้งการผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ให้กู้ได้ 100% และการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ "บิงโกลด์" ลุ้นบิง ชิงทอง มอบความคุ้มค่าแบบ "บิงโก" 3…
เซ็นทรัลพัฒนา จับมือ "NITORI" แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านอันดับ 1 จากญี่ปุ่น ขยายฐานสู่ภาคตะวันออก เปิด 2 สาขาใหม่ล่าสุดที่เซ็นทรัล พัทยา และเซ็นทรัล ศรีราชา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยและนักท่องเที่ยว พร้อมรับการเติบโตของเมืองท่องเที่ยวและเขตเศรษฐกิจพิเศษ…
This website uses cookies.