แคนนอน (CANON) สร้างปรากฏการณ์หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการออกบูธผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมในงาน Drupa 2024 ณ ประเทศเยอรมนี เนรมิตบูธภายใต้ธีม “The Power to Move” บนพื้นที่ใหญ่ถึง 4,600 ตร.ม. เพื่อสื่อถึงพลังแห่งการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการพิมพ์อย่างมั่นคงในยุคดิจิทัล ชูโซนหลักอย่าง “The Core” นำผู้ชมดื่มด่ำกับนวัตกรรมการพิมพ์สุดล้ำสมัยอันน่าตื่นตาตื่นใจแบบ Immersive Experience พร้อมเผยโอกาสสำคัญเพื่อการยกระดับชีวิตและธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านศักยภาพของโซลูชันงานพิมพ์จากแคนนอน
Drupa คืองานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก กำหนดจัดขึ้นทุก 4 ปี โดยในครั้งนี้จัดขึ้นในช่วงวันที่ 28 พฤษภาคม – 7 มิถุนายน 2567 ณ ดุสเซลดอร์ฟ แฟร์กราวด์ ประเทศเยอรมนี รวบรวมผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนแบรนด์สินค้าและนวัตกรรมด้านการพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ระดับสากล โดยในการจัดงานแต่ละครั้ง มีผู้เข้าชมงานจำนวนหลายแสนรายจากมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
อุย ชิค โฮ รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์บิสซิเนสอิมเมจจิ้งโซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แคนนอนประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านการพิมพ์หลากหลายประเภท และได้สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมการพิมพ์อิงค์เจ็ท ครองตำแหน่งผู้นำในกลุ่มการพิมพ์ระบบป้อนม้วน ป้อนแผ่น และการพิมพ์วัสดุหน้ากว้างมาอย่างยาวนาน ซึ่งในการจัดแสดงบูธผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่งาน Drupa 2024 ที่ประเทศเยอรมนีในครั้งนี้ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางธุรกิจบนเวทีระดับโลก ซึ่งครอบคลุมทั้งเทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัล การพิมพ์ฉลาก และบรรจุภัณฑ์ที่เปี่ยมประสิทธิภาพของเรา โดยได้รับความสนใจและเสียงชื่นชมจากผู้ประกอบการและผู้ให้บริการด้านการพิมพ์เป็นอย่างมาก ช่วยตอกย้ำถึงสถานะผู้ด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์ของแคนนอนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่จะทำให้แคนนอนยังคงมุ่งมั่นคิดค้นนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการเติบโตให้แก่ลูกค้าของเรา พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายในอุตสาหกรรมการพิมพ์โลกอย่างยั่งยืน”
แนวคิด “The Power to Move” หรือพลังแห่งการขับเคลื่อน สื่อถึงการผสมผสานอันทรงพลังระหว่างนวัตกรรมเทคโนโลยี ทีมผู้เชี่ยวชาญ บริการสนับสนุนที่เป็นเลิศและการทำงานร่วมกันแบบไดนามิกของแคนนอน เพื่อสนับสนุนให้ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์สามารถยกระดับขีดความสามารถในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจของตนให้ทันต่อโลกอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยโซนแรกที่เปิดต้อนรับผู้เข้าชมบูธแคนนอนภายในงานคือ โซน “The Core” นำผู้ชมไปสัมผัสเรื่องราวของเทคโนโลนีการพิมพ์ผ่านหน้าจอ UHD ขนาดยักษ์และระบบแสงสีเสียงเต็มรูปแบบ เพื่อมอบ Immersive Experience อันน่าประทับใจในทุก ๆ วินาที ทำให้ผู้ชมได้รู้จักกับแคนนอนในมุมมองที่แตกต่างและรับรู้ถึงศักยภาพของแบรนด์ได้อย่างแท้จริง
ต่อมาคือ โซนงานพิมพ์ “Printworks” นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับ “ผู้คน โลก และโอกาส” เพื่อส่งเสริมแรงบันดาลใจจากการเรียนรู้ถึงกลยุทธ์ต่างๆ ที่ลูกค้าของแคนนอนนำมาใช้เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายด้านการเติบโตที่ยั่งยืน ตลอดจนความร่วมมือของแคนนอนในการส่งมอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพจนประสบความสำเร็จ พร้อมพื้นที่เพื่อการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาธุรกิจ แอปพลิเคชัน และการดำเนินงานของแคนนอน เพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบงานพิมพ์แบบครบวงจร
สำหรับ โซนจัดแสดงผลิตภัณฑ์ “The Product” นำเสนอโซลูชันการพิมพ์แบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการทำงาน (Workflow) เทคโนโลยีงานพิมพ์ ผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์สื่อสิ่งพิมพ์จากพันธมิตรของแคนนอน เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการคิดค้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์งานพิมพ์ของลูกค้าในทุก ๆ อุตสาหกรรม ซึ่งโซนนี้แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่ 1) Commercial Print 2) Promotional Communications 3) Publishing 4) Inhouse & CAD 5) Interior Décor และ 6) Labels & Packaging
โดยงาน Drupa 2024 นี้ นับเป็นครั้งแรกที่แคนนอนจัดแสดงเทคโนโลยีการพิมพ์ฉลากและบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีทั้งการสาธิตการผลิตฉลาก กระดาษลูกฟูก และกล่องแบบพับได้ในหลากหลายโซน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการว่าแคนนอนมีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมนี้แล้วอย่างเต็มรูปแบบ
นอกเหนือจากการได้สร้างเครือข่ายธุรกิจกับพันธมิตรรายใหม่ ๆ จำนวนมากและการขยายขอบเขตความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว อีกหนึ่งความสำเร็จจากการร่วมงาน Drupa 2024 ของแคนนอน คือการประกาศจุดยืนในการลงทุนด้านการวิจัยและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และแสดงถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการยกระดับอุตสาหกรรมการพิมพ์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเติบโต วิวัฒนาการ และการพัฒนาเชิงบวก ซึ่งไม่แต่เฉพาะกับลูกค้าและพันธมิตรของบริษัทฯ เท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่ห่วงโซ่มูลค่าและภาคอุตสาหกรรมการพิมพ์ทั้งหมด ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งแบบครบวงจรระดับโลกที่แท้จริง
–เปิดตัว Fujifilm INSTAX WIDE 400 กล้องอินสแตนท์อนาล็อก ช่วยเก็บภาพมุมกว้างได้ง่ายขึ้น