ไชน่า ยูนิคอม ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในการพัฒนาเครือข่าย 5G ไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวแผนปฏิบัติการ 5G-Advanced อย่างเป็นทางการ ในงานแถลงข่าว “Powering the Asian Winter Games with 10 Gbps Connectivity” ณ เมืองฮาร์บิน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเป็นพันธมิตรทางการสื่อสารและบริการคลาวด์ของการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวครั้งที่ 9
ภายในงานนี้ ไชน่า ยูนิคอม ได้ประกาศถึงความมุ่งมั่นในการขยายเครือข่าย 5G-Advanced ไปยังพื้นที่ศูนย์กลางของ 39 เมืองหลัก และสถานที่สำคัญในกว่า 300 เมืองทั่วประเทศจีน ภายในสิ้นปี 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานเครือข่าย และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในหลากหลายอุตสาหกรรม
5G-Advanced: ก้าวสำคัญสู่ยุคดิจิทัลที่เหนือกว่า
5G-Advanced ไม่ได้เป็นเพียงการอัปเกรดความเร็วของเครือข่าย แต่เป็นการพลิกโฉมประสบการณ์การเชื่อมต่อในหลากหลายมิติ ด้วยความเร็วที่สูงกว่า เสถียรภาพที่เหนือกว่า และความหน่วงที่ต่ำกว่า ทำให้ 5G-Advanced เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น AI, IoT และ VR
ไชน่า ยูนิคอม เล็งเห็นถึงศักยภาพของ 5G-Advanced ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่างๆ จึงได้เปิดตัวโปรแกรม 5G-Advanced Xinghuo และโปรแกรม 5G-Advanced Baichuan ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการประยุกต์ใช้ 5G-Advanced ในอุตสาหกรรมเฉพาะ และการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตามลำดับ
ความร่วมมือกับ หัวเว่ย และพันธมิตร
ความสำเร็จของไชน่า ยูนิคอม ในการพัฒนา 5G-Advanced ไม่ได้มาจากความพยายามเพียงลำพัง แต่เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคมระดับโลก
เฉา หมิง รองประธานบริษัทหัวเว่ย กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “การบูรณาการระหว่าง 5G-Advanced และ AI อย่างต่อเนื่องจะเปลี่ยนโฉมธุรกิจโทรคมนาคมแบบดั้งเดิม พร้อมสร้างโอกาสมหาศาลให้แก่อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่”
นอกจากนี้ ไชน่า ยูนิคอม ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรอื่นๆ ในการจัดตั้งพันธมิตรด้านระบบนิเวศของอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการนวัตกรรม และร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรม 5G-Advanced
ประเทศไทย: ผู้นำ 5G ในภูมิภาค
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่โดดเด่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในด้านการใช้งาน 5G โดยมีอัตราการเติบโตของการใช้งาน 5G ที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล และเสริมสร้างศักยภาพของเศรษฐกิจดิจิทัล
ตัวอย่างที่ชัดเจนของความก้าวหน้าด้าน 5G ในประเทศไทย คือความร่วมมือระหว่าง AIS, ไชน่า ยูนิคอม และหัวเว่ย ในการพัฒนาโรงงานอัจฉริยะของ Midea ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เชื่อมต่อด้วยเครือข่าย 5G อย่างเต็มรูปแบบ
อนาคตของ 5G ในประเทศไทย
ด้วยการมาของ 5.5G ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคแห่งการปฏิรูปทางดิจิทัลในระดับที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้น เทคโนโลยี 5.5G จะช่วยเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดข้อมูลอย่างมหาศาล พร้อมทั้งลดความหน่วงของเครือข่าย ทำให้สามารถรองรับแอปพลิเคชันและบริการที่ต้องการความเร็วและความเสถียรสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยี 5G ที่พัฒนาไปสู่ 5.5G ไม่ได้เป็นเพียงแค่เพิ่มความเร็วของเครือข่าย แต่ยังเปิดโอกาสใหม่ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การผลิตอัจฉริยะและการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ไปจนถึงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI การลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีการเชื่อมต่อรุ่นถัดไปจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมขีดความสามารถทางธุรกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนหลายล้านราย
