ETDA โชว์ 3 นวัตกรรม หนุน SMEs ไทยสู่ธุรกิจดิจิทัล

ETDA โชว์ 3 นวัตกรรม หนุน SMEs ไทยสู่ธุรกิจดิจิทัล

การเปิดเวที จับมือ 3 นวัตกรรมจากเวที Hackathon : Finding the Best Enabler มาพูดคุย เจาะลึกถึงแนวคิดในการสร้างสรรค์นวัตกรรม e-Office ที่จะเข้ามาปลดล็อก SMEs ไทย ใน ETDA Live : The Best Enabler Insight EP.1 “เปิด 3 นวัตกรรม e-Office สู่ ETDA Sandbox” ที่เพิ่งจบไปเมื่อ วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เราได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยในการทำงานหลากหลายมากขึ้น

เนื่องจากกลุ่ม SMEs ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะ GDP ที่ช่วยสร้างมูลค่ามหาศาล และเป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้ประกอบการปริมาณสัดส่วนสูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการในประเทศทั้งหมด โดยในปี 2563 มูลค่า GDP ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มีมูลค่าถึง 5,376,066 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.2 ของ GDP รวม (ที่มา: รายงานสถานการณ์วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี 2564 โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม)

ขณะเดียวกันวิกฤตโควิด-19 ก็เป็นอุปสรรคคลื่นลูกใหญ่ที่ส่งผลให้กลุ่ม SMEs เหล่านั้นจัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง มีความเสี่ยงสูง เพราะเป็นกลุ่มที่มีต้นทุนน้อย และต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งหากไม่เร่งเข้าไปยกระดับ สนับสนุนให้พวกเขาเกิดการทรานส์ฟอร์มธุรกิจและการทำงานไปสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ นำการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อช่วยแก้ปัญหา ลดเวลา ประหยัดต้นทุน ให้ SMEs พร้อมและทันต่อสภาพเเวดล้อมของการแข่งขันของธุรกิจยุคใหม่โดยเร็ว ก็อาจมีส่งผลกระทบอื่นๆ ตามมาได้ในอนาคต

กฟผ. ประกาศลดค่าเอฟทีกว่า 36,000 ล้านบาท ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ถึง 14,800 ล้านบาท
สำนักงานสลาก แถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาตามโรดแมป

จากการสอบถามความคิดเห็นของผู้ประกอบการ กว่า 300 คน ของ ETDA ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา (โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการทำงานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์) พบว่า SMEs ยังคงมีความกังวลและต้องเผชิญกับปัญหา ดังนี้ 1. ปัญหาการติดต่อสื่อสารการทำธุรกิจที่ไม่ลื่นไหล 2. ปัญหาการขาดศูนย์กลางทางข้อมูลที่ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจการทำธุรกิจ 3. ปัญหาการขาดเทคโนโลยีและเครื่องมือ e-Tool ในการประยุกต์ใช้ทำธุรกิจที่เหมาะสมในยุคดิจิทัล

ดังนั้น เพื่อปิดช่องโหว่ของ pain point ดังกล่าว ETDA ในฐานะหน่วยงานที่มุ่งยกระดับชีวิต ให้ทุกภาคส่วนเดินหน้าไปต่อได้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล จึงเร่งดำเนินงาน ทั้งการเป็นหน่วยงานทดสอบนวัตกรรม สร้างความเชื่อมั่นก่อนให้บริการจริง ผ่าน ETDA Sandbox  พร้อมจัดกิจกรรมเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรรม e-Office เพื่อให้ได้ e-Tool ทางเลือกใหม่ ที่จะเข้ามาเพิ่มความเเข่งแกร่งให้กับธุรกิจ SMEs ผ่านกิจกรรม Hackathon : Finding the Best Enabler ทั้งยังสานต่อสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง

วันนี้จึงขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 3 นวัตกรรม e-Office ที่จะมาช่วยคลายล็อกปัญหา ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในตลาดดิจิทัล

3 นวัตกรรม หนุน SMEs ไทยสู่ธุรกิจดิจิทัล

EasySign by EasyCOMPANY ระบบ ‘สร้าง’ และ ‘เซ็น’ สัญญาออนไลน์ใน 3 นาทีช่วยกลุ่ม SMEs ผู้เริ่มทำธุรกิจ คลายกังวลต่อการจัดเอกสารหลายฉบับที่ซับซ้อน

แน่นอนว่าเมื่อจะเริ่มทำธุรกิจ หรือเกิดการจ้างงานจากบริษัท เอกสารที่จำเป็นอันดับแรกคือ เอกสารสัญญาการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ (Non-Disclosure Agreement หรือ NDA) ซึ่งเป็นเอกสารสัญญาทางกฎหมายที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเพื่อประกอบการตกลงทำธุรกิจร่วมกัน แต่ในระหว่างการดำเนินงานกลับพบปัญหาซับซ้อนหลายขั้นตอนโดยเฉพาะการทำเอกสารสัญญาในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา อาทิ เจ้าของธุรกิจรายย่อย กลุ่ม SMEs ไม่มีความรู้ความเข้าใจในการทำสัญญาและการลงลายมือชื่อ รวมถึงขั้นตอนการส่งมอบเอกสารที่ใช้เวลานาน เช่น ต้องส่งแมสเซ็นเจอร์แล้วต้องมาตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่า เอกสารหลายๆ ฉบับครบถ้วนหรือไม่ ถ้าหากไม่ครบก็ต้องย้อนกลับไปขั้นตอนแรกแก้ไข ทำให้เสียเวลาอย่างมาก จึงจะเห็นว่าการทำเอกสารสัญญาฉบับหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย และถ้าต้องไปจ้ายทนายความหรือที่ปรึกษาทางกฏหมายเพื่อมาช่วยจัดการเอกสาร ค่าใช้จ่ายก็สูง

ดังนั้น จึงเกิดแพลตฟอร์ม EasySign สร้างโดยบริษัท Easy Company Group ที่ได้รวมทีมนักกฏหมายและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ นำเทคโนโลยีและเรื่องกฏหมายมาผนวกกัน พัฒนาระบบ ‘สร้าง’ และ ‘เซ็น’ สัญญาออนไลน์ใน 3 นาที เพื่อช่วยแก้ปัญหาผ่าน 3 ระบบหลัก ดังนี้

1.New-generation Legal Template ระบบสร้างเอกสารที่อ่านและเข้าใจง่าย สามารถใช้ได้ทั้งกฏหมายไทยและสากล
2.e-Signature & e-Seal พัฒนาระบบเซ็นลายมืออิเล็กทรอนิกส์ พร้อมประทับตราออนไลน์ รองรับและอำนวยความสะดวกแทนการไปติดต่อราชการที่สถานที่จริง อีกทั้งในอนาคตจะพัฒนาการอัปโหลดเอกสารมอบอำนาจเพื่อรองรับการมอบอำนาจช่วง และ e-KYC (Electronic Know-Your-Customer) เพื่อการยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ด้วยการเก็บข้อมูลที่ระบุอัตลักษณ์ของแต่ละบุคคล หรือ Biometric (ชีวมิติ)
3.Company Authorized Signatory ระบบตรวจสอบเอกสารผู้มีอำนาจลงนาม พร้อมพัฒนาต่อกับระบบกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

โดยตั้งใจอย่างยิ่งว่า EasySign จะเป็นตัวช่วยให้กับผู้ประกอบการ SMEs รายย่อย ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัท ช่วยดูแลเอกสารทางกฏหมาย อาทิ สัญญาผู้ถือหุ้น สัญญาจ้างแรงงาน สัญญาเช่าพื้นที่ เพื่อให้พร้อมสู่ธุรกิจดิจิทัลอย่างสมบูรณ์

iTAX โปรแกรมจัดการเงินเดือนพนักงานและการยื่นภาษีออนไลน์ ช่วยกลุ่ม SMEs ประหยัดเวลาทำงานจากงานที่เคยทำ 2 สัปดาห์ เสร็จได้ใน 2 นาที

หลายคนอาจคิดว่าการจ่ายเงินเดือนพนักงานเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่โอนเงินก็เสร็จเรียบร้อย แต่แท้จริงแล้วมีหลายขั้นตอนและมีหลายส่วนที่ต้องพิจารณา ทั้งงานเอกสารจุกจิกที่ต้องรับผิดชอบจำนวนมาก ตั้งแต่เรื่องจัดการเงินเดือน ภาษี ประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หนังสือรับรองเงินเดือน บางคนมีการกู้ยืมเงิน กยศ. ก็ต้องมีการหักภาษีนำส่ง และอื่นๆ ลองคิดเล่นๆ หากบริษัทหนึ่งมีพนักงาน 500 กว่าคน ก็ใช้เวลาจัดการเรื่องเงินเดือนและภาษีนานถึง 2 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น ซึ่งเสียเวลาไปเยอะมาก และเวลาดังกล่าวก็ไม่ได้ช่วยให้ธุรกิจมีรายรับที่เพิ่มขึ้น     

ดังนั้น จึงเป็นที่มาของ iTAX แพลตฟอร์ม โปรแกรมที่นำเทคโนโลยีซอฟต์แวร์มาสร้างระบบช่วยจัดการเงินเดือนพนักงานและการยื่นภาษีออนไลน์ ที่เป็นเรื่องยุ่งยาก ซับซ้อนของใครหลายๆ คน ให้เป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว ผ่าน 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

1.One-time Setup นำข้อมูลของพนักงาน ข้อมูลบริษัทใส่เข้าไปในระบบ ทำครั้งแรกครั้งเดียว
2.Confirm Payroll ขั้นตอนการจ่ายเงิน ระบบจะแสดงผลรายการให้ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนก่อนว่าจ่ายค่าอะไรบ้าง เช่น มีค่าคอมมิชชัน โบนัส เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจึงกดปุ่มคอนเฟิร์ม
3.Get Files สุดท้ายระบบจะส่งไฟล์แบบฟอร์มที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมดมาให้ เช่น แบบฟอร์มหักประกันสังคม หักภาษี ณ ที่จ่าย สลิปเงินเดือน

จากทั้งหมดนี้ก็ช่วยคืนเวลาแก่พนักงานผู้ทำหน้าที่ดังกล่าวจากที่ต้องใช้เวลาทำงาน 2 สัปดาห์ให้แล้วเสร็จได้ใน 2 นาที และมีเวลาไปโฟกัสการทำงานพัฒนาธุรกิจ พัฒนาบุคคลต่อไปได้ไม่ต้องพะวงกับงานเอกสาร

Tellscore ค้นหาและจ้างอินฟลูเอนเซอร์ทั่วไทยในแพลตฟอร์มเดียวช่วยให้ SMEs มีคลังข้อมูล เพิ่มเครื่องมือโปรโมตสินค้าและบริการให้ตรงใจผู้บริโภค

ทุกวันนี้อินฟลูเอนเซอร์มีส่วนสำคัญในการเติบโตของตลาด e-Commerce รวมถึงการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าบนโลกออนไลน์อย่างมาก เพราะไม่มีแล้วที่ผู้บริโภคจะไม่ดูรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการ และดิจิทัลคอนเทนต์ก็กำลังเป็นเป้าหมายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เห็นได้จากอาชีพยูทูปเบอร์ กลายเป็นอาชีพมาแรงที่เด็กไทยต้องการจะเป็น และพฤติกรรมคนไทย มักทำความรู้จักสินค้าผ่านคอนเทนต์ออนไลน์มากกว่าผ่านโฆษณา

ขณะเดียวกัน SMEs ได้เริ่มสนใจใช้อินฟลูเอนเซอร์เข้ามาช่วยโปรโมตสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น แต่กลับพบว่า พวกเขากำลังประสบปัญหาคือไม่มีเวลา ข้อมูล แหล่งค้นหาและช่องทางติดต่ออินฟลูเอนเซอร์ วิธีการจ่ายเงิน รวมถึงแนวทางการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ให้ตรงกับสินค้าและบริการ

ดังนั้น Tellscore จึงเป็นหนึ่งแพลตฟอร์มเพื่อการตลาดออนไลน์ทางเลือกใหม่ที่จะเข้ามาช่วยให้แบรนด์ ธุรกิจ SMEs ได้ค้นพบอินฟลูเอนเซอร์ บล็อกเกอร์  ช่วยโปรโมตสินค้าและบริการผ่านรีวิวหรือสร้างแคมเปญต่างๆ ซึ่ง Tellscore ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้บริการมา 4 ปี มีกลุ่มธุรกิจ SMEs เข้ามาใช้บริการระบบเพิ่มขึ้นในสัดส่วน 13% ต่างจาก 2 ปีก่อนที่อยู่เพียง 3% โดยเหตุผลหลักที่เข้ามาใช้บริการ เพราะยอดขายเพิ่มขึ้น

ดังนั้น เพื่อช่วยกลุ่ม SMEs หน้าใหม่ที่ไม่รู้วิธีเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์และกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินมาแล้วให้ขายสินค้าและบริการได้ดีขึ้นจากเดิม โดย Tellscore เปิดให้บริการครอบคลุม ส่วน ได้แก่

1.Finding Influencers ค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ได้ง่าย ผ่านเทคโนโลยี AI/ML (Artificial Intelligence/Machine Learning) ที่จะช่วยแนะนำอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความถนัดแต่ละด้านให้ตรงตามความต้องการ เช่น ต้องการโปรโมตสินค้าด้านสุขภาพ ท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม ระบบก็จะแนะนำรายชื่อขึ้นมาให้คลิกเลือกใช้
2.Hiring Influencers ระบบจ้างงาน ช่วยส่งคำสั่งงานให้อินฟลูเอนเซอร์รีวิวและคิดค่าจ้างให้โดยอัตโนมัติ
3.Campaign Management ช่วยสร้างแผนงานในการทำการตลาดผ่านแคมเปญต่างๆ
4.Handing Micro Payments ระบบชำระค่าบริการให้กับอินฟลูเอนเซอร์อัตโนมัติ
5.Measuring Performance จัดทำรายงานสรุปผลการทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์

นอกจากนี้ ยังจัดตั้งเทรนนิ่งอบรมให้กลุ่ม SMEs และอินฟลูเอนเซอร์ ได้มีความรู้ความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน และสร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์ให้โดดเด่น ประทับใจแก่ผู้บริโภคเพื่อสร้างยอดขายที่มากขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ 3 นวัตกรรม มีเครื่องมือเทคโนโลยี ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาและทำให้การดำเนินงานของ SMEs ในยุคดิจิทัลมีความสะดวกมากขึ้น ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่ยังมี นวัตกรรมและเทคโนโลยีในกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม Digital Workplace ที่จะช่วยจัดการระบบการทำงานในองค์กรให้พร้อมสู่ดิจิทัล กลุ่ม e-Logistics จะมีเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง นำเข้าส่งออก ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กลุ่ม HRM (Human Resource Management) ที่มาช่วยในการบริหารจัดการงานบุคลากร และกลุ่ม Marketing/CRM ที่มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด ปิดการขาย สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าให้อยู่กับธุรกิจของเราไปนานๆ ด้วย รวมแล้วกว่า 15 นวัตกรรมเลยทีเดียว สำหรับ SMEs ที่สนใจอยากยกระดับธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ติดตามข้อมูลได้ที่ ETDA ทั้งเว็บไซต์ www.etda.or.th รวมทั้งโซเชียลมีเดีย อย่าง เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand

Scroll to Top