Technology IT

ETDA เปิด 5 ข้อดี e-Saraban ช่วยประชาชน ‘เลิกใช้กระดาษ’ มาติดต่อหน่วยงานรัฐ

หากซาวเสียงชาวยุคดิจิทัลว่ารู้จักคำว่า สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) หรือไม่ คาดว่าหลายคนคงคุ้นเคยไม่น้อย แต่ถ้าเป็นสังคมไร้กระดาษ (Paperless Society) แถมยังเป็นสังคมไร้กระดาษตามหน่วยงานรัฐ ในประเทศไทยด้วยแล้ว คาดว่าภาพจินตนาการของหลายๆ คน น่าจะมีภาพของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจกำลังวุ่นวายอยู่กับการบริหารจัดการกระดาษหลายๆ แผ่น กองเอกสารหลายๆ กอง รวมถึงการถ่ายเอกสารรายงาน ที่ต้องเสียทั้งค่าปริ้น ค่าเย็บเล่ม ค่าขนส่ง ค่าแรง ค่าเสียเวลา แทนที่จะนำเวลาและค่าใช้จ่ายที่สูญไปนี้ นำไปพัฒนารูปแบบการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หลายหน่วยงานต่างพยายามกำลังแก้ปัญหา ‘การบริหารงานเอกสาร’ จากกระดาษ สู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้สอดคล้องตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564 หรือที่เรียกว่า e-Saraban หรือ ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ที่กำหนดขึ้นเพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ส่วนงานราชการลดความซับซ้อนการบริหารงานเอกสารด้วย ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการเตรียมความพร้อม คือ

1.เตรียม e-mail address กลางของทุกหน่วยงาน สำหรับใช้รับและส่งหนังสือราชการ พร้อมจัดอบรมเจ้าหน้าที่ให้สามารถปฏิบัติงานสารบรรณ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบฯ

2.เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ให้สามารถปฏิบัติงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างถูกต้อง เช่น อบรมการใช้อีเมลรับส่งหนังสือ อบรมการใช้โปรแกรมสำหรับทำทะเบียนหนังสือส่งและรับในแบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

ETDA พาสำรวจ 5 ประเทศต้นแบบรัฐบาลดิจิทัล พัฒนา e-Government สร้างบริการเพื่อประชาชน

โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) (Electronic Transactions Development Agency) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะหน่วยงานที่มุ่งส่งเสริมและสนับให้คนไทยเกิดการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ยกระดับการทำงาน การทำธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ถือเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐที่ร่วมผลักดันให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เปลี่ยนผ่านงานเอกสารจากกระดาษ สู่อิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Saraban ที่รองรับการรับ ส่ง เซ็นและเก็บเอกสารทางออนไลน์ที่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่ง ETDA เองได้มีการนำร่องพัฒนาระบบ e-Saraban ใช้เองภายในหน่วยงาน และเปิดให้หน่วยงานภายนอกสามารถนำระบบ e-Saraban ไปใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งปัจจุบันมีการขยายการใช้งานไปทั่วประเทศเรียบร้อย

สำหรับการรับ-ส่งเอกสารผ่านระบบ e-Saraban มีขั้นตอนการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก และเรียนรู้ได้ง่าย เพื่อให้การทำงานระหว่างรัฐต่อรัฐ หรือแม้แต่รัฐต่อเอกชน รัฐต่อประชาชน ง่าย สะดวกรวดเร็วขึ้น ผ่าน 7 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

1.กำหนด e-mail address (อีเมลกลาง) ที่หน่วยงานทุกหน่วยงานต้องมีพร้อม และอาจมี Digital Signature ด้วยได้

2.จัดให้มีเจ้าหน้าที่สารบรรณตรวจสอบ e-mail ที่ส่งเข้ามา ไม่น้อยกว่าวันละ 2 ครั้ง และถ้าเจอ e-mail ที่หน่วยงานอื่นส่งหนังสือมาใน Junk Mail ให้ย้ายมาที่ Inbox ถ้ามีการส่ง e-mail ให้เจ้าหน้าที่โดยตรง ให้ส่งต่อ e-mail นั้นไปที่ e-mail กลาง

3.เมื่อได้รับ e-mail แล้ว ต้องลงทะเบียนเลขรับหนังสือใบทะเบียนหนังสือรับแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ต้องทำในแบบกระดาษซ้ำอีก

4.ตอบกลับ e-mail ไปยัง e-mail ที่ส่งมา หรือ e-mail ที่แจ้งไว้ ในเวลาราชการ ถ้าได้รับนอกเวลาราชการ ให้ตอบรับในเวลาไม่เกิน 10 นาฬิกาของวันทำการถัดไป

5.ให้สำรอง (backup) e-mail ด้วยการดาวน์โหลดออกมาเพื่อจัดเก็บ หรือ forward ไปยัง e-mail หนึ่งที่ใช้สำรองข้อมูลโดยเฉพาะ

6.ให้เจ้าหน้าที่สารบรรณส่ง e-mail ที่ได้รับ ให้ผู้เกี่ยวข้องตามขั้นตอนที่หน่วยงานกำหนดต่อไป ถ้าหน่วยงานใดมีระบบ e-Saraban ให้นำเข้าระบบเพื่อดำเนินการต่อ

7.การรับส่งหนังสือด้วย e-mail สามารถใช้กับหนังสือที่มีชั้นความลับได้ ยกเว้นชั้นลับที่สุด แต่ให้มีมาตรการรักษาความลับ เช่น เข้ารหัส file ข้อมูล แล้วแจ้ง password ให้ผู้รับ ที่มีสิทธิเข้าถึงหนังสือที่มีชั้นความลับนั้นทางช่องทางอื่น

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า การใช้ระบบ e-Saraban นอกจากจะมีขั้นตอนไม่ยาก ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐทำงานคล่องตัว สามารถให้บริการประชาชนได้สะดวกขึ้น ท่ามกลางยุคดิจิทัลที่สถานที่ทำงานไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศ หรือ สำนักงาน ซึ่ง e-Saraban ไม่เพียงทำให้การทำงานเอกสารสะดวก รวดเร็วแล้ว ยังช่วยลดการสูญเสียค่าใช้จ่ายไปกับการทำงานด้วยเอกสารแบบกระดาษ ไม่ว่าจะเป็น ค่าปริ้น ค่าเก็บรักษาค่าการบริการจัดการกับกองเอกสาร เป็นต้น นี่จึงเป็นเหตุที่ว่า ทำไมไม่ว่าหน่วยงานไหนจึงต้องเร่งเปลี่ยนผ่านการทำงาน โดยเฉพาะงานเอกสาร จากเเบบเดิมๆ มาสู่การทำงานยุคใหม่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงประโยชน์ที่จะได้จากการเปลี่ยนผ่านการทำงานเอกสารไปสู่อิเล็กทรอนิกส์ ETDA จึงข้อยกตัวอย่างข้อดีมาให้ดูกัน ดังนี้

1.ประหยัดเวลา จากการเชื่อมโยงระบบ e-Saraban สร้าง ‘อีเมลกลาง’ ช่วยเจ้าหน้าที่รัฐประหยัดเวลางานเอกสาร

2.ลดความซับซ้อนการบริหารงานเอกสารเพิ่มทักษะดิจิทัล ผ่านการพัฒนาระบบการทำงานควบคู่การติดอาวุธทักษะดิจิทัลให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ

3.ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก รับ-ส่งเอกสารทำได้ง่ายๆ ด้วย 7 ขั้นตอน

4.ไร้ข้อจำกัดการทำงาน ด้วยระบบ e-Saraban ยุคดิจิทัลอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ เมื่อเอกสารแผ่นจริงๆ ย้ายมาอยู่บนโลกออนไลน์

5.ประชาชนสะดวกสบาย ประชาชนสามารถทำหนังสือส่งเข้ามาที่อีเมลกลางของหน่วยงานราชการได้ ประหยัดทั้งการเดินทาง เวลา และค่าใช้จ่าย

นอกจากการยกระดับงานด้านเอกสาร ETDA ยังผลักดันให้ทุกภาคส่วนเกิดการทำงานในรูปแบบ “สำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เราเรียกกันว่า e-Office” ผ่านการขับเคลื่อนทั้งกฎหมาย มาตรฐาน รวมถึงข้อเสนอแนะมาตรฐานต่า ๆ ที่เกี่ยวข้อง สู่การเกิดระบบหรือโซลูชันที่จำเป็นต่อการทำงาน มีแนวทางการใช้งานที่มั่นคงปลอดภัยและกฎหมายรองรับ ไม่ว่าจะเป็น สร้าง Guideline การจัดการประชุมออนไลน์ (e-Meeting) การลงคะแนนเสียงทางออนไลน์ (e-Voting) รวมถึงการใช้งานเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) ที่สามารถลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิสก์ (e-Signature) ได้ทุกที่ทุกเวลาได้แล้ว สำหรับหน่วยงานใดที่สนใจอยากจะเปลี่ยนผ่านการทำงาน ต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถติดตามรายละเอียด ได้ที่เว็บไซต์ www.etda.or.th หรือ เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand รวมทั้งโซเชียลมีเดีย ETDA Thailand ทุกช่องทาง

supersab

Recent Posts

LINE MAN เผยเทรนด์ “ชาไทย Specialty” แรงจัด! ยอดสั่งพุ่ง 81% ร้านใหม่ผุด 205%

กระแสชาไทย Specialty ฟีเวอร์! ข้อมูลจาก LINE MAN เผยให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด "ชาไทย Specialty" ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มียอดสั่งซื้อทะยาน 81% ร้านใหม่ตบเท้าเปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง…

2 hours ago

China Unicom to Blanket 300+ Cities with 5G-Advanced by 2025, While Thailand Leads APAC’s 5G Revolution

China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…

3 hours ago

AIS ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสาร ถนนวิทยุ สร้างมหานครสวยงาม ปลอดภัย

AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…

3 hours ago

“Trumpism 2.0” กระแทกโลก! สกสว. ชี้ไทยต้องเร่งเครื่อง BCG Economy ดันนวัตกรรมรับมือ ตั้งเป้าปั้นไทยเป็นฮับเทคโนโลยีอาเซียน ดึงต่างชาติร่วมลงทุน

ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…

3 hours ago

องค์กร 61% กังวลความปลอดภัยคลาวด์ ฟอร์ติเน็ตแนะใช้แพลตฟอร์มรวมศูนย์-เสริมทักษะรับมือภัยคุกคามยุคใหม่

ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดจากรายงานสถานะความปลอดภัยระบบคลาวด์ประจำปี 2568 (2025 State of Cloud Security Report) ซึ่งจัดทำโดย Cybersecurity Insiders ชี้ให้เห็นว่า องค์กรส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องข้อมูล…

4 hours ago

เปิดเทรนด์ “Conscious Travel” สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ยุคสมัยที่โรงแรมเป็นเพียง "ที่นอน" ได้ลาจากไปแล้ว! นักท่องเที่ยวไทยยุคใหม่กำลังมองหาประสบการณ์ที่มากกว่าการพักผ่อน พวกเขาต้องการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น และใส่ใจความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เทรนด์ "Conscious Travel" หรือการเดินทางอย่างมีสติกำลังมาแรง สะท้อนผ่านพฤติกรรมการพักผ่อนที่ยาวนานขึ้นในโรงแรม พร้อมแสวงหาประสบการณ์สุดพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล เจาะลึกเทรนด์นักท่องเที่ยว จากรายงาน Changing…

4 hours ago