Technology IT

DE – ETDA ระดมหน่วยงานรัฐ เร่งเชื่อม “Digital ID” ยกระดับบริการภาครัฐ เผยแผนเร่งผลักดันให้เเล้วเสร็จ ภายในปี 68

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA (เอ็ตด้า) พร้อมด้วยกรมการปกครอง ได้ระดมหน่วยงานภาครัฐกับการประชุมเชิงนโยบายแลกเปลี่ยนความเห็น เรื่อง “การยืนยันตัวตนทางดิจิทัลด้วย Digital ID ในการเข้าใช้บริการ e-Service ของภาครัฐ” เผยเตรียมเร่งเครื่องผนวกการใช้ Digital ID กับการให้บริการภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) โดยมุ่งเน้นครอบคลุมบริการสำคัญๆ พร้อมต่อยอดการใช้งาน Digital ID เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนในกลุ่ม ‘คนต่างด้าว – นิติบุคคล’ เพิ่มเติม

ศาตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า หนึ่งภารกิจสำคัญที่ กระทรวงดิจิทัลฯ ต้องเร่งผลักดันให้เกิดขึ้น คือ การเปลี่ยนผ่านการให้บริการภาครัฐ โดยเฉพาะบริการสำคัญๆ ให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Service เพื่อให้การทำธุรกรรมทางออนไลน์ การติดต่อราชการของประชาชน มีความสะดวกสบาย รวดเร็วและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา เราพบว่า มีภาครัฐหลายหน่วยงานต่างตื่นตัวและให้ความสำคัญในการพัฒนาปรับปรุงบริการของตนเองมาอยู่ในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้นต่อเนื่อง โดยประเด็นที่เราต้องเร่งส่งเสริมและต้องขับเคลื่อนไปต่อ คือ “การผนวกการให้บริการของภาครัฐ กับ การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID)” เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการ e-Service ของภาครัฐ ได้อย่างมั่นใจและน่าเชื่อถือด้วย Digital ID ของตนเองได้อย่างทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการ Digital ID ที่มาจากหน่วยงานภาครัฐหลายเจ้า หนึ่งในนั้นคือ กรมการปกครอง ผ่านบริการที่ชื่อว่า ThaID (ไทย-ดี) ที่วันนี้มีคนไทยลงทะเบียนใช้งานแล้วกว่า 13 ล้านบัญชี ภายใต้การให้บริการที่สอดคล้องกับมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้องคู่ขนานกับการส่งเสริมและการสนับสนุนบริการโดย ETDA ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆ ที่ร่วมกันดำเนินงาน

“ซึ่งหากบริการภาครัฐนำ Digital ID ไปใช้งาน จะก่อให้เกิดประโยชน์ 3 ด้าน ได้แก่ 1. ประโยชน์ต่อประเทศ คือ ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัล 2. ประโยชน์ต่อหน่วยงานราชการช่วยให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมโยงข้อมูลด้านเอกสารและลดขั้นตอนการทำงานในรูปแบบกระดาษ อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาที่แต่ละหน่วยงานจะต้องพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนด้วยตนเอง และ 3. ประโยชน์ต่อประชาชนผู้รับบริการที่สามารถเข้าถึงและรับบริการจากภาครัฐได้รวดเร็วขึ้น ลดขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารในรูปแบบกระดาษ ที่อาจเกิดความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจรั่วไหลได้”

ศาตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อนาคตของ Digital ID จะไม่ได้มีเพียงแค่การพิสูจน์และยืนยันตัวตนว่าเราเป็นใครเท่านั้น แต่จะผูกโยงไปถึงคุณสมบัติของบุคคลนั้นว่ามีคุณสมบัติอย่างไร โดยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีอยู่ในหน่วยงานต่างๆ จะเชื่อมโยงกันผ่านระบบคลาวด์กลางของภาครัฐ ภายใต้โครงการ Government Data Center and Cloud Service หรือ GDCC ที่ตอนนี้คณะทำงานของกระทรวงฯ และหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันทำงานเพื่อให้เกิด Big Data และสามารถบูรณาการข้อมูลข้ามหน่วยงานกันได้อย่างเป็นระบบ เพื่อนำสู่การปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการดิจิทัลสำหรับประชาชนและเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาประเทศในทุกมิติ

ด้าน จิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กล่าวเสริมว่า ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID นั้นเข้ามาช่วยส่งเสริมให้บริการออนไลน์ของทุกภาคส่วนเกิดระบบนิเวศการใช้งานที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ซึ่ง ETDA มองว่าในอนาคตการใช้งาน Digital ID เพื่อเข้าสู่บริการ e-Service ของภาครัฐจะแพร่หลายมากขึ้นแน่นอน เนื่องจากความสะดวกในการใช้งานที่ไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตนซ้ำซ้อนในหลายระบบ ภายใต้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Digital ID ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ ภายใต้การกำกับและดูแลของ ETDA ในฐานะ Regulator หรือหน่วยงานที่ควบคุมดูแลธุรกิจบริการ Digital ID ซึ่งครอบคลุมทั้งการส่งเสริมประสิทธิภาพของระบบการให้บริการให้มีความสอดคล้องตามมาตรฐานสากล มีความมั่นคงปลอดภัย มีการบริหารจัดการความเสี่ยงของระบบ รวมถึงตระหนักถึงสิทธิ หน้าที่และมาตรฐานในการดูแลผู้ใช้บริการ

“ปัจจุบันการให้บริการของภาครัฐมีจำนวนทั้งหมด 3,830 บริการ คาดการณ์ว่าสามารถพัฒนาให้เป็น e-Service ได้ถึง 2,376 บริการ โดยมีบริการที่พัฒนาแล้ว 1,626 บริการ จาก 115 หน่วยงาน และยังมีอีก 750 บริการ จาก 75 หน่วยงานที่ยังไม่ได้พัฒนาเป็น e-Service โดยเป้าหมายการผลักดันให้เกิดการใช้ Digital ID เพื่อเข้าถึงบริการ e-Service ของภาครัฐ โดยคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตั้งเป้าหมายให้ 50% ของ e-Service ของภาครัฐต้องมีการเชื่อมโยงระบบกับบริการ Digital ID ภายในปี 2567 และใช้งานทั้งหมด 100% ในปี 2568 โดย ETDA มีหน้าที่ผลักดัน ประสาน และให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ Digital ID ในทุกภาคส่วน”

จิตสถา กล่าวต่อว่า กลไกขับเคลื่อนการใช้ Digital ID ในบริการ e-service ของภาครัฐของ ETDA จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ การเตรียมความพร้อมโดยหน่วยงานภาครัฐเอง โดย ETDA จะช่วยประเมินความพร้อมของหน่วยงาน พร้อมจัดตั้งทีม ETDA Digital Clinic เป็นการชั่วคราว สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่มีบริการ e-Service และต้องการใช้งาน Digital ID เพื่อให้เขาได้เข้ามาขอคำปรึกษา รวมถึงเตรียมจัด Workshop เพื่อให้ความรู้ ไปจนถึงการประสานงานให้ความช่วยเหลือหน่วยงานภาครัฐ ส่วนที่สอง คือ การขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ซึ่ง ETDA ได้มีกรอบการขับเคลื่อนการให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลประเทศไทยระยะที่ 1 (พ.ศ. 2565 – พ.ศ. 2567) โดยหนึ่งในกลยุทธ์หลักคือ การขับเคลื่อนให้เกิดการให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลครอบคลุมทั้ง กลุ่มบุคคล นิติบุคคล และบุคคลต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อให้การพิสูจน์และยืนยันตัวตนช่วยให้การดำเนินธุรกรรมต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดขั้นตอนความซับซ้อนในการยืนยันตัวตน อีกทั้งยังลดโอกาสความผิดพลาดด้านเอกสาร และป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล ETDA จึงได้ร่วมกับ กรมการกงสุล กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันการขับเคลื่อนให้สัมฤทธิ์ผล และในปี 2567 นี้ ETDA ยังเตรียมออกกรอบการขับเคลื่อนฯ ฉบับที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้งาน (Use case) มากขึ้น โดยมีกลไกเพื่อผลักดันการดำเนินงานที่สำคัญ ที่มุ่งเน้นการทำงานเพื่อส่งเสริมให้ภาครัฐเกิดการใช้งาน Digital ID ให้มากที่สุด เพื่อการให้บริการ e-Service ของภาครัฐสามารถก่อให้เกิดประโยชน์และผลกระทบเชิงบวกต่อประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Microsoft ประกาศตั้ง Data Center แรกในไทย พร้อมเดินหน้าเสริมทักษะ AI ให้คนไทยกว่า 100,000 คน

supersab

Recent Posts

ก.อุตฯ ผนึก World Bank เปิดเกมรุก “Industrial Decarbonization” ดันไทยสู่ Hub ลงทุนสีเขียว

“เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เปิดเวที CEO Forum ชูแนวทาง Industrial Decarbonization ภายใต้โครงการ Low Carbon City หนุนผู้ประกอบการไทยลดคาร์บอน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมลดก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน…

2 hours ago

Tops เขย่าตลาด FMCG ปี 68 ทุ่ม 5,000 รายการ Own Brand ชูคุณภาพพรีเมียม ราคาโดนใจ ผนึกชุมชนโกอินเตอร์

ท็อปส์ (Tops) ประกาศศักดาผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ปี 2568 ทุ่มงบไม่อั้น พัฒนาพอร์ตสินค้า Own Brand ทะลุ 5,000 รายการ ชูจุดแข็งด้านคุณภาพระดับพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้…

3 hours ago

รฟม. แจ้งรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู เปิดให้บริการเดินรถ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) – สถานีตลาดมีนบุรี (PK29) และจัด Feeder รับ – ส่ง สถานีตลาดมีนบุรี (PK29) – สถานีมีนบุรี (PK30)

ตามที่ เกิดเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา โดยแรงสั่นสะเทือนได้ส่งผลกระทบมาถึงกรุงเทพมหานคร ทำให้รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู (MRT สายสีชมพู) ต้องงดให้บริการชั่วคราว เพื่อแก้ไขรางจ่ายไฟเพื่อความปลอดภัยในการเดินรถ นั้น จากการตรวจสอบพบว่าเกิดความเสียหายที่แผ่นปิดรอยต่อคานทางวิ่ง จำเป็นต้องซ่อมแซม ซึ่ง กระทรวงคมนาคม, กรมการขนส่งทางราง…

4 hours ago

“แสตมป์ กระจกเกรียบ” ศิลปะล้ำค่าแห่งสยาม ไปรษณีย์ไทยเปิดตัวแสตมป์ที่ระลึก วันอนุรักษ์มรดกไทย 2568 ดันไทยสู่สายตาโลก

ไปรษณีย์ไทย ได้เปิดตัวแสตมป์ที่ระลึกชุดพิเศษเนื่องในโอกาสวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช 2568 ด้วยการนำเสนอศิลปกรรมอันทรงคุณค่าที่กำลังจะเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ "กระจกเกรียบ" ศิลปะแห่งสยามประเทศที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์แต่กลับหาชมได้ยากยิ่งในปัจจุบัน โดยมีกำหนดการเปิดจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2568 เป็นต้นไป ในราคาดวงละ…

4 hours ago

เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ เปิดตัว “สตาร์บัคส์ บลอนด์ เอสเปรสโซ โรสต์” พร้อม “อาโป” นั่งแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก

เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องชงกาแฟแคปซูลในประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด "สตาร์บัคส์ บลอนด์ เอสเปรสโซ โรสต์" กาแฟแคปซูลสูตรพิเศษที่ผสานความลงตัวของเมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากลาตินอเมริกา มอบรสชาติกาแฟที่เข้มข้นแต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวล พร้อมกลิ่นหอมหวานสดชื่นที่ยากจะต้านทาน ควบคู่ไปกับการเปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุด "แค่คลิกก็ยกคาเฟ่มาไว้ที่บ้าน" ที่มุ่งหวังจะสร้างแรงบันดาลใจให้คอกาแฟชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มกาแฟระดับคาเฟ่ได้ง่ายๆ…

5 hours ago

“Schneider Charge Pro” ปฏิวัติวงการชาร์จ EV ราคาหลักหมื่น ประสิทธิภาพหลักแสน

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดที่จะพลิกโฉมวงการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย กับ "Schneider Charge Pro" เครื่องชาร์จ AC ประสิทธิภาพสูง ที่มาพร้อมราคาที่เข้าถึงได้ เพียงหลักหมื่นบาท แต่เปี่ยมด้วยศักยภาพระดับหลักแสน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจและผู้ใช้งาน "Schneider…

5 hours ago

This website uses cookies.