เปิดตัว OPPO Watch X มาพร้อมการออกกำลังระดับมืออาชีพและการใช้งานทนทานระดับแนวหน้า

เปิดตัว OPPO Watch X มาพร้อมการออกกำลังระดับมืออาชีพและการใช้งานทนทานระดับแนวหน้า

OPPO เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ระดับแฟลกชิปรุ่นใหม่ล่าสุด OPPO Watch X สมาร์ทวอทช์ที่พร้อมเป็นคู่หูยกระดับทุกช่วงเวลาของชีวิต มาพร้อม GPS ความถี่คู่ แทร็คเส้นทางการวิ่งได้อย่างแม่นยำ ตอบโจทย์สายสปอร์ตด้วย Exclusive Running Mode แทร็คข้อมูลการวิ่งได้แม่นยำและเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ใช้งานได้นานยิ่งขึ้นด้วย dual engine และอินเทอร์เฟซแบบไฮบริดโดย Wear OS by Google™ ทำให้มีความทนทานระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 100 ชั่วโมง นอกจากนี้ นาฬิกายังใช้งานได้สูงสุด 12 วัน ด้วยโหมด Power Saver ด้วย Wear OS 4 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเวอร์ชันล่าสุด โดยมาพร้อมกับการเชื่อมต่ออัจฉริยะและ ecosystem ของแอปที่กว้างขวางของ Google Play

เทรนเนอร์มือโปรส่วนตัว

OPPO Watch X ให้ความสำคัญกับเรื่องของความแม่นยำเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะมีความต้องการข้อมูลการตรวจสอบการออกกำลังกายที่ใช้งานได้มากขึ้น จึงมาพร้อมฟังก์ชั่น GPS ความถี่คู่ที่สามารถรับสัญญาณ L1 GPS ทั่วไปและสัญญาณ L5 GPS ขั้นสูง โดยสัญญาณ GPS แต่ละตัวใช้เสาอากาศอิสระสองตัว ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำและความน่าเชื่อถือตำแหน่งของผู้ใช้เมื่อวิ่ง ขี่จักรยาน เดินป่าหรือออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่ GPS ครอบคลุม ด้วย GPS ความถี่คู่พร้อมด้วย Accelerometer, Gyroscope และเซ็นเซอร์วัดแม่เหล็กที่มีความแม่นยำสูง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถทำการแทร็คข้อมูลได้สอดคล้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

สามารถระบุกีฬาอัตโนมัติได้เมื่อผู้สวมใส่กำลังเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเล่นเครื่องกรรเชียงบก สำหรับผู้ชื่นชอบการวิ่ง ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มการจดจำท่าทางการวิ่ง ฟังก์ชันนี้สามารถตรวจจับเวลาการสัมผัสพื้น (GCT) ของนักวิ่ง ความสมดุลระหว่าง GCT ของเท้าซ้ายและขวา ความถี่ก้าว ความยาวก้าว และอื่นๆ ทั้งหมดนี้ได้แบบเรียลไทม์และในสภาพแวดล้อมทั้งในร่มและกลางแจ้ง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขท่าทางการวิ่งของตนได้ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพการวิ่งที่ดีขึ้น

ฟีเจอร์ด้านกีฬาเฉพาะอื่นๆ ที่มี ได้แก่ โหมดแบดมินตัน โดยเฉพาะฟีเจอร์ใหม่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท OPPO ซึ่งมีการรวบรวมข้อมูลผู้เชี่ยวชาญระหว่างการเล่นและสร้างการวิเคราะห์หลังการแข่งขันในห้ามิติของการออกกำลัง โดยใช้พลังระเบิดกล้ามเนื้อ กิจกรรม ความอดทน การเผชิญหน้า และการรุก เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ปรับแง่มุมต่างๆ เช่น ความแข็งแกร่งและความเร็วของวงสวิง เช่นเดียวกับการจดจำท่าวิ่ง ทำให้ผู้สวมใส่สามารถระบุจุดอ่อนของตนและยกระดับการเล่นกีฬาของตนไปอีกขั้น

การติดตามที่แม่นยำสำหรับการจัดการสุขภาพที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากฟีเจอร์การติดตามกีฬาและการออกกำลังกายที่น่าทึ่งแล้ว ยังมาพร้อมฟีเจอร์อีกมากมายที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถจัดการสุขภาพในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการติดตามอัตราการหายใจขณะนอนหลับ ระดับออกซิเจนในเลือดขณะนอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจพื้นฐาน การกรน การเคลื่อนไหวของร่างกาย และพฤติกรรมการนอนหลับอื่นๆ นอกจากนี้ ยังรองรับการติดตามการนอนหลับแบบเต็มรูปแบบ แม้ว่าจะเป็นเพียงการงีบหลับก็ตาม ด้วยรายงานการติดตามการนอนหลับรายสัปดาห์เชิงลึกที่ให้บริการผ่านแอป OHealth ของ OPPO ผู้ใช้ยังสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาการนอนหลับ ความสม่ำเสมอในการนอนหลับ ความเสี่ยงในการนอนกรน และคะแนนการนอนหลับ สามารถติดตามได้อย่างใกล้ชิด โดยข้อมูลการติดตามการนอนหลับที่ครอบคลุมนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจถึงคุณภาพการนอนหลับในแต่ละคืนได้ดีขึ้น และสร้างนิสัยที่นำไปสู่การนอนหลับที่ดีขึ้นได้อีกด้วย

การปรับปรุงการวัดข้อมูลที่เป็นรากฐานคือเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ 8 ช่องที่แม่นยำยิ่งขึ้น และเซ็นเซอร์ออกซิเจนในเลือด 16 ช่อง ซึ่งผู้ใช้สามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด และข้อมูลอื่น ๆ ได้ ด้วยชุดเซ็นเซอร์ขั้นสูงและอัลกอริธึมในตัว โดยยังสามารถติดตามระดับความเครียดในช่วงเวลาที่กำหนด โดยการคำนวณความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV) ได้อีกด้วย

ขณะนี้ OPPO Watch X และแอป OHealth รองรับ Health Connect บน Android แล้ว ซึ่งมีฮับศูนย์กลางใน Android 14 สำหรับจัดการสิทธิ์ข้อมูลจากแอป อุปกรณ์ด้านสุขภาพและฟิตเนสต่างๆ เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถซิงค์ข้อมูลสุขภาพของตนเองที่รวบรวมผ่านตัวนาฬิกา หรือแอป OHealth ได้อย่างปลอดภัยกับแอปที่เข้ากันได้กับ Health Connect

แอปอเนกประสงค์และการซิงค์ที่ลื่นไหลเพื่อประสบการณ์ใช้งานอันชาญฉลาด

ขับเคลื่อนด้วย Wear OS มาพร้อมกับแอปของ Google รวมถึง Google Assistant, Google Maps, Google Wallet และ Google Play สัมผัสความสะดวกสบายอีกระดับด้วยการมาพร้อม Google Maps สำหรับ Wear OS – นำทางการขนส่งสาธารณะได้อย่างง่ายดายจากข้อมือของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถจัดการบอร์ดดิ้งพาส ตั๋วกิจกรรม และอื่นๆ อีกมากมายบนนาฬิกาได้โดยตรงด้วยบัตร Google Wallet ที่ใช้งานได้กับ Wear OS ด้วย Google Play บนนาฬิกา ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอป Google และแอปอื่นๆ ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Gmail และ WhatsApp แอปเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับสมาร์ทวอทช์ โดยตอบสนองความต้องการที่หลากหลายตั้งแต่สุขภาพและการออกกำลังกายไปจนถึงประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้ใช้งานได้สะดวกและหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับ Fast Match ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อและตั้งค่านาฬิกาของคุณกับ OPPO หรือสมาร์ทโฟน Android อื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว การจับคู่ที่ลื่นไหลนี้ช่วยให้คุณสามารถกดรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้า ควบคุมการเล่นเพลง ตรวจสอบและตอบกลับข้อความ WhatsApp และเข้าถึงฟีเจอร์ที่รองรับเพิ่มเติมได้โดยตรงจากข้อมือของคุณ

ความทนทานระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม

มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 500mAh และ ชาร์จไว Watch VOOC รองรับการใช้งานหลายวันและการชาร์จใหม่อย่างรวดเร็ว สามารถชาร์จเต็มได้ภายในเวลาเพียง 60 นาที หรือใช้งานได้ถึง 24 ชั่วโมงในเวลาชาร์จเพียง 10 นาที

การขับเคลื่อนความทนทานระดับสูงบน คือ dual engine ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ OPPO พร้อมด้วยชิปเซ็ตสองชุดแยกกัน ได้แก่ Snapdragon® W5 Gen 1 SOC และ BES2700 MCU ภายใต้สถาปัตยกรรม dual engine อันล้ำสมัย ชิปสองตัวของนาฬิกาได้รับการปรับแต่งให้ทำงานควบคู่กับอินเทอร์เฟซแบบไฮบริดของ Wear OS ช่วยให้ชิป BES2700 ที่มีประสิทธิภาพสามารถทำงานได้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น การรับสายโทรศัพท์และการแสดงการแจ้งเตือน ในขณะที่ชิป Snapdragon® W5 Gen 1 ประสิทธิภาพถูกเปิดใช้งานเพื่อรองรับการทำงานประสิทธิภาพสูงและแอป Wear OS บน Watch X ผู้ใช้จะได้สัมผัสกับความสมดุลสูงสุดระหว่างประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน ขับเคลื่อนด้วยสถาปัตยกรรม dual engine ทำให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานสูงสุด 100 ชั่วโมง เมื่ออยู่ในโหมดอัจฉริยะที่มีฟีเจอร์ครบถ้วน และนานสูงสุด 12 วันในโหมด Power Saver

Justin Liu, Director of Wearable Business Unit at OPPO กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับ Wear OS เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหลและประหยัดพลังงานบน OPPO Watch X ทำให้เป็นคู่หูที่เชื่อถือได้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างไลฟ์สไตล์สุขภาพดีและมีชีวิตชีวา ”

การออกแบบที่หรูหราและโครงสร้างที่เชื่อถือได้ อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันแบบองค์รวมและประสิทธิภาพอันทรงพลังในการออกแบบที่ประณีต จอแสดงผล AMOLED ขนาดใหญ่ 1.43 นิ้ว ที่มีความละเอียด 326 PPI และอัตราการรีเฟรชสูงสุด 60Hz รับประกันประสบการณ์การรับชมที่สดใสและตอบสนองตลอดเวลา ได้รับการปกป้องด้วยฝาครอบคริสตัลแซฟไฟร์ 2.5D เพื่อการต้านทานรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือที่ดียิ่งขึ้น โดยไม่กระทบต่อความคมชัดของหน้าจอ การออกแบบที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งของนาฬิกาคือโครงสเตนเลสสตีลที่ทนทาน ซึ่งได้รับการขัดเงาเพื่อสร้างความรู้สึกพรีเมียม ในขณะที่ปุ่มและกรอบตรงกลางได้รับการผสมผสานอย่างลงตัวเพื่อให้นาฬิกามีโครงสร้างที่แข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา

ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้กว้างไกลยิ่งขึ้น “เราได้ทำการอัปเดตที่สำคัญกับอินเทอร์เฟซแบบไฮบริดของ Wear OS เพื่อรองรับความสามารถใหม่ๆ ที่ทำงานบน dual-engine ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ OPPO” John Renaldi, Senior Director of Product and Design, Wear OS by Google กล่าว “ด้วยความร่วมมือนี้ OPPO Watch X จะสลับระหว่างกลไกที่ใช้พลังงานต่ำและประสิทธิภาพสูงอย่างโปร่งใส เพื่อมอบประสบการณ์สมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียมที่มีฟีเจอร์หลากหลายพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ปรับให้เหมาะสม” ผ่านมาตรฐานทางทหาร MIL-STD-810H ของสหรัฐอเมริกา ทำให้มั่นใจได้ถึงความทนทานสูงแม้ภายใต้สภาวะที่ยากลำบากและสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง และยังรองรับการกันฝุ่นที่ IP68 และการทนน้ำที่ 5ATM อีกด้วย

มาพร้อม 2 สีให้เลือกได้แก่ สีน้ำตาล Mars Brown และสีดำ Platinum Black วางจำหน่ายในราคา 11,990 บาท พิเศษเมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2567 รับฟรีของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 3,599 บาท OPPO Watch X Strap มูลค่า 599 บาท , MyOPPO Coupon คูปองส่วนลดสูงสุด 2,000 บาท และ Bundle Promotion ลดทันที 1,000 บาท เมื่อซื้อคู่กับโทรศัพท์ OPPO หรือ OPPO Pad Series ผู้ที่สนใจสามารถไปทดลองและสัมผัสได้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/oppothai

Haier ส่งเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ UV Cool Premium หนุนยอดขายโตช่วงซัมเมอร์

Scroll to Top