Google ประเทศไทย ร่วมฉลอง “Pride Month” จากการมุ่งเน้นการให้ความสำคัญด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม ซึ่งมีความสำคัญในการช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และไอเดียใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่มทั่วโลกอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม และเนื่องในวันที่ 27 ของเดือนเดียวกันนี้เป็นวัน “SME สากล” Google ประเทศไทย จึงถือโอกาสร่วมฉลองด้วยการสนับสนุนธุรกิจ SME จากกลุ่ม LGBTQ+ และธุรกิจที่สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ โดยเชิญชวนผู้ประกอบการธุรกิจ SME เหล่านี้จำนวน 30 ราย มาร่วมทำคอนเทนต์โพสต์ฝากร้าน เพื่อช่วยโปรโมตและสนับสนุนธุรกิจ SME ทั้ง 30 รายนี้ตลอดเดือนมิถุนายน ศกนี้ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย Google ประเทศไทย
อภิชญา เตชะมหพันธ์ หัวหน้าฝ่าย Google Customer Solutions ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “Google ตระหนักดีว่าธุรกิจ SME นั้นมีบทบาทในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่ง Google เองได้มุ่งมั่นให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SME มาโดยตลอด โดยในเดือนมิถุนายนนี้ เราได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อให้ความสำคัญกับ Pride Month ไปพร้อมกับการสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการกลุ่ม LGBTQ+ เพื่อฉลองวัน SME สากล ด้วยการโปรโมตธุรกิจ SME จำนวน 30 ร้านตลอดเดือนมิถุนายนนี้
–LINE MAN Wongnai ให้สวัสดิการแต่งงานเพศเดียวกัน 20,000 บาท เทียบเท่าคู่แต่งงานชาย-หญิง
–“ดีแทค” จับมือ “แสนสิริ” และ “ยูนิลีเวอร์” 3 องค์กรต้นแบบความเท่าเทียม ภายใต้การสนับสนุนของ UNDP ปีที่ 3
ซึ่งร้าน SME ที่เราได้ร่วมกิจกรรมด้วยในครั้งนี้เป็นร้านที่ใช้เทคโนโลยีในการต่อยอดธุรกิจ เช่น ผู้ประกอบธุรกิจประเภทร้านอาหาร ร้านค้า และอื่นๆ ที่ใช้ Business Profile สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ให้ลูกค้าหาเจอบน Google Search และ Maps รวมไปถึงการเพิ่มคุณลักษณะ LGBTQ+ friendly บนโปรไฟล์ร้านเพื่อแสดงความยินดีต้อนรับลูกค้า LGBTQ+ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Google อยากร่วมประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของธุรกิจร่วมสนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมผ่านการใช้ Business Profile ที่สามารถช่วยสื่อสารคุณลักษณะเด่นและเพิ่มศักยภาพธุรกิจในโลกออนไลน์ได้มากขึ้น ซึ่งฟีเจอร์ต่างๆ ใน Business Profile สามารถใช้และแก้ไขได้อย่างง่ายดาย ไม่ซับซ้อน เหมาะกับเจ้าของธุรกิจทุกๆ คน”
และนี่คือเสียงความประทับใจจากตัวแทนบางส่วนจาก 30 ธุรกิจ SME ที่ได้ร่วมกิจกรรมในโครงการนี้
กชกร ภูระยา เจ้าของธุรกิจเสื้อกล้ามทอม Hook Best Look หนึ่งในธุรกิจที่ใช้คุณลักษณะ LGBTQ+ friendy บนโปรไฟล์ร้าน กล่าวว่า “ธุรกิจของเราเปิดบริการมา 8 ปี โดยเริ่มจากการตามหาเสื้อกล้ามที่ใส่สบาย รัดกระชับแต่ไม่อึดอัด และเนื้อผ้ามีคุณภาพยึดหยุ่นดี จนได้เริ่มผลิตเพื่อลองใส่เองก่อน จากนั้นได้พัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้น โดยเน้นเรื่องวัสดุและการดีไซน์เพราะต้องการให้ลูกค้ามีสุขภาพหน้าอกที่ดีในระยะยาว หลังจากที่เริ่มธุรกิจก็ได้รู้จักกับ Business Profile ซึ่งมีเครื่องมือที่ใช้งานได้สะดวกและง่ายมาก ทำให้สามารถแก้ไขข้อมูล โพสต์ และสื่อสารกับลูกค้าได้ตลอด 24 ชม. ทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักของลูกค้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเราก็อยากเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้นจึงได้ลองใช้โฆษณาผ่าน Google Ads
นอกจากนี้ ฟีเจอร์ใน Business Profile ที่ทำให้ธุรกิจของเราโดดเด่นอีกอย่างคือ การเพิ่มคุณลักษณะต่างๆ เช่น ร้านเราได้เพิ่มคุณลักษณะ LGBTQ+ friendly ซึ่งฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้สามารถสร้างความสบายใจให้กับลูกค้าก่อนที่จะเดินทางมาถึงหน้าร้าน และสำหรับกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกับ Google ในเดือน Pride Month และวัน SME สากล นี้ ก็หวังว่าจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ทำธุรกิจทุกๆ กลุ่ม รวมไปถึงขอฝากถึงเพื่อนๆ กลุ่ม LGBTQ + ที่อยากเริ่มธุรกิจ ให้ลองมองหาสิ่งที่ชอบให้เป็นอาชีพที่ใช่ นอกจากนั้นคือต้องศึกษาเทคโนโลยีอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาศักยภาพทั้งตัวเราและธุรกิจให้ไปต่อได้”
ด้าน ทัชชญา วชิรบุญเสริม และคุณธีร์ธนัตถ์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา เจ้าของกิจการสายสะพานกล้อง Yesidid.camerastrap หนึ่งในร้านที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้กล่าวว่า “ร้านเปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 เริ่มต้นด้วยการซื้อกล้องตัวแรกแล้วไม่ชอบสายสะพายสีดำที่มาพร้อมกล้อง เพราะอยากได้แบบวินเทจๆ ที่เข้ากับกล้องเรา จึงจุดประกายให้ลองทำสายกล้องเอง ปัจจุบัน มีสินค้าที่แตกไลน์ออกมาหลายอย่าง เช่น สายกีต้าร์ สายคล้องบัตรพนักงาน และสายกล้องแบบใหม่ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ และรู้สึกขอบคุณ Google ที่ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจ SME มาโดยตลอด โดยเฉพาะ Business Profile ให้คนทำธุรกิจได้ใช้ง่ายและไม่ซับซ้อน ทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาและเจอเราบนออนไลน์ได้ตลอดเวลา ซึ่งทำให้เราสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้รวดเร็วโดยไม่ต้องใช้หลายแพลตฟอร์ม และสำหรับในช่วงฉลอง Pride Month นี้ขอฝากถึงเพื่อนๆ กลุ่ม LGBTQ+ ว่าอยากให้ทุกๆ คนเคารพในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนเราคือเราที่เท่าเทียมกับคนอื่น เชื่อมั่นในตัวเองและสิ่งที่เรากำลังทำ เราไม่สามารถกำหนดความคิดใครได้ แต่เราสามารถกำหนดความสำเร็จของตัวเราเองได้”
สำหรับผู้ประกอบการอื่นๆ ที่ใช้บริการ Business Profile อยู่แล้วและต้องการเพิ่มคุณลักษณะ LGBTQ+ friendly รวมถึงการอัปเดตรายละเอียดอื่นๆ บนหน้าโปรไฟล์ก็สามารถทำได้ง่ายๆ และสำหรับผู้ที่มองหาร้านสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ สามารถเข้าไปดูโปรไฟล์ที่มีคุณลักษณะ LGBTQ+ friendly ได้ที่หน้าโปรไฟล์ร้านใน Google Maps
