ในงาน Google Cloud Next ‘23 ที่ผ่านมา Google Cloud ได้ประกาศความร่วมมือและชุดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อช่วยให้ธุรกิจองค์กรและภาครัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถทดลองใช้และสร้างแผนงานต่าง ๆ ด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และโมเดล generative AI (gen AI) ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังสามารถเลือกใช้ ผสมผสานและปรับแต่งเครื่องมือต่าง ๆ ลงในแอปพลิเคชันได้อย่างราบรื่นด้วยฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่ติดตั้งในตัว ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และ AI ที่มีความรับผิดชอบ
ความสามารถและแอปพลิเคชันที่ทำให้ gen AI เป็นนวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการธุรกิจไปทั่วโลกนั้น จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่ละเอียด ซับซ้อนและมีความสามารถมากที่สุด ซึ่ง Google Cloud ลงทุนในศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายมาเป็นเวลา 25 ปี และปัจจุบันมีเครือข่ายที่ประกอบด้วย Cloud Regions 38 แห่งทั่วโลก โดย Google Cloud ตั้งเป้าดำเนินงานโดยใช้พลังงานที่ปราศจากคาร์บอนอย่างสิ้นเชิงทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงภายในปี 2573 ทั้งนี้ เครือข่ายของ Google Cloud ทั่วโลกประกอบด้วย ระบบคลาวด์ภูมิภาคในอินโดนีเซียและสิงคโปร์ ก่อนจะตามมาด้วยระบบคลาวด์ภูมิภาคใหม่ในมาเลเซียและไทย ดังนั้นโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มประสิทธิภาพ AI ของ Google Cloud จึงเป็นตัวเลือกชั้นนำสำหรับการฝึกอบรมและการให้บริการโมเดล gen AI โดยกว่า 70% ของเหล่ายูนิคอร์น gen AI เช่น AI21, Anthropic, Cohere, Jasper, Replit, Runway, และ Typeface ได้ใช้งานและสร้างโมเดลบน Google Cloud
–Google Cloud Next ‘23 เปิดตัว Duet AI เสริมแกร่งพลัง AI บน Google Workspace และ Google Cloud
เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรียกใช้ AI เพื่อช่วยทำงานได้อย่างคุ้มค่าและปรับขนาดได้ตามความต้องการ Google Cloud ได้เปิดตัวการยกระดับที่สำคัญสำหรับ AI-optimized infrastructure portfolio ในชื่อ Cloud TPU v5e ที่เปิดให้ใช้งานแบบตัวอย่าง และ A3 VM with NVIDIA H100 GPU ที่เปิดให้ใช้งานได้ทั่วไปแล้ววันนี้
Cloud TPU v5e เป็นตัวเร่ง AI ที่คุ้มค่า อเนกประสงค์ และปรับขนาดได้มากที่สุดของ Google Cloud จนถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ลูกค้าสามารถใช้แพลตฟอร์ม Cloud Tensor Processing Unit (TPU) เพื่อดำเนินการทั้งการฝึกอบรม AI ขนาดใหญ่และการอนุมาน (inferencing) ได้ในแพลตฟอร์มเดียว โดย Cloud TPU v5e มอบประสิทธิภาพการฝึกที่สูงขึ้นถึง 2 เท่าต่อดอลลาร์ และประสิทธิภาพการอนุมานที่สูงขึ้นถึง 2.5 เท่าต่อดอลลาร์สำหรับ LLM และโมเดล gen AI ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ Cloud TPU v4 แล้ว องค์กรจำนวนมากจะสามารถฝึกฝนและปรับใช้ AI ที่ใหญ่และซับซ้อนยิ่งขึ้นได้ ในขณะนี้ Cloud TPU v5e เปิดให้ใช้งานแบบตัวอย่างในภูมิภาคคลาวด์ของ Google Cloud ในลาสเวกัสและโคลัมบัส โดยมีแผนจะขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึง Cloud Region ของสิงคโปร์ของ Google Cloud ภายในปลายปีนี้
A3 VMs ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนโดยหน่วยประมวลผลกราฟิก H100 (GPU) ของ NVIDIA จะวางจำหน่ายทั่วไปในเดือนหน้า โดย A3 VM ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ มีประสิทธิภาพการฝึกอบรมเร็วขึ้น 3 เท่า เมื่อเทียบกับ A2 รุ่นก่อน ซึ่งตัว A3 VM นี้สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อฝึกฝนและให้บริการทำงาน LLM และ gen AI ที่มีความต้องการสูงเป็นพิเศษ โดยบนเวทีที่งาน Google Cloud Next ’23 บริษัท Google Cloud และ NVIDIA ยังได้ประกาศการขยายความร่วมมือของสองบริษัท เพื่อช่วยให้องค์กรใช้เทคโนโลยี NVIDIA ได้ในแบบเดียวกับที่ Google DeepMind และทีมวิจัยของ Google ใช้งานในช่วงสองปีที่ผ่านมา
Mark Lohmeyer รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์และ ML ของ Google Cloud กล่าวว่า “เป็นเวลากว่าสองทศวรรษแล้วที่ Google ได้สร้างความสามารถด้าน AI ชั้นนำในอุตสาหกรรม ตั้งแต่การสร้างสถาปัตยกรรม Transformer ของ Google ที่ทำให้ gen AI เป็นจริงได้ ไปจนถึงโครงสร้าง AI-optimized ที่เราสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพที่จำเป็นสำหรับผลิตภัณฑ์ของ Google เช่น YouTube, Gmail, Google Maps, Google Play และ Android ที่ให้บริการแก่ผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลก และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะนำนวัตกรรมและการวิจัยนานหลายทศวรรษมาสู่ลูกค้าของ Google Cloud และตอบสนองความต้องการในการเปลี่ยนแปลง AI โดยครั้งนี้เรานำเสนอโซลูชันที่สมบูรณ์สำหรับ AI ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับ AI ไปจนถึงซอฟต์แวร์และบริการแบบ end-to-end ที่สนับสนุนวงจรการใช้งานเต็มรูปแบบของการฝึกอบรมโมเดล การปรับแต่ง และการให้บริการในระดับโลก”
นอกเหนือจากโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกแล้ว Google Cloud ยังนำเสนอ Vertex AI แพลตฟอร์ม AI แบบครอบคลุมที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง ปรับแต่ง และปรับใช้ first-party model third-party model และ open-source model รวมถึง AI แอปพลิเคชันที่ช่วยสร้างและขยายขนาดระดับองค์กรได้อีกด้วย โดยจากการเปิดตัว gen AI support on Vertex AI ทำให้ Google Cloud กำลังขยายขีดความสามารถของ Vertex AI อย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้:
Google ประเมินผลโมเดลอย่างเข้มงวดและแม่นยำเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามหลักการ Responsible AI Principles ของบริษัท เมื่อใช้ Vertex AI ลูกค้าจะสามารถควบคุมข้อมูลของตนได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่จำเป็นต้องออกจากระบบเช่าคลาวด์ของลูกค้า รวมถึงลูกค้าจะได้รับการเข้ารหัสทั้งระหว่างรับส่งและพักอยู่ และไม่มีการแชร์หรือใช้เพื่อทดสอบโมเดลของ Google อย่างแน่นอน
Thomas Kurian ซีอีโอของ Google Cloud กล่าวว่า “การควบคุมข้อมูล เป็นสิ่งที่สำคัญพอ ๆ กับการค้นหาและฝึกใช้โมเดลที่เหมาะสมต่อการทำงาน โดยตั้งแต่เริ่มต้น เราได้ออกแบบ Vertex AI เพื่อให้คุณสามารถควบคุมและแยกข้อมูล โค้ด และทรัพย์สินทางปัญญาได้อย่างสมบูรณ์โดยที่ข้อมูลไม่เกิดการรั่วไหลแม้แต่น้อย เมื่อคุณปรับแต่งและฝึกใช้โมเดลของคุณด้วย Vertex AI ที่มีเอกสารส่วนตัวและข้อมูลจากแอปพลิเคชัน SaaS ฐานข้อมูล หรือแหล่งที่มาที่เป็นกรรมสิทธิ์อื่น ๆ คุณจะไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเหล่านั้นแก่โมเดลพื้นฐาน เพราะเราทำการ snapshot โมเดลเพื่อให้คุณสามารถฝึกและรวมโมเดลเข้าด้วยกันในการกำหนดค่าส่วนตัว ซึ่งทำให้คุณควบคุมข้อมูลของคุณได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ พรอมต์และข้อมูลของคุณ ตลอดจนอินพุตของผู้ใช้ในระยะเวลาความเร็วในการแปรผลของแบบจําลอง จะไม่ถูกใช้เพื่อปรับปรุงโมเดลของเรา และไม่ถูกเข้าถึงจากลูกค้ารายอื่นอีกด้วย”
องค์กรต่าง ๆ ในครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมและทั่วโลกต่างใช้ Vertex AI เพื่อสร้างและปรับใช้แอปพลิเคชัน AI ได้แก่บริษัท affable.ai, Aruna, Bank Raykat Indonesia, FOX Sports, GE Appliances, HCA Healthcare, HSBC, Jiva, Kasikorn Business-Technology Group Labs, KoinWorks, The Estée Lauder Companies, รัฐบาลสิงคโปร์, Mayo Clinic, Priceline, Shopify, Wendy’s และอีกมากมาย
“นับตั้งแต่ประกาศ gen AI support on Vertex AI เมื่อไม่ถึงหกเดือนที่ผ่านมา เรารู้สึกตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นการใช้งานอย่างสร้างสรรค์จากลูกค้าทุกประเภท ตั้งแต่ระดับองค์กร เช่น GE Appliances ที่ได้ใช้งานแอปสำหรับผู้บริโภค SmartHQ เพื่อมอบความสามารถในการสร้างสูตรอาหารแบบหลากหลายที่อิงจากอาหารในครัว ไปจนถึงสตาร์ทอัพยูนิคอร์นอย่าง Typeface ที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จาก AI ในการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจขององค์กร เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้เราเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยจำนวนบัญชีลูกค้า Vertex AI เพิ่มขึ้นกว่า 15 เท่าในไตรมาสที่แล้ว” Kurian กล่าวปิดท้าย
AIS และ True Corporation สองผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ ได้ประกาศความพร้อมในการเปิดใช้งานระบบแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast และ SMS ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อหน่วยงานภาครัฐสั่งการ AIS: ระบบ Cell…
กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ จับมือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ 5 องค์กรธุรกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)…
“เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เปิดเวที CEO Forum ชูแนวทาง Industrial Decarbonization ภายใต้โครงการ Low Carbon City หนุนผู้ประกอบการไทยลดคาร์บอน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมลดก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน…
ท็อปส์ (Tops) ประกาศศักดาผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ปี 2568 ทุ่มงบไม่อั้น พัฒนาพอร์ตสินค้า Own Brand ทะลุ 5,000 รายการ ชูจุดแข็งด้านคุณภาพระดับพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้…
ตามที่ เกิดเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา โดยแรงสั่นสะเทือนได้ส่งผลกระทบมาถึงกรุงเทพมหานคร ทำให้รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู (MRT สายสีชมพู) ต้องงดให้บริการชั่วคราว เพื่อแก้ไขรางจ่ายไฟเพื่อความปลอดภัยในการเดินรถ นั้น จากการตรวจสอบพบว่าเกิดความเสียหายที่แผ่นปิดรอยต่อคานทางวิ่ง จำเป็นต้องซ่อมแซม ซึ่ง กระทรวงคมนาคม, กรมการขนส่งทางราง…
ไปรษณีย์ไทย ได้เปิดตัวแสตมป์ที่ระลึกชุดพิเศษเนื่องในโอกาสวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช 2568 ด้วยการนำเสนอศิลปกรรมอันทรงคุณค่าที่กำลังจะเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ "กระจกเกรียบ" ศิลปะแห่งสยามประเทศที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์แต่กลับหาชมได้ยากยิ่งในปัจจุบัน โดยมีกำหนดการเปิดจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2568 เป็นต้นไป ในราคาดวงละ…
This website uses cookies.