การสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของหัวเว่ยเสมอมา ในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่ให้บริการคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) ชั้นนำในประเทศไทย หัวเว่ยได้นำแพลตฟอร์มคลาวด์ระดับโลกมาช่วยให้องค์กรทุกขนาดในทุกภาคอุตสาหกรรมของไทย ประยุกต์ใช้เพื่อขยายศักยภาพธุรกิจไปสู่การเป็นผู้เล่นชั้นนำทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค หรือแม้แต่ในระดับโลก ด้วยการให้บริการคลาวด์ที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ มีประสิทธิภาพการใช้งานในระดับสูงจากการมีศูนย์ข้อมูลในประเทศ และยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมสนับสนุนลูกค้าในทุกด้าน
–ดีอีเอส พบข่าวปลอมนโยบายรัฐพุ่งไม่หยุด ด้าน“การลงทุน-สินเชื่อกู้ยืม” ยังติดท็อป 10
ซึ่งในปี พ.ศ. 2566 นี้ เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศถึงความพร้อมที่จะรุกขยายฐานการให้บริการคลาวด์ในไทยให้ครอบคลุมมากขึ้น รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้แก่ลูกค้าไทยจำนวนมากยิ่งกว่าเดิม ตามเจตจำนงของหัวเว่ยที่ประกาศอย่างชัดเจนว่า “จะไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง” และให้ความสำคัญกับธุรกิจท้องถิ่นทุกขนาดในประเทศเพื่อการมุ่งสู่ยุคดิจิทัล
เดวิด หลี่ ได้กล่าวถึงทิศทางในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลบนคลาวด์อย่างสมบูรณ์แบบ ว่า “เพื่อการวางรากฐานด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีของประเทศให้แข็งแกร่ง และเพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐของไทยจะยืนหยัดสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคง หัวเว่ยได้ลงทุนในกลุ่มธุรกิจคลาวด์อย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา หัวเว่ยเปิดตัวศูนย์ข้อมูลสำหรับให้บริการคลาวด์ (Availability Zone) ในประเทศไทยโดยเฉพาะ เป็นแห่งที่สามในกรุงเทพฯ ตอกย้ำจุดยืนผู้นำด้านการเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์เพียงรายเดียวที่มีศูนย์ข้อมูลของตนเองในไทย และเป็นรายเดียวที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูลในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ”
นอกจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน หัวเว่ยยังลงทุนด้านการสร้างบุคลากรดิจิทัลสำหรับเทคโนโลยีคลาวด์ในไทยอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้จัดโครงการแข่งขัน ‘Spark Ignite 2022’ สำหรับสตาร์ทอัพในประเทศไทยเพื่อพัฒนาศักยภาพ ต่อยอดไอเดียของตนจนสร้างนวัตกรรมชั้นยอดสู่ตลาดโลก โดยทีมผู้เข้าแข่งขันได้ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ รวมไปถึงคลาวด์ของหัวเว่ยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้จัด HUAWEI CLOUD Developer Contest Thailand การแข่งขันนักพัฒนาเทคโนโลยีบนคลาวด์อย่างต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2563 – 2564 เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพบุคลากรไอซีทีไทยในทุกระดับ รวมถึงการจัดโครงการ Huawei Developer Competition 2022 เพื่อให้เหล่านักพัฒนาในไทยและจาก 5 ภูมิภาคทั่วโลกสร้างโซลูชันด้วยเทคโนโลยี และส่งเสริมการสร้างอีโคซิสเต็มของคลาวด์ที่แข็งแกร่ง จนถึงปัจจุบัน หัวเว่ยได้สนับสนุนให้สตาร์ทอัพในประเทศไทยให้เติบโตกว่า 1,700 รายด้วยเทคโนโลยีคลาวด์ และยังให้บริการคลาวด์ที่มีความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือแก่องค์กรในประเทศไทยกว่า 1,200 แห่ง รวมทั้งสนับสนุนพันธมิตรในประเทศมากกว่า 300 ราย ใน 15 ภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ หัวเว่ยคลาวด์ยังปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายไทย เพื่อการปกป้องข้อมูลของลูกค้าในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด
ในปี พ.ศ. 2566 นี้ หัวเว่ยตั้งเป้าจะสร้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านต่างๆโดยเฉพาะด้านคลาวด์ในประเทศไทย 20,000 รายเข้าสู่ตลาด รวมถึงจะนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีคลาวด์, AI และ 5G ผ่านการร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร รวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำ สมาคมและองค์กรต่าง ๆ มาช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับกลุ่มเอสเอ็มอี นอกจากนี้ หัวเว่ยจะเดินหน้าเสริมสร้างระบบนิเวศคลาวด์ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ผ่านกลยุทธ์ “Cloud First” และ “Everything as a Service” ด้วยการให้บริการคลาวด์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมให้กับทุกกลุ่มธุรกิจรวมถึงธุรกิจสตาร์ทอัพ ขนานไปกับการสร้าง “นักพัฒนาด้านคลาวด์” ผ่านการจับมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการสร้างองค์ความรู้ พัฒนาทักษะและสร้างประสบการณ์จากการลงมือปฏิบัติจริง ทั้งในด้านคลาวด์ การบริหารจัดการเก็บข้อมูล (Storage), Big Data, AI และทักษะดิจิทัลต่าง ๆ ให้กับบุคลากรในพื้นที่ห่างไกล โดยหัวเว่ยตั้งเป้าหมายที่จะฝึกอบรมนักพัฒนาในประเทศไทยกว่า 50,000 คน ให้มีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีคลาวด์ภายในระยะเวลา 3 ปี และเพื่อเป็นการต่อยอดโครงการแข่งขัน ‘Spark Ignite 2022’ ในปีนี้ หัวเว่ยจะสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพทั่วประเทศ ผ่านการเชิญเข้าร่วมโครงการ และจะนำความชำนาญทางเทคโนโลยีมาเสริมความรู้ ทักษะ และสนับสนุนสตาร์ทอัพด้วยการให้คำแนะนำในการวางกลยุทธ์สู่ตลาดแบบตรงเป้าหมาย นำไปสู่การขยายตลาดและสร้างความสามารถทางการแข่งขันได้ในที่สุด
จากความมุ่งมั่นและเป้าหมายในการให้บริการคลาวด์เพื่อยกระดับมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที รวมถึงการพัฒนาทักษะบุคลากรในระดับท้องถิ่นของไทยให้มีปริมาณที่เพียงพอ และมีความสามารถทัดเทียมกับตลาดแรงงานในระดับภูมิภาค หัวเว่ยมั่นใจว่าจะสามารถสร้างอีโคซิสเต็มของคลาวด์ในประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง ช่วยขับเคลื่อนสู่การเป็น “ประเทศไทยอัจฉริยะ” ที่เชื่อมถึงกันอย่างสมบูรณ์แบบในยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริง
เซ็นทรัลพัฒนา ผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำด้าน Edutainment กว่า 300 สถาบัน รวมถึง Playland สุดฮิต จัดแคมเปญ The Little Campus 2024 เปลี่ยนศูนย์การค้าเซ็นทรัลให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้…
เดนทิสเต้ เดินหน้านำ 3 กิจกรรมสุดยิ่งใหญ่เหนือใคร พาศิลปินระดับโลกชาวไทยอย่าง “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวเดนทิสเต้ ในฐานะ Brand Ambassador ของประเทศไทย มาสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับแฟนๆ ชาวไทยผ่าน…
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ปิดดีลขายที่ดิน 2 แปลง รับ 700 ล้านบาท พร้อมออกหุ้นกู้ 2 ชุด ดอกเบี้ยสูง 7% และ 7.25%…
กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่ชาติ (เนคเทค สวทช.) และ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติ Digital…
นายวิทยา พันธุ์มงคล รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ รฟม. ได้ดำเนินการตามนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบาย Quick Win “คมนาคม…
กฟผ. ร่วมออกบูท EGAT EV Business Solutions (บูท EV3/2) ในงาน Bangkok EV Expo 2024 เพื่อส่งต่อความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการพัฒนาและการบริหารจัดการเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า…