Huawei เปิดตัวโซลูชันเครือข่ายอัจฉริยะ ปฏิวัติวงการ ICT รับโอกาสทองแห่งอนาคต ในงาน MWC Barcelona 2025

Huawei เปิดตัวโซลูชันเครือข่ายอัจฉริยะ ปฏิวัติวงการ ICT รับโอกาสทองแห่งอนาคต ในงาน MWC Barcelona 2025

ในงาน MWC Barcelona 2025 ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ หัวเว่ย (Huawei) ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญด้วยการเปิดตัวโซลูชันเครือข่ายอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับศักยภาพของผู้ให้บริการโทรคมนาคมในการคว้าโอกาสจากยุคแห่ง AI อย่างเต็มรูปแบบ การประกาศครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในระดับโลก

AI คือหัวใจของการเปลี่ยนแปลง สู่โลกอัจฉริยะที่เข้าถึงได้

หยาง เฉาปิง กรรมการและประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันไอซีทีของหัวเว่ย ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทในการพัฒนาโมเดล AI ที่มีคุณภาพสูง ต้นทุนต่ำ และเป็นแหล่งข้อมูลแบบเปิด (open-source) ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและแอปพลิเคชันใหม่ๆ พร้อมทั้งเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคโลกอัจฉริยะ

“ความก้าวหน้าของ AI จะพลิกโฉมสังคมใน 3 ระดับ ได้แก่ การมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลแก่ผู้บริโภค การเสริมศักยภาพองค์กรผ่านการทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด และการปูรากฐานสู่ระบบอัจฉริยะที่ครอบคลุมและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน” หยาง กล่าว

ความท้าทายและโอกาสในยุค ICT ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ในอุตสาหกรรม ICT การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและการขยายตัวของสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย สร้างโอกาสการเติบโตอย่างไม่เคยมีมาก่อน ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความท้าทายให้กับโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ได้อย่างสูงสุด ผู้ให้บริการจำเป็นต้องพลิกโฉมเครือข่ายในด้านแบนด์วิธ ความหน่วง ขอบเขตการครอบคลุม และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) อย่างครอบคลุม

“โซลูชันเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของหัวเว่ย ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ โดยมุ่งเน้นการปฏิวัติความสามารถของเครือข่ายเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อในทุกมิติ ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ที่เน้นแอปพลิเคชัน และปรับโฉมบริการและโมเดลธุรกิจโทรคมนาคม เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจาก AI ได้อย่างเต็มที่”

เครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI: แนวทางสี่ชั้นสู่ความสำเร็จ

หยางได้อธิบายถึงความท้าทายที่ผู้ให้บริการจะต้องเผชิญในอนาคต พร้อมทั้งอธิบายว่าโซลูชันของหัวเว่ยสามารถช่วยผู้ให้บริการเตรียมพร้อมรับการเติบโตของแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการใหม่ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยมีแนวทางหลัก 4 ชั้นดังนี้

  1. การเชื่อมต่อในทุกโดเมน: ด้วยความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นระหว่าง AI และเครือข่าย ผู้ให้บริการจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากรสำหรับการกำหนดเส้นทาง แบนด์วิธ และการใช้งานอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้แอปพลิเคชันอัจฉริยะสามารถเข้าถึงเครือข่ายได้อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งรองรับการอัปโหลดและดาวน์โหลดด้วยความเร็วสูงสุด และรับประกันการปฏิบัติตามข้อตกลงระดับการบริการ SLA (Service Level Agreement) อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. การดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ที่มุ่งเน้นแอปพลิเคชัน: ความก้าวหน้าของแอปพลิเคชัน AI จะทำให้เกิดสถานการณ์บริการที่ซับซ้อนและความต้องการประสบการณ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนจากการดำเนินงานและบำรุงรักษาเครือข่ายแบบเดิมที่เน้นทรัพยากร ไปสู่การดำเนินงานที่มุ่งเน้นแอปพลิเคชัน โซลูชัน Telecom Foundation Model ของหัวเว่ย รองรับการดำเนินงานและบำรุงรักษาแบบคาดการณ์และดำเนินการเชิงรุก การเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ที่เน้นระดับแอปพลิเคชัน และการดำเนินงานที่มีความละเอียดและเหมาะสมในแต่ละกรณี ผู้ให้บริการจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและบำรุงรักษาเครือข่ายอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ไปสู่มาตรฐานใหม่ได้อย่างครบวงจร
  3. บริการ AI-to-X ที่ได้รับการเสริมประสิทธิภาพ: ในระดับผู้ใช้แต่ละบุคคล เครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะสามารถมอบประสบการณ์ที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ โดยการจัดสรรแบนด์วิธ ความหน่วง และความน่าเชื่อถือที่เหมาะสมที่สุด ในระดับองค์กร เครือข่ายเหล่านี้จะสามารถขจัดอุปสรรคด้านความจุและเวลาตอบสนองที่ออกแบบมาสำหรับการสื่อสารระหว่างบุคคล และพัฒนาเครือข่ายให้รองรับการสื่อสารระหว่างบุคคลและตัวแทน รวมถึงการโต้ตอบระหว่างตัวแทนกับตัวแทน ในระดับสังคม เครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะสร้างการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ เพื่อเร่งการนำ AI มาใช้ในบริการสาธารณะต่างๆ เช่น การศึกษาและการดูแลสุขภาพ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดมูลค่าแบบครอบคลุมและเข้าถึงได้สำหรับชุมชนทั่วโลก
  4. โมเดลธุรกิจที่สร้างสรรค์: สุดท้าย ความต้องการประสบการณ์ที่หลากหลายจะมอบโอกาสให้ผู้ให้บริการสามารถสำรวจและพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่สามารถสร้างรายได้จากการวัดผลที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ในเชิงลึก เครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของการสร้างรายได้ที่อิงตามปริมาณการใช้งาน และเริ่มสร้างรายได้จากประสบการณ์ผู้ใช้โดยตรง ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เกิดศักยภาพสูงสุดของการเชื่อมต่อและสร้างช่องทางรายได้ใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูง

ความร่วมมือและนวัตกรรม: กุญแจสู่ความสำเร็จในยุค AI

หยาง สรุปว่า “เราจำเป็นต้องร่วมมือและทำงานร่วมกันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยเปิดเผยศักยภาพของเครือข่าย ร่วมมือกับอุตสาหกรรมต่างๆ และการสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะ เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสการเติบโตใหม่ๆ ในยุค AI และนำพาโลกไปสู่อนาคตที่ชาญฉลาดและสดใสยิ่งขึ้น”

MWC Barcelona 2025: จุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลง

งาน MWC Barcelona 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 ถึง 6 มีนาคม 2568 ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในงานนี้ หัวเว่ยได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันล่าสุดที่บูธ 1H50 ใน Fira Gran Via Hall 1

ในปี 2568 การเปิดใช้งาน 5G-Advanced เชิงพาณิชย์ ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และ AI มีบทบาทสำคัญในการช่วยผู้ให้บริการสามารถปรับโครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หัวเว่ยกำลังร่วมมือกับผู้ให้บริการและพันธมิตรทั่วโลกเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกแห่งความอัจฉริยะ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว EcoStruxure Building Activate โซลูชันอัจฉริยะเพื่ออาคารยุคใหม่

Scroll to Top