ภายในงาน Intel AI Summit ซึ่งเป็นงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่ด้าน AI ของอินเทลที่จัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้รวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของภาคอุตสาหกรรม AI ในปัจจุบันและศักยภาพการเติบโตในอนาคต
IDC ผู้ให้บริการด้านการวิจัยและให้คำปรึกษาด้านไอทีชั้นนำระดับโลก และเป็นหนึ่งในวิทยากรในงานเสวนาครั้งนี้ ได้คาดการณ์ว่าตลาดซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม AI ของประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 43.1% ในช่วงปี 2566 ถึง 2570 โดยในปี 2570 คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 141.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้เป็นผลมาจากหลายปัจจัยสำคัญ อาทิ การนำยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ AI แห่งชาติ (พ.ศ. 2565-2570) มาใช้ การฝึกอบรมด้าน AI แก่บุคลากรกว่า 80,000 คน และการจัดสรรงบประมาณ 1.29 พันล้านบาทเพื่อการวิจัยและพัฒนา AI นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทย โดยการเปิดตัวระบบเครือข่าย 5G และระบบบรอดแบนด์ความเร็วสูง อีกทั้งยังมีการจัดตั้งแพลตฟอร์มระดับประเทศสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง
ในช่วงการบรรยายของ IDC ยังตอกย้ำถึงความสนใจใน AI ที่กำลังเติบโตในภาคธุรกิจของไทย โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับกลยุทธ์ AI ให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจขององค์กรอีกด้วย
งาน AI Summit ของอินเทล เน้นย้ำถึงการแทรกซึมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปในทุก ๆ ที่ ในโลกที่ทุกประเทศและทุกอุตสาหกรรมต่างแข่งขันกันเพื่อมุ่งสู่การใช้ AI อินเทลเป็นบริษัทเดียวที่มีแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เต็มรูปแบบ ในการนำเสนอโซลูชันแบบเปิดและแบบโมดูลาร์ เพื่อปรับปรุงต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (Total Cost of Ownership: TCO) ที่คุ้มค่า เข้าถึงได้ และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในยุค AI Everywhere นี้
กลยุทธ์ด้านปัญญาประดิษฐ์ของอินเทลมุ่งมั่นที่จะใช้แนวทางที่เปิดกว้าง โดยการมีส่วนร่วมกับระบบนิเวศของนักพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญในการลดอุปสรรคในการเข้าถึงและปลดล็อกนวัตกรรมสำหรับนักพัฒนาและลูกค้า เพื่อขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์ที่มีจริยธรรม มีความรับผิดชอบ และเข้าถึงได้อย่างแท้จริง
ขณะนี้ อินเทลกำลังสร้างแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีที่จะผสานรวม AI เข้ากับความปลอดภัยสำหรับลูกค้าของเรา เพื่อให้ข้อมูลและโมเดล AI ทั่วทั้งศูนย์ข้อมูล คลาวด์ พีซี และ Edge มีความปลอดภัยสูงสุด
เจน เบล รองประธาน ฝ่ายการขายและการตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และนิวซีแลนด์ ของอินเทล กล่าวว่า “อินเทลเล็งเห็นถึงความสำคัญของ AI ซึ่งเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนหลักของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ที่คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 เราเพิ่งเริ่มปลดล็อคศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของ AI สำหรับธุรกิจในทุกภาคส่วนและสำหรับผู้ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม และด้วยจุดยืนของอินเทล เราจึงสามารถดึงศักยภาพของ AI ออกมาได้อย่างเต็มรูปแบบ อินเทลจึงเป็นผู้นำในการเผยแพร่ไปสู่ทุก ๆ ที่และเพื่อให้ทุกคนสร้างประโยชน์จาก AI ได้”
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ AI Everywhere ของอินเทลได้ที่นี่
งานสัมมนาได้ดำเนินไปตลอดวันเต็ม มีการนำเสนอและสาธิตจากผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (ISVs) และพันธมิตรกว่า 26 ราย ซึ่งทั้งหมดใช้เทคโนโลยี AI ของ Intel
การอภิปรายได้ครอบคลุมถึงพอร์ตโฟลิโอ AI ที่หลากหลายของอินเทล ซึ่งรวมถึงโซลูชัน AI ที่ขอบเครือข่าย โซลูชันแบบเปิดที่สามารถปรับขยายได้ และพอร์ตโฟลิโอซอฟต์แวร์ AI โดยมีการนำเสนอโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra และ Intel® Gaudi® 3 AI Accelerator
โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel® Core™ Ultra เป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีการประมวลผล Intel 4 และยังเป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่ได้ใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงแบบ 3 มิติ ด้วยเทคโนโลยี Foveros ซึ่งมีความสามารถในการเร่งการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ เข้ากับหน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) หน่วยประมวลผลกราฟิก (Graphics Processing Unit: GPU) และหน่วยประมวลผลข่ายประสาท (Neural Processing Unit: NPU) โมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra จึงเป็นโปรเซสเซอร์ที่รองรับความสามารถในการประมวลผลของปัญญาประดิษฐ์และช่วยประหยัดพลังงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอินเทล
ตัวเร่งความเร็ว AI Intel® Gaudi® 3 มีความสามารถในการคำนวณ AI มากถึง 4 เท่า สำหรับข้อมูลประเภท BF16 พร้อมแบนด์วิธหน่วยความจำเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า และมีความกว้างของเครือข่ายเพิ่มขึ้น 2 เท่า ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับเทคโนโลยีการฝึกปัญญาประดิษฐ์และระบบการวิเคราะห์โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model: LLM) และโมเดลแบบผสมผสาน (Multimodal Model) โดยตัวเร่งความเร็ว AI Intel® Gaudi® 3 ได้พัฒนาต่อยอดจาก Intel® Gaudi® 2 ซึ่งเป็นตัวเร่งความเร็ว AI เพียงตัวเดียวในตลาดที่ได้รับการพิสูจน์สมรรถนะและผ่านมาตรฐาน MLPerf สำหรับปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ระบบการวิเคราะห์โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model: LLM) ตัวเร่งความเร็ว AI Intel® Gaudi® 3 จึงต่อยอดสมรรถนะดังกล่าวเพื่อมอบทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยซอฟต์แวร์แบบเปิดและเครือข่ายอีเธอร์เน็ตมาตรฐานระดับอุตสาหกรรมที่จะช่วยให้สามารถขยายระบบของพวกเขาได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น
กิจกรรมหลักของงานเสวนาครั้งนี้ยังมีการนำเสนอโดยอินเทลและการจัดแสดงนวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เช่น Gorilla Technology Group และ Microsoft
และนอกจากการนำเสนอโดย IDC แล้ว ยังมีการเสวนาที่เจาะลึกถึงความท้าทาย โอกาส และข้อพิจารณาด้านจริยธรรมของการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ AI ที่กำลังพัฒนา โดยมีอินเทลและพันธมิตร ได้แก่ AIS, Baker McKenzie, IBM, และ True IDC เข้าร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกในหัวข้อสำคัญนี้
แคนนอน (Canon) เปิดตัวกล้องซีรีส์ V ใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ได้แก่ EOS R50 V และ PowerShot V1 ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของครีเอเตอร์รุ่นใหม่ที่กำลังมองหากล้องขนาดกะทัดรัด…
Thailand is taking a significant step towards becoming a leading medical and wellness hub in…
ทะยานสู่ Medical Hub! โรช ไดแอกโนสติกส์ จับมือสภาเทคนิคการแพทย์ เสริมแกร่งห้องแล็บไทย ตั้งเป้า 150 แห่งเข้าร่วมโครงการ Lab Benchmarking 2025 พร้อมดันมาตรฐานสากล เพิ่มห้องแล็บรับรอง…
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับ ไปรษณีย์ไทย เปิดตัวบริการ "EMS ส่งด่วนผลไม้" ในอัตราค่าบริการสุดพิเศษ เริ่มต้นเพียง 3 กิโลกรัม 60 บาททั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทยในการกระจายผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะผลไม้สดใหม่…
"Market Place เทพรักษ์" เปิดตัวแล้ว! โมเดลใหม่ Community Mall ผสาน Urban Fresh Market ชู Neighbourhood-Centric ยึดใจกลางพหลฯ-วัชรพล ดึงแบรนด์ดังกว่า…
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ศูนย์กลางประเทศเมียนมา ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนในหลายพื้นที่ของไทยได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก รวมทั้งโรงเรียนภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กฟผ. จึงร่วมกับมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา…
This website uses cookies.