ฟอร์ติเน็ต เผยการคาดการณ์ภัยคุกคามรับปี 2023 ชี้ อาชญากรรมไซเบอร์ยังขยายตัวสูง ภัยคุกคามโฉมใหม่เตรียมจ่อรอโจมตี ภัยคุกคามต่อเนื่องขั้นสูงจะก่อเกิดคลื่นลูกใหม่ของการโจมตีแบบทำลายล้าง ขับเคลื่อนโดยบริการอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ตามสั่ง หรือ Cybercrime-as-a-Service (CaaS)
ฟอร์ติเน็ต เผยผลการคาดการณ์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์จากฟอร์ติการ์ด แล็บ (FortiGuard Labs) ทีมงานศึกษาและวิจัยภัยคุกคามไซเบอร์ระดับโลก ถึงภาพรวมของภัยคุกคามบนไซเบอร์ในอีก 12 เดือนข้างหน้าและต่อไปในอนาคต จากการโจมตีแบบ Cybercrime-as-a-Service (CaaS) ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว
ไปจนถึงการใช้ประโยชน์รูปแบบใหม่จากเป้าหมายใหม่ๆ เช่น ระบบการประมวลผล (edge) ที่ปลายทาง หรือโลกออนไลน์ต่างๆ จะเห็นได้ว่าปริมาณ ลักษณะที่หลากหลาย ไปจนถึงขนาดภัยคุกคามทางไซเบอร์ ยังจะทำให้ทีมด้านซีเคียวริตี้ต้องคอยระมัดระวังและเตรียมความพร้อมเป็นอย่างสูงในการรับมือตลอดทั้งปี 2023 และต่อไปในอนาคต
ดร.รัฐิติ์พงษ์ พุทธเจริญ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิศวกรรมระบบ ฟอร์ติเน็ต กล่าวว่า “เมื่อการก่ออาชญากรรมบนไซเบอร์มาบรรจบกับภัยคุกคามต่อเนื่องขั้นสูงที่มีวิธีในการโจมตีที่ล้ำหน้าขึ้น อาชญากรไซเบอร์ค้นพบวิธีที่จะเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ให้กลายป็นอาวุธที่สามารถสร้างการหยุดชะงักและการทำลายล้างขนาดใหญ่ได้มากยิ่งขึ้
การโจมตีเหล่านี้ไม่เพียงมุ่งเป้าไปที่พื้นที่การโจมตีแบบเดิมๆ แต่รวมไปถึงการโจมตีแบบเจาะลึกลงไปมากกว่านั้น ซึ่งครอบคลุมถึงสิ่งที่อยู่ทั้งด้านนอกและด้านในสภาพแวดล้อมของระบบเครือข่ายแบบเดิมๆ
นอกจากนี้ เหล่าอาชญากรยังใช้เวลามากขึ้นในการสอดแนมเป้าหมายเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ สืบเสาะข้อมูล และควบคุม ซึ่งหมายความว่าความเสี่ยงบนไซเบอร์จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นเพื่อรับมือ ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยของระบบสารสนเทศต้องหูตาไวและมีระเบียบแบบแผนเช่นเดียวกับฝ่ายตรงข้าม
องค์กรยังจำเป็นต้องยกระดับการป้องกันการโจมตีให้สูงขึ้นด้วยแพลตฟอร์มระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์แบบบูรณาการที่ปกป้องได้ทั่วทั้งระบบเครือข่าย อุปกรณ์ปลายทาง (endpoints) ตลอดไปจนถึงระบบคลาวด์ ในการจัดการภัยคุกคามด้วยศูนย์รวมข้อมูลและช่วยให้การจัดการภัยคุกคามที่เคยมีมาก่อนหน้าเป็นไปโดยอัตโนมัติ (threat intelligence) ควบคู่ไปกับความสามารถในการตรวจจับด้วยการตรวจจับจากพฤติกรรมผู้ใช้ในระดับสูงและความสามารถในการตอบสนอง”
การเติบโตแบบถล่มทลายของการให้บริการอาชญากรรมบนไซเบอร์ตามสั่ง หรือ Cybercime-as-a-Service (CaaS) จากความสำเร็จของอาชญากรไซเบอร์กับการให้บริการแรนซัมแวร์ในรูปแบบ as-a-service (RaaS) ฟอร์ติเน็ตคาดการณ์ว่าจะมีกระบวนการหรือเทคนิคการโจมตีแบบใหม่ๆ จำนวนมากที่จะมาในรูปแบบของ as-a-service ผ่านทางเว็บมืด (dark web) โดยนอกเหนือจากการให้บริการในรูปแบบของ as-a-service แล้ว นี่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของโซลูชันการให้บริการแบบ a-la-carte หรือให้เลือกได้จากเมนู อีกด้วย
โดย CaaS นำเสนอรูปแบบที่น่าสนใจให้กับอาชญากรไซเบอร์ที่อาจจะยังไม่ได้มีทักษะที่เก่งมากนักแต่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อเสนอที่มาแบบครบวงจร ทำให้สามารถลงมือได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนทั้งเวลาและทรัพยากรล่วงหน้าในการสร้างแผนการโจมตีด้วยตัวเอง และสำหรับผู้คุกคามที่ช่ำชอง งานรูปแบบใหม่ก็คือบริการสร้างและขายเครื่องมือและแผนการโจมตีแบบ as-a-service ที่ง่าย รวดเร็ว
อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้ใหม่เพื่อหาเงินต่อได้ไม่สิ้นสุด โดยหลังจากนี้ข้อเสนอสำหรับบริการ CaaS อาจเปลี่ยนไปสู่รูปแบบการสมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการดังกล่าว โดยถือเป็นช่องทางเพิ่มแหล่งรายได้ให้กับผู้สร้างระบบ ผู้คุกคามเองก็จะเริ่มใช้ประโยชน์จากรูปแบบการโจมตีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น deepfakes ด้วยวิดีโอและเสียงบันทึก รวมถึงอัลกอริทึมที่เกี่ยวข้องที่มีพร้อมให้ได้ซื้อใช้กัน
–ข่าวปลอมจาก Social listening ครองแชมป์ ขณะที่ ข่าวปลอมนโยบายรัฐมีมากสุด สอดรับกระแสการเมือง
หนึ่งในวิธีการป้องกันการโจมตีใหม่ๆ นี้ คือการให้การศึกษาและอบรมเรื่องของความตื่นรู้ทางด้านความปลอดภัยไซเบอร์ โดยในหลายองค์กรสร้างโปรแกรมฝึกอบรมด้านความปลอดภัยพื้นฐานสำหรับพนักงาน และควรมีการพิจารณาเพิ่มองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อให้รับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างเท่าทัน เช่น ภัยคุกคามที่ใช้ AI ในการทำงาน
บริการสอดแนมตามสั่ง (Reconnaissance-as-a-Service) ยิ่งทำให้การโจมตีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกสิ่งที่ช่วยให้การก่ออาชญากรรมไซเบอร์สามารถทำได้อย่างแนบเนียนและโจมตีได้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือการตรวจตราและสอดแนมเป้าหมายแบบทุกซอกทุกมุม และเพราะการโจมตีทุกวันนี้ มีการล็อคเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น ผู้คุกคามจึงหันไปจ้าง “นักสืบ” จากเว็บมืดให้รวบรวมข้อมูลเชิงลึก หรือข่าวกรองที่เกี่ยวกับเป้าหมายก่อนที่จะทำการโจมตีมากขึ้นเหมือนการจ้างนักสืบเอกชน
บริการ Reconnaissance-as-a-Service นี้ ยังอาจเสนอสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นพิมพ์เขียว หรือ blueprint ของการโจมตี ที่จะให้มาพร้อมกับข้อมูลโครงสร้างระบบความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กร บุคลากรที่เป็นแกนหลักด้านการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ จำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่องค์กรมีอยู่ รวมไปถึงช่องโหว่ภายนอกที่รู้กัน ตลอดจนจำนวนเซิร์ฟเวอร์หรือช่องโหว่ภายนอกที่มี แม้กระทั่งข้อมูลการถูกบุกรุก หรืออื่นๆ เพื่อช่วยให้อาชญากรไซเบอร์สามารถโจมตีเป้าหมายได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการโจมตีด้วยรูปแบบของ CaaS คือการสยบคู่ต่อสู้ให้ได้แต่เนิ่นๆ ระหว่างการลาดตระเวนเพื่อสอดแนม ที่จะกลายเป็นสิ่งที่ทวีความสำคัญมากขึ้น
การล่อหลอกอาชญากรไซเบอร์ด้วยเทคโนโลยีลวงจะให้ประโยชน์ นอกจากจะช่วยตอบโต้การทำงานของ RaaS แล้วยังรวมถึง CaaS ในขั้นตอนของการสอดแนมไปด้วย ข้อมูลลวงทางด้านความปลอดภัยบนไซเบอร์มักจะมาคู่กับบริการป้องกันความเสี่ยงด้านดิจิทัล หรือ digital risk protection (DRP) ที่ช่วยให้องค์กรสามารถรู้ทันศัตรูเพื่อสร้างความได้เปรียบในการป้องกัน
กระบวนการฟอกเงินที่อาศัยพลังของแมชชีนเลิร์นนิง โดยฟอร์ติการ์ด แล็บ มองว่าจะมีการฟอกเงินที่แยบยลมากขึ้นโดยอาศัยการทำงานของระบบอัตโนมัติ ซึ่งในอดีตการจะล่อลวงให้คนเข้ามาติดกับได้นั้นต้องผ่านกระบวนการที่ใช้ระยะเวลานาน จากการสำรวจพบว่า อาชญากรไซเบอร์เริ่มใช้แมชชีนเลิร์นนิง (ML) ในการกำหนดเป้าหมายเพื่อสรรหาบุคคล ซึ่งช่วยให้ระบุตัวล่อที่มีศักยภาพได้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ลดเวลาที่ใช้ในการค้นหาผู้ที่จะเข้าร่วมขบวนการ ในระยะยาวก็คาดว่าการให้การบริการฟอกเงินตามสั่ง หรือ Money Laundering-as-a-Service (LaaS) นั้นกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ซึ่งอาจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของบริการอาชญากรรมไซเบอร์ตามสั่ง (CaaS) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สำหรับองค์กรหรือบุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมไซเบอร์ประเภทนี้ การย้ายไปสู่ระบบอัตโนมัติ หมายความว่าจะทำให้ติดตามการฟอกเงินได้ยากขึ้น ซึ่งลดโอกาสที่จะได้คืนเงินที่ถูกขโมยไป
การหมั่นศึกษาหาข้อมูลจากภายนอกองค์กร เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจะมีความสำคัญกว่าที่เคย เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมก่อนปัญหาจะเกิดขึ้น บริการป้องกันความเสี่ยงด้านดิจิทัล (DRP) มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการประเมินพื้นฐานของภัยคุกคามภายนอก เพื่อค้นหาและแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย และเพื่อช่วยให้มีข้อมูลพื้นฐานเชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคามในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
เมืองเสมือนและโลกออนไลน์คือพื้นที่ใหม่ที่กระตุ้นให้เกิดอาชญากรรมทางไซเบอร์ Metaverse ก่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่ที่สมจริงในโลกออนไลน์ และเมืองเสมือนจริงเป็นพื้นที่ออนไลน์แรกๆ ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีอย่าง AR รวมถึงยังมีการเปิดตัวสินค้าดิจิทัลที่สามารถหาซื้อได้บนโลกเสมือนจริงแห่งนี้
จุดหมายปลายทางออนไลน์ใหม่เหล่านี้ ไม่เพียงเปิดโลกของความเป็นไปได้รูปแบบต่างๆ แต่ยังเปิดประตูสู่การเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมทางไซเบอร์อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก เช่น อวาตาร์ของบุคคลนั้นเป็นประตูสู่ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้ (personally identifiable information: PII) ทำให้เป็นเป้าหมายหลักสำหรับผู้โจมตี เนื่องจากบุคคลทั่วไปสามารถซื้อสินค้าและบริการในเมืองเสมือน ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล แลกเปลี่ยนเงินคริปโต มีสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง NFT และสกุลเงินใด ๆ ที่ใช้ในการทำธุรกรรมก็สามารถสร้างพื้นที่การโจมตีที่เกิดขึ้นใหม่ให้กับผู้คุกคาม
เป็นไปได้ที่การเจาะเพื่อขโมยข้อมูลอัตลักษณ์ทางชีวภาพ ( biometric hacking) อาจกลายเป็นจริงได้ เนื่องจากส่วนประกอบที่ขับเคลื่อนด้วย AR และ VR ของเมืองเสมือนจริง ทำให้เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น สำหรับอาชญากรไซเบอร์ในการขโมยแผนที่ลายนิ้วมือ (fingerprint mapping) ข้อมูลการจดจำใบหน้า หรือข้อมูลของการสแกนม่านตา แล้วนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่มุ่งร้าย นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน โปรโตคอล และธุรกรรมภายในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ล้วนเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้สำหรับอาชญากรไซเบอร์ในการโจมตี
ไม่ต้องสนใจว่าจะทำงานมาจากที่ไหน เรียนหนังสืออยู่ที่ใด หรืออยู่ในภาวะดื่มด่ำกับโลกเสมือนจริงที่ไหนก็ตาม ระบบที่ให้ความสามารถด้านการมองเห็น (visibilities) ให้การป้องกัน และการบรรเทาปัญหาแบบเรียลไทม์คือสิ่งสำคัญ พร้อมด้วยการตรวจจับขั้นสูงและดำเนินการตอบสนองในส่วนจุดเชื่อมต่อปลาย หรือ endpoint (EDR) ที่ให้ความสามารถในการวิเคราะห์ การป้องกัน และแก้ไขได้แบบเรียลไทม์
มัลแวร์ลบข้อมูล (wiper malware) จะออกอาละวาดให้เกิดการโจมตีแบบทำลายล้างที่หนักกว่าเดิม มัลแวร์ในกลุ่ม Wiper กลับมาระบาดอย่างหนักอีกครั้งในปีนี้ 2565 โดยผู้โจมตีจะนำเอาสายพันธุ์ใหม่ๆ ของรูปแบบการโจมตีที่มีมายาวนานมาใช้งาน
โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 รายงาน FortiGuard Labs Global Threat Landscape report พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของมัลแวร์ที่โจมตีด้วยการลบข้อมูลในดิสก์ (disk-wiping) พร้อมกับสงครามยูเครน และยังมีการตรวจพบอีก 24 ประเทศที่ไม่ใช่แค่เพียงในยุโรป การเติบโตที่ลุกลามเช่นนี้เป็นเรื่องน่าตกใจเพราะสามารถนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการทำลายล้างที่รุนแรงกว่าเดิม นอกเหนือความเป็นจริงที่ว่าผู้โจมตีได้รวมหนอนคอมพิวเตอร์เข้ากับมัลแวร์ตระกูล Wiper หรือกระทั่งรวมเข้ากับแรนซัมแวร์เพื่อให้เกิดผลของการโจมตีสูงสุด
สิ่งที่น่ากังวลต่อไปก็คือ การทำให้มัลแวร์แบบ wiper กลายเป็นสินค้าให้อาชญากรไซเบอร์สามารถเลือกซื้อไปใช้งานในอนาคต มัลแวร์ที่ได้รับการพัฒนาและใช้งานโดยผู้ใช้ของภาครัฐอาจถูกกลุ่มอาชญากรหยิบจับและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ผ่านทางรูปแบบ CaaS เมื่อพิจารณาจากความพร้อมใช้งานที่กว้างขึ้นรวมกับการหาประโยชน์ที่เหมาะสม มัลแวร์ wiper อาจก่อให้เกิดการทำลายล้างครั้งใหญ่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าเวลาที่ใช้เพื่อการสืบสวนตรวจสอบและความเร็วที่ทีมซีเคียวริตี้ต้องใช้ในการแก้ไขมีความสำคัญอย่างมหาศาล
การใช้ inline sandboxing ที่ทำงานด้วย AI คือจุดเริ่มต้นที่ดีในการป้องกันภัยคุกคามจากแรนซัมแวร์ที่ซับซ้อน รวมถึงมัลแวร์ wiper เพราะสามารถป้องกันการโจมตีที่พัฒนาขึ้นใหม่ได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไฟล์ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยเท่านั้นที่จะถูกส่งไปยังอุปกรณ์ปลายทาง หากผสานรวมเข้ากับแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์
โลกของอาชญากรรมไซเบอร์และวิธีการโจมตีของศัตรูทางไซเบอร์ยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็ว ข่าวดีก็คือกลวิธีหลายอย่างที่เหล่าอาชญากรไซเบอร์ใช้ในการโจมตียังคงเป็นรูปแบบที่คุ้นเคย ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยยังสามารถป้องกันได้ดี สิ่งที่ควรทำคือการยกระดับโซลูชันการรักษาความปลอดภัยด้วย แมชชีนเลิร์นนิง (ML) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้สามารถตรวจจับรูปแบบการโจมตีและหยุดการคุกคามได้แบบเรียลไทม์โดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตามโซลูชันระบบรักษาความปลอดภัยแบบแยกนั้นไม่สามารถตอบสนองต่อรูปแบบของภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในวันนี้ ระบบที่สามารถดูแลแบบครอบคลุมที่ทำงานอัตโนมัติ เป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ อีกทั้งยังสามารถผสานรวมการทำงานได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ช่วยให้มองเห็นการทำงานในระบบได้ดีขึ้น และตอบสนองต่อภัยคุกคามทั่วทั้งเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว ประสานงานและให้ประสิทธิภาพมากขึ้น
AIS จับมือ OPPO เปิดตัว OPPO Find X8 Series สมาร์ทโฟนแฟลกชิป รุ่นล่าสุด ในราคาเริ่มต้นเพียง 18,999 บาท พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับลูกค้า AIS…
ออเนอร์ กรุ๊ป เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู "Once Wongamat" บนทำเลทองวงศ์อมาตย์ ชูจุดเด่นการออกแบบที่ผสานความหรูหรา และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ออเนอร์ กรุ๊ป (Honour Group)…
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มอบประกันอุบัติเหตุจากกรุงไทย แอกซ่า ฟรี 30 ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม - 31 ธันวาคม 2567…
พฤกษา โฮลดิ้ง ไม่หยุดยั้งที่จะสร้างสรรค์สังคมแห่งโอกาสที่เท่าเทียม เดินหน้าสู่ปีที่ 6 ของโครงการ “บ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ By PRUKSA” โดยผนึกกำลังร่วมกับ โรงพยาบาลวิมุต และ อินโนโฮม คอนสตรัคชัน ในเครือ…
บาร์บีคิวพลาซ่า จับมือ วิตอะเดย์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการน้ำดื่มผสมวิตามิน ส่ง "วิตอะเดย์ กะหล่ำปลี วอเตอร์" รสชาติสุดว้าว พร้อมดึงพี่ GON ร่วมสร้างสีสัน เอาใจสายเฮลท์ตี้ แถมโปรโมชั่นสุดคุ้มชุดประหยัดหมู 2…
เคยไหม? เลื่อนฟีดโซเชียลมีเดียแล้วเจอคลิปโป๊ ๆ ของคนดัง หรือแม้แต่คนรู้จัก แต่เอะใจว่า...มันดูแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ตัวจริง นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังเผชิญหน้ากับ "Deepfake Porn" ภัยร้ายยุค AI ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ Deepfake…