Fortinet เดินหน้าผู้นำด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ผสาน GenAI เสริมทัพโซลูชัน

Fortinet เดินหน้าผู้นำด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ผสาน GenAI เสริมทัพโซลูชัน

ฟอร์ติเน็ต (Fortinet) ประกาศยกระดับขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยผสานรวม GenAI เข้ากับโซลูชัน FortiAI ครอบคลุม 7 ผลิตภัณฑ์หลัก เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัย มุ่งสู่การรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะที่ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และแม่นยำยิ่งขึ้น

GenAI คืออะไร?

GenAI หรือ Generative AI คือ ปัญญาประดิษฐ์ประเภทหนึ่งที่สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ ๆ เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และเสียง โดยเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่ GenAI กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวงเทคโนโลยี เนื่องจากมีความสามารถในการทำงานที่หลากหลายและซับซ้อน

ฟอร์ติเน็ต ผู้นำด้าน AI ในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้

ภัคธภา ฉัตรโกเมศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฟอร์ติเน็ต กล่าวว่า ฟอร์ติเน็ตเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการนำ AI มาใช้ในด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้มากว่า 10 ปี โดยเริ่มจากการพัฒนาเครือข่ายประสาทเทียม (Artificial Neural Network) เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคาม ซึ่งต่อยอดมาเป็น FortiAI ในปัจจุบัน

“วันนี้ เราพร้อมแล้วที่จะก้าวไปอีกขั้น ด้วยการนำ GenAI มาเสริมประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ รับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ทวีความซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ภัคธภา กล่าว

FortiAI ช่วยยกระดับความปลอดภัยอย่างไร?

สำหรับ FortiAI ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัย โดย GenAI จะช่วย

  • วิเคราะห์ภัยคุกคาม: FortiAI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลภัยคุกคามจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยระบุภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ๆ และแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบได้ทันที
  • แนะนำแนวทางแก้ไข: FortiAI สามารถให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหา และดำเนินการตอบสนองต่อภัยคุกคามได้โดยอัตโนมัติ
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: FortiAI ช่วยลดภาระงานของนักวิเคราะห์ โดยทำงานซ้ำ ๆ เช่น การวิเคราะห์ล็อกไฟล์ และการจัดการการแจ้งเตือน ให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ
  • ลดความผิดพลาดของมนุษย์: FortiAI ช่วยลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดของมนุษย์ เช่น การตั้งค่าผิดพลาด หรือการละเลยการแจ้งเตือน

เสริมทัพ 7 โซลูชัน

ฟอร์ติเน็ต ได้ผสานรวม FortiAI เข้ากับ 7 โซลูชัน ได้แก่

  1. FortiNDR Cloud: ช่วยนักวิเคราะห์ตรวจจับภัยคุกคาม วิเคราะห์ และตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว โดย FortiAI จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ระบุรูปแบบการโจมตี และแนะนำแนวทางแก้ไข
  2. Lacework FortiCNAPP: แพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยคลาวด์ ที่ FortiAI ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัย (SOC) เข้าใจการแจ้งเตือน ประเมินความเสี่ยง และดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  3. FortiAnalyzer: ระบบวิเคราะห์ความปลอดภัย ที่ FortiAI ช่วยวิเคราะห์ภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ จัดลำดับความสำคัญ และดำเนินการตอบสนองอัตโนมัติ
  4. FortiManager: ระบบจัดการความปลอดภัย ที่ FortiAI ช่วยสร้างสคริปต์ แก้ไขปัญหา และจัดการช่องโหว่ รวมถึงปัญหาเครือข่ายโดยอัตโนมัติ
  5. FortiSIEM: ระบบจัดการข้อมูลและเหตุการณ์ความปลอดภัย ที่ FortiAI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ให้ข้อมูลเชิงลึก และแนะนำแนวทางการตอบสนอง
  6. FortiSOAR: ระบบจัดการการตอบสนองต่อเหตุการณ์ความปลอดภัย ที่ FortiAI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบ วิเคราะห์ และตอบสนองต่อภัยคุกคาม รวมถึงสร้างเพลย์บุ๊กอัตโนมัติ
  7. FortiDLP: ระบบป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ที่ FortiAI ช่วยวิเคราะห์ สรุป และจัดบริบทข้อมูล เพื่อระบุเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง

การผสานรวม GenAI ครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของฟอร์ติเน็ตในการเป็นผู้นำด้าน AI ในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้ โดยฟอร์ติเน็ตจะยังคงพัฒนา และนำเทคโนโลยี AI ใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ รับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในยุคที่ภัยคุกคามมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ชวนคิดก่อนคลิก! ทรู ไขคำตอบ 5 ข้อสงสัยบนโลกโซเชียล True CyberSafe คืออะไร ป้องกันอย่างไร ดีแค่ไหน ปกป้องใคร ทำเพื่ออะไร

Scroll to Top