IT Security

ปิดสวิตช์ โฆษณาลวง – ผิดกฎหมาย ด้วยกลไก Screen and Monitor คืนพื้นที่ปลอดภัยสู่โลกออนไลน์

ปัญหาการถูกหลอกลวงทางออนไลน์ นับว่าเป็นหนึ่งปัญหาสำคัญที่คนทั่วโลกต่างกำลังเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการถูกหลอกลวงจาก “โฆษณาออนไลน์” ที่ปรากฏอยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (Fedral Trade Commission) ปี 2565 พบ การร้องเรียนจากประชาชนทั่วสหรัฐอเมริกาว่าถูกหลอกลวงจากออนไลน์มูลค่าเสียหายรวมกว่า 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยต้นตอของการหลอกลวงมาจากช่องทางสื่อโซเชียลมีเดีย1 ผ่านกลไกการหลอกที่น่าสนใจ คือ โฆษณาออนไลน์ลวง จนกระทั่งข้อมูลล่าสุดในปี 2566 ก็พบว่าปัญหาโฆษณาทางออนไลน์หรือ Bad Ads ยังเป็นปัญหาที่ส่งกระทบในวงกว้าง โดยพบว่าน่าจะมีความเสียหายที่เกิดขึ้นจากประเด็นดังกล่าวถึง 100 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยร้อยละ 36 ของการกดคลิกโฆษณาคาดว่าจะเป็นโฆษณาหลอกลวง โดยส่วนใหญ่เกิดจากเว็บบอท (Web Bots)2

เมื่อหันกลับมามองสถานการณ์ในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าน่าเป็นห่วงไม่น้อย แม้รายงานจากศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ หรือ สายด่วน 1212 ของ ETDA จะสะท้อนตัวเลขสถิติการร้องเรียนปัญหาออนไลน์ในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 ลดลงถึงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า “ปัญหาจากโฆษณาลวงและผิดกฎหมาย” ยังคงเป็นประเด็นหลักที่คนไทยประสบและร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาขายสินค้าที่ไม่ตรงตามจริง สินค้าที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย โฆษณาเว็บไซต์การพนัน โฆษณาชวนลงทุนหลอกลวง หรือแม้แต่โฆษณาหลอกลวงจ้างงานออนไลน์

สอดคล้องกับผลการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในช่วงวันที่ 1-30 มิถุนายน 2567 ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้ปิดเว็บพนันไปแล้วถึง 5,771 รายการ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 20.9 เท่า เมื่อเทียบกับ เดือนมิถุนายน 2566 ที่มีเพียง 276 รายการ เช่นเดียวกับการดำเนินงานของกองป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้ปิดกั้นคอนเทนต์โฆษณาที่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนบนแพลตฟอร์มดิจิทัลไปแล้วกว่า 23,248 รายการ (ตุลาคม 2566 – กุมภาพันธ์ 2567)

แม้สถิติเหล่านี้อาจสร้างความโล่งใจในระดับหนึ่งในมุมของปริมาณการแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ตัวเลขของปัญหาใหม่จะลดลงตามไปด้วย ตรงกันข้ามในยุคที่ทุกกิจกรรมต่างๆ ทำผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ปัญหาเหล่านี้กลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและพบง่ายกว่าเดิม ที่สำคัญยังซับซ้อน และหลากหลายมากขึ้น แนวทางการลดผลกระทบ นอกจากการเอาจริงเอาจังในการปราบปรามของภาครัฐ ควบคู่ไปกับการเพิ่มทักษะการรู้เท่าทันของผู้ใช้งานแล้ว แพลตฟอร์มดิจิทัลในฐานะด่านแรกของการป้องกันนี้ก็จะต้องยกระดับมาตรการตรวจสอบและควบคุมเนื้อหาโฆษณาออนไลน์ที่ไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ETDA หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มุ่งส่งเสริมให้คนไทยมีความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางออนไลน์อย่างปลอดภัย ผ่านบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่น่าเชื่อถือ ด้วยกลไกการ “กำกับ – ดูแล” ภายใต้กฎหมาย Digital Platform Services หรือ กฎหมาย DPS ล่าสุด ได้ออกประกาศ สพธอ. เรื่อง “คู่มือการดูแลโฆษณาบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล” เพื่อกำหนดการดูแลโฆษณาบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยเป็นแนวทางให้กับแพลตฟอร์มดิจิทัลในการตรวจสอบและควบคุมเนื้อหาโฆษณาที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มของตน คู่มือนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างมาตรฐานการให้บริการที่ปลอดภัย น่าเชื่อถือ แต่ยังเป็นการสนับสนุนการป้องกันปัญหาโฆษณาลวงและผิดกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพด้วย 2 กลไกสำคัญ ทั้ง Screening และ Monitoring ที่ครอบคลุมการตรวจสอบทั้งก่อนและหลังการทำโฆษณา

‘Screening and Monitoring’ ตัดวงจรโฆษณาออนไลน์ลวง – ผิดกฏหมาย

เริ่มที่กลไก Screening หรือการตรวจสอบก่อนที่โฆษณาจะเผยแพร่ออกไป คู่มือฯ ฉบับนี้ ได้กำหนดแนวทางในการปฏิบัติสำหรับแพลตฟอร์มดิจิทัล ไว้ 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ การตรวจสอบและเก็บข้อมูลของผู้กระทำการโฆษณา ประกอบด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลจะต้องจัดให้มีกระบวนการในการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้กระทำการโฆษณาและการเก็บข้อมูล โดยกำหนดขั้นตอน วิธีการ และข้อมูลที่ใช้ประกอบการสมัครเป็นผู้ทำโฆษณา รวมถึง ต้องมีการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทั้งในกระบวนการลงทะเบียนและการทำโฆษณาของผู้ทำโฆษณา ด้วยระบบ Digital ID ผ่านระบบของผู้ให้บริการหรือ IdP อย่าง แอปพลิเคชัน ThaID ของกรมการปกครองหรือ IdP อื่นๆ ที่รองรับระดับความน่าเชื่อถือของการพิสูจน์ตัวตนที่ระดับ IAL2 (มีการแสดงหลักฐานแสดงตน และตรวจสอบหลักฐานแสดงตน) เป็นอย่างน้อย หรือหากไม่มีระบบรองรับก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างน้อย ได้แก่ ชื่อ-สกุล หรือชื่อนิติบุคคลของผู้ทำการโฆษณา หรือเป็นผู้ชำระค่าบริการสำหรับการลงโฆษณา เลขประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง (Passport) มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน และต้องมีการเก็บข้อมูลของผู้ที่ทำการโฆษณา รวมถึงจัดทำทะเบียนประวัติสำหรับการตรวจสอบโฆษณาที่พึงระวัง (Watchlist) การทำความผิดตามกฎหมายหรือข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Blacklist) และผู้ทำการโฆษณาที่น่าเชื่อถือ (Whitelist) การตรวจสอบโฆษณาก่อนเผยแพร่ (Screening) อย่างน้อยๆ ต้องกำหนดลักษณะของโฆษณาที่ต้องห้ามหรือที่เผยแพร่ได้แบบมีข้อจำกัด และกำหนดลักษณะของโฆษณาที่ต้องขออนุญาตก่อน เช่น การลงทุน การให้สินเชื่อ รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อให้ผู้ทำการโฆษณาหลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลอ่อนไหวในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย โฆษณา เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็น ทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา ฯลฯ ทั้งยังต้องจัดเก็บข้อมูล และแบ่งประเภทของโฆษณาอย่างชัดเจนพร้อมจัดให้มีช่องทางเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลโฆษณาและผู้ทำโฆษณาได้

ส่วนกลไก Monitoring หรือการตรวจสอบหลังเผยแพร่โฆษณา ในพาร์ทนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ตรวจสอบคุณภาพของผู้ทำโฆษณา ด้วยการตรวจสอบบัญชีของผู้ทำโฆษณา โดยอาจพิจารณาข้อมูล เช่น จำนวนและประเภทการแจ้งรายงาน (Report/ Flagging) การปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการ นโยบาย หรือมาตรฐานการให้บริการ ตรวจสอบโฆษณาที่มีการเผยแพร่บนแพลตฟอร์มดิจิทัล ทั้งด้วยระบบอัตโนมัติ หรือเจ้าหน้าที่ ตามความสำคัญของการตรวจสอบประเภทของโฆษณา ที่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบนอกเหนือจากการใช้ระบบ และต้องจัดให้มีช่องทางที่ผู้ใช้บริการสามารถแจ้งรายงานโฆษณาที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสมได้ อาทิ การแอบอ้างรูปภาพ วิดีโอ ข้อความของบุคคลหรือกิจการอื่น การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การใช้ข้อความที่มีลักษณะลามก อนาจาร หรือขัดต่อศีลธรรมอันดี การชักชวนให้ลงทุนหรือระดมทุนโดยผิดกฎหมาย หรือสิ่งอื่นพร้อมทั้งตรวจสอบ และแจ้งผลให้ผู้ใช้บริการทราบโดยไม่ชักช้า

มีคู่มือคุมเข้มโฆษณาออนไลน์ แล้วใครจะได้ประโยชน์?

หลายคนอาจจะสงสัยว่า เมื่อเรามีคู่มือฯ เข้ามาช่วยดูแลและคุมเข้มป้องกันโฆษณาออนไลน์ลวง และผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์มดิจิทัลแล้ว…ใครได้ประโยชน์บ้าง?

  • เริ่มที่กลุ่มแรกเลย ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ประโยชน์ที่จะได้รับเห็นได้ชัดเลยนั่นก็คือ โอกาสที่จะเจอกับโฆษณาลวง ผิดกฎหมาย หรือไม่เหมาะสม เวลาที่เราดูหนัง ซื้อของ ชอปปิ้งบนแพลตฟอร์มดิจิทัลนั้นน้อยลงหรืออาจไม่เจอเลยก็ได้ นั่นหมายความว่าการทำธุรกรรมออนไลน์ที่อาจจะเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่แฝงมากับโฆษณาออนไลน์ ก็น่าจะลดลง ที่สำคัญยังมีช่องทางเพื่อกดรายงานโฆษณาที่น่าสงสัยหรือไม่เหมาะสมผ่านช่องทางที่แพลตฟอร์มจัดเตรียมไว้ให้ด้วย สร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นในการใช้บริการแพลตฟอล์มได้มากขึ้น
  • ผู้ประกอบการ ทั้งผู้ขายสินค้าและบริการ บนแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่เป็นเจ้าของโฆษณาตัวจริง นอกจาก จะได้รับความชัดเจนในเรื่องของกฎระเบียบและแนวทางในการเผยแพร่โฆษณา การทำโฆษณาที่สอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนดในคู่มือฯ ได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังจะช่วยให้เจ้าของสินค้าหรือบริการ ที่ทำโฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น และการปฏิบัติตามคู่มือฯ ของผู้ทำโฆษณา อย่างการยืนยันตัวตน ทั้งก่อนและหลังโฆษณายังช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกสวมรอยจากเหล่ามิจฉาชีพ ที่ฉวยโอกาสอ้างว่าเป็นเจ้าของแบรนด์ แล้วทำโฆษณาออนไลน์หลอกลวงลูกค้า จนสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ กระทบต่อแบรนด์ของผู้ประกอบการอีกด้วย
  • แพลตฟอร์มดิจิทัล เองก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะได้ผลประโยชน์จากคู่มือฯนี้ เพราะไม่เพียงมีแนวทางที่ชัดเจนในการตรวจสอบและควบคุมโฆษณาออนไลน์ที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มของตนเท่านั้น หากแต่ คู่มือฯ นี้ยังช่วยลดความเสี่ยงที่แพลตฟอร์มอาจต้องเผชิญ เช่น การถูกฟ้องร้องจากการปล่อยให้มีโฆษณาผิดกฎหมายหรือหลอกลวง ที่สำคัญช่วยสนับสนุนให้ Ecosystem ของผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มมีคุณภาพ ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นพร้อมยกระดับบริการ และเสริมภาพลักษณ์ในฐานะแพลตฟอร์มที่มีมาตรฐานในการให้บริการที่ปลอดภัย น่าเชื่อถือ ด้วยกลไกของการกำกับดูแลตนเอง
  • ขณะที่ กลุ่มหน่วยงานรัฐ และเอกชน นอกจากจะไม่เสี่ยงต่อการถูกสวมรอย อ้างว่าเป็นหน่วยงานต่างๆ จากเหล่ามิจฉาชีพแล้ว หากเกิดผลกระทบจากโฆษณาลวงยังสามารถติดตาม ตรวจสอบโฆษณาลวงจากแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“คู่มือการดูแลโฆษณาบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล” นับเป็นหนึ่งกลไกสำคัญที่เกิดขึ้นภายใต้กฎหมาย DPS ที่ ETDA คาดว่าจะช่วยเสริมสร้างมาตรฐานบริการที่ปลอดภัยและโปร่งใส ด้วยกลไกการกำกับ ดูแล คุ้มเข้มโฆษณาลวงและผิดกฎหมาย ที่ไม่จำกัดแค่การกำหนดแนวทางที่แพลตฟอร์มและผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม แต่ยังสนับสนุนให้ธุรกิจดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบ พร้อมทั้งปกป้องผู้บริโภคจากการถูกหลอกลวง สู่การร่วมสร้างสภาพแวดล้อมของการทำธุรกรรมออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ และวางใจได้ในระยะยาว

ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลด“คู่มือการดูแลโฆษณาบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล” ได้ที่ https://bit.ly/4edonVr หรือติดตามข้อมูลดีๆ ที่จะช่วยให้คุณ “ชีวิตดีเมื่อมีดิจิทัล” ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand

5 ข้อควรรู้! ปลอดภัยจากภัยไซเบอร์บนสมาร์ททีวีซัมซุง ด้วย Samsung Knox การันตีที่สุดความปลอดภัยบนสมาร์ทีวีจากซัมซุง

supersab

Recent Posts

เซ็นทรัลพัฒนา ผนึก Edutainment และ Playland จัดแคมเปญ “The Little Campus 2024” ดันทราฟฟิกกลุ่มครอบครัว

เซ็นทรัลพัฒนา ผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำด้าน Edutainment กว่า 300 สถาบัน รวมถึง Playland สุดฮิต จัดแคมเปญ The Little Campus 2024 เปลี่ยนศูนย์การค้าเซ็นทรัลให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้…

7 hours ago

เดนทิสเต้พาลิซ่าจัดงานในไทยอีกครั้ง กับ 3 กิจกรรมในงาน DENTISTE’ x LISA Exclusive After Party

เดนทิสเต้ เดินหน้านำ 3 กิจกรรมสุดยิ่งใหญ่เหนือใคร พาศิลปินระดับโลกชาวไทยอย่าง “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวเดนทิสเต้ ในฐานะ Brand Ambassador ของประเทศไทย มาสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับแฟนๆ ชาวไทยผ่าน…

7 hours ago

เพอร์เฟค ปิดดีลขายที่ดิน 2 แปลง พร้อมออกหุ้นกู้ 2 ชุด ดอกเบี้ยสูง 7% และ 7.25%

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ปิดดีลขายที่ดิน 2 แปลง รับ 700 ล้านบาท พร้อมออกหุ้นกู้ 2 ชุด ดอกเบี้ยสูง 7% และ 7.25%…

7 hours ago

กทม. x สวทช. สสวท พัฒนาเยาวชน ในโรงเรียนภาษาที่สาม สู่นวัตกรยุค 4.0 ด้วย Digital Innovation Maker space นำร่องพื้นที่กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่ชาติ (เนคเทค สวทช.) และ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติ Digital…

7 hours ago

รฟม. เผยครบรอบ 1 ปี นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผลดีเกินคาด ทำยอดผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT และผู้ใช้บริการอาคารจอดแล้วจรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายวิทยา พันธุ์มงคล รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ รฟม. ได้ดำเนินการตามนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบาย Quick Win “คมนาคม…

10 hours ago

เป็นเจ้าของสถานีชาร์จฯ ง่ายนิดเดียว ชมแพคเกจสุดพิเศษจาก กฟผ.ในงาน Bangkok EV Expo 2024 ที่บูท EV3/2

กฟผ. ร่วมออกบูท EGAT EV Business Solutions (บูท EV3/2) ในงาน Bangkok EV Expo 2024 เพื่อส่งต่อความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการพัฒนาและการบริหารจัดการเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า…

10 hours ago