J-Tec Material Handling มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมเคมีและอาหารในไทย พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม

เจ-เทค แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง (J-tec Material Handling) บริษัทวิศวกรรมผู้เชี่ยวชาญการออกแบบและสร้างระบบขนถ่ายวัตถุดิบที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้กับอุตสาหกรรมเคมีและอาหาร ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

Jordy Vanden Eynde ผู้อํานวยการฝ่ายขายในภูมิภาคอาเซียน บริษัท เจ-เทค แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง กล่าวว่า “หลักการของ เจ-เทค นั้นขยายไปไกลกว่าการจัดการและแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างประเทศไทย ซึ่งเปรียบเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ของเอเชีย การมีพันธมิตรที่เข้าใจความต้องการและความท้าทายในอุตสาหกรรมถือเป็นสิ่งคัญ จุดแข็งของ เจ-เทค คือเรานำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมในอุตสาหกรรมระดับโลกมาประยุกต์ใช้ ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีที่สุด พร้อมนําเสนอวิธีจัดการที่ครบวงจรจากผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบ การก่อสร้าง การติดตั้ง และการบํารุงรักษา รวมทั้งเรามีทีมงานในพื้นที่ จึงทำให้สามารถตอบสนองความต้องการและให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าได้ทันที ซึ่ง เจ-เทค เป็นพันธมิตรที่ลูกค้าชั้นนำทั่วโลกให้ความไว้วางใจและพร้อมสร้างความสําเร็จไปด้วยกันในทุก ๆ ด้าน”

–SMC เผยความสำเร็จในการผลักดันอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ 4.0 พร้อมเผยผลการสำรวจระดับความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทยปี 2566

ความร่วมมือของ J-Tec Material Handling กับ Covestro ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของอุตสาหกรรมเคมีในการผลิตวัตถุดิบที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและยกระดับคุณภาพชีวิต และยังแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของ เจ-เทค ในการจัดการกับความเสี่ยงและความท้าทายในกระบวนการผลิต ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการจัดการและการแปรรูปสารอันตราย ซึ่ง เจ-เทค ได้แสดงความมุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้ปลอดภัย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด

ความสําเร็จของการเป็นพันธมิตรครั้งนี้เกิดขึ้นจากการผสมผสานความรู้ของ Covestro เข้ากับความเชี่ยวชาญของ เจ-เทค และความรู้เฉพาะทางของผู้ผลิตเครื่องจักร (OEM) ในการส่งมอบงานที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ การยึดมั่นต่อมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด และการกำกับดูแลคุณภาพตามมาตรฐาน CE และ ATEX ช่วยให้ลูกค้าและผู้ใช้งานมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจ

การก่อตั้ง เจ-เทค แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง (J-Tec Material Handling) ในปีพ.ศ. 2561 ได้แสดงความมุ่งมั่นของการพัฒนาธุรกิจในประเทศไทย โดยเน้นย้ำถึงความทุ่มเทในการนำเสนอวิธีการจัดการและการออกแบบระบบขนถ่ายวัตถุดิบอย่างครอบคลุมในทุกภูมิภาค เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ ทั้งนี้ เจ-เทค ยังได้ร่วมมือกับ Total Energies Corbion PLA ในจังหวัดระยอง สร้างโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพ (PLA) โดยโรงงานที่ล้ำสมัยแห่งนี้ผลิต PLA ซึ่งเป็นโพลีเมอร์ชีวภาพและสามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ 100% ด้วยกำลังการผลิต 75,000 ตันต่อปี ขอบข่ายของโครงการนี้คือ การจัดเตรียมพื้นที่เก็บสินค้า ระบบการลําเลียงแบบนิวเมติก (Pneumatic Conveying System) การทําให้เป็นเนื้อเดียวกัน(Homogenization) รวมถึงระบบบรรจุภัณฑ์และการรีไซเคิล ซึ่งการบริหารจัดการโครงการนี้เป็นการทำงานร่วมกันโดยตรงระหว่าง J-Tec Material Handling และ Total Energies Corbion PLA ส่งผลให้การจัดการงบประมาณมีประสิทธิภาพ และด้วยความเป็นอิสระจากผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องจักร (Supplier-independent) ทำให้ เจ-เทค สามารถนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมในระบบการลําเลียงแบบนิวเมติก (Pneumatic Conveying System) แก่ Total Energies Corbion PLA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2544 เป็นต้นมา J-Tec Material Handling ให้ความสำคัญกับแนวทางปฎิบัติที่ยึดลูกค้าเป็นหลัก ด้วยความเข้าใจดีว่าทุกโครงการมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก และมุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์ของลูกค้าเกิดขึ้นจริง ผ่านความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งการได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลอย่าง ISO 9001: 2015 และ ISO 45001: 2018 รวมถึงมาตรฐานอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น CE, ATEX และ EHEDG ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของ เจ-เทค แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง ในการออกแบบที่ได้มาตรฐาน

นอกจากนี้ ความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่โครงการใหม่ (Greenfield sites) ไปจนถึงโครงการปรับปรุงหรือดัดแปลงระบบในพื้นที่โครงการเดิม (Brownfield sites) ทำให้ลูกค้ามั่นใจ ว่า เจ-เทค สามารถจัดการให้เหมาะสมตามข้อกำหนดได้

J-Tec Material Handling โดดเด่นในการผสมผสานความเป็นเลิศทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก ด้วยประสบการณ์จากการดําเนินโครงการขนาดใหญ่ทั่วภูมิภาคอาเซียนและการขยายบริการไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น เกาหลีใต้ อินเดีย จีน และญี่ปุ่น โดยได้พัฒนาวิธีการจัดการและการออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการทางอุตสาหกรรมที่มีลักษณะเฉพาะตัว และมุ่งสร้างกระบวนการที่มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นสําหรับอนาคต

• Facebook
• X
• Line