บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด เดินหน้าก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 วางเป้าหมายสู่ Tech Company ของคนไทย ตัวจริงด้าน DX – Digital Transformation มุ่งสร้างสรรค์แพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ธุรกิจ เผยมองเห็นโอกาสในการเติบโตชัด เดินเกมดึงคนใช้แพลตฟอร์ม พร้อมรุกธุรกิจที่ปรึกษาในการทำ Digital Transformation ให้องค์กรต่างๆ แบบเต็มสูบ
ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2565 นี้บริษัทอยู่ท่ามกลางโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ และการเข้าสู่ปีที่ 5 ถือเป็นก้าวสำคัญมาก จากที่เจ เวนเจอร์สมีจุดเริ่มต้นเป็น Venture Capital เพื่อลงทุนด้านเทคโนโลยี อีกทั้งยังต้องมองหาโอกาสพัฒนาต่อยอด และทำ Digital Transformation ให้กับกลุ่มบริษัทเจมาร์ท เพื่อรับมือกับธุรกิจใหม่ๆ ที่ต้องขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
ที่ผ่านมาเราสามารถผลักดันให้เจมาร์ท กรุ๊ปเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้น ซึ่งเป้าหมายต่อไปของเจ เวนเจอร์ส คือ การก้าวสู่การเป็น Tech Company อย่างเต็มตัว เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลให้กับอีโคซิสเต็มของเรา พร้อมผลักดันและขับเคลื่อน Digital Transformation ให้เกิดขึ้นจริงในกลุ่มพันธมิตร
–Sea (ประเทศไทย) ฉลองครบรอบ 10 ปี เปิดแผนกลยุทธ์ขับเคลื่อน 3 ธุรกิจหลัก พร้อมเปิดตัว Sea Academy
–เปิดตัว Keep Di บริการ อินชัวรันส์ บูโร บนบล็อกเชน คาดผู้ใช้ปีแรก 3 แสนราย
Technology & Platform: การพัฒนาและสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในอีโคซิสเต็ม แบ่งออกเป็น 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Jaymart Blockchain Platform (JBP), The New Finance (JNF) และ JO2O (The New Retail) ซึ่งนำเอา Blockchain Technology มาเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการขับเคลื่อน โดยเจ เวนเจอร์ส มีบล็อกเชนของตัวเอง ได้แก่ xCHAIN ซึ่งพัฒนาโดย TBWG ที่เป็นบริษัทลูกของเจ เวนเจอร์ส และยังมี JFIN Chain ที่ต่อยอดจากการพัฒนาเหรียญ JFIN
Venture Builder: การลงทุนในบริษัทและสตาร์ทอัพเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอาทิ ธุรกิจ Commerce และ Fintech เพื่อนำมาต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัทเอง และช่วยขับเคลื่อนไปสู่การทำ Digital Transformation ให้กับกลุ่มเจมาร์ทและพันธมิตร รวมทั้งสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทในอนาคต
Jaymart DX: การขับเคลื่อนให้เกิด Digital Transformation ในกลุ่มบริษัทเจมาร์ท ซึ่งเป็นพันธกิจหลักของเจ เวนเจอร์ส พัฒนาและสร้างระบบเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจของแต่ละบริษัทเดินหน้าและเติบโตได้
Enterprise DX: การนำเทคโนโลยีของเจ เวนเจอร์สและพาร์ทเนอร์ที่มีออกไปใช้กับกลุ่มธุรกิจในอีโคซิสเต็มนอกเหนือจากกลุ่มเจมาร์ท ในรูปแบบของการเข้าไปร่วมสร้าง และพัฒนาสู่ Digital Transformation ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจ มหาวิทยาลัย หรือการร่วมกับองค์กรส่วนท้องถิ่น
ในช่วง 3 ปีแรก ถือเป็นช่วงสร้างระบบ หรือแพลตฟอร์ม สำหรับนำมาต่อยอดขยายธุรกิจ ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา การเติบโตของเจ เวนเจอร์สมีความชัดขึ้น บริษัทมีรายได้ 56.2 ล้านบาท และเริ่มมีกำไรสุทธิ 1.12 ล้านบาท ส่วนในปี 2565 แม้จะมีความท้าทายหลายปัจจัยจากภายนอก แต่เราก็ได้วางกลยุทธ์การสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นอย่างเช่น Join Application บล็อกเชนแอปพลิเคชันที่จะเชื่อมต่อกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ JNFT ซึ่งเป็น NFT Marketplace หรือ JFIN Chain ที่เป็นบล็อกเชนของเราเอง โดยตั้งเป้าให้มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น
รวมทั้งนำเอาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีที่มีเข้าไปช่วยขับเคลื่อนองค์กรต่าง ๆ ที่อยู่ในอีโคซิสเต็มของเรา ในการทำ Digital Transformation แล้ว ด้วยสิ่งที่เราสร้างขึ้น และสามารถใช้งานได้จริงทันทีจะช่วยให้ธุรกิจขยายและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ที่ผ่านมา เจ เวนเจอร์สได้พัฒนาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะนำมาเชื่อมต่อสู่การขับเคลื่อน Digital Transformation ไม่ว่าจะเป็น
JFIN: เหรียญดิจิทัลสร้างขึ้นมาภายใต้มาตรฐาน ERC-20 และมีเสนอขายในรูปแบบ ICO โดยมีวัตถุประสงค์ ณ เวลานั้น เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการกู้ยืม JFIN ถูกนำไปใช้ในลักษณะ Utility Token มีการนำมาใช้ใน Jaymart Ecosystem เพื่อรับสิทธิพิเศษ แลกสินค้าและบริการต่างๆ
ป๋า (Pah): Digital Lending Platform ที่พัฒนาขึ้นสำหรับเป็นการปล่อยกู้ส่วนบุคคล โดยพัฒนาระบบเครดิตสกอร์ Pah Score ที่นำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning รวมถึงสร้างแบบทดสอบวิเคราะห์ มาใช้ในการพิจารณาปล่อยกู้บนระบบบล็อกเชน
Join Application: ต่อยอดจากแอปพลิเคชัน J.ID ที่มีฟีเจอร์หลักเพื่อการเก็บเหรียญ JFIN และใช้งานในการรับสิทธิพิเศษต่างๆ จากพาร์ทเนอร์ สามารถยืนยันตัวตน (e-KYC) ได้ตามมาตรฐาน NDID ซึ่งมีผู้ใช้งานประมาณ 800,000 Join เป็นแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อธุรกิจสู่โลกของเทคโนโลยีบล็อกเชนในรูปแบบของ Mobile Application
Blockchain AGM: ระบบโหวตบนบล็อกเชน เพื่อรองรับ Annual General Meeting (AGM) ตามมาตรฐานของพระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 ที่ตอบโจทย์ของการประชุมออนไลน์ และการทำงานแบบ Work From Anywhere
JNFT Marketplace: แพลตฟอร์มสำหรับการสรรค์สร้าง ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน “NFT Token” โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างผลงาน NFT ของตัวเอง และซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์มได้
xCHAIN: เทคโนโลยีบล็อกเชนพื้นฐานที่สร้างขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ภาคการศึกษา นักศึกษา กลุ่มธุรกิจขนาดย่อม วิสาหกิจ หรือกลุ่มนักพัฒนาได้ใช้งานในการสร้างสรรค์ Decentralized Applications ด้วยค่าใช้จ่าย (Gas Fee) น้อย และมีความผันผวนต่ำ โดยมีสถาบันการศึกษา และบริษัทชั้นนำในประเทศไทย ร่วมกันเป็น Validator Nodes
JFIN Chain: ระบบบล็อกเชนแบบ Proof-of-Stake เกิดจากการมองเห็นโอกาส และความต้องการของผู้ใช้งานสำหรับเครือข่ายที่จะมารองรับ Decentralized Applications ที่มีความหลากหลายทั้งในรูปแบบการทำงาน และอรรถประโยชน์ โดยเฉพาะ DeFi, GameFi, NFT และ Metaverse ซึ่งมีการเติบโตมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ JFIN Chain ใช้ JFIN Token เป็น Native Token ในการทำธุรกรรม (Gas Fee)
“สิ่งที่เราตั้งใจทำมาตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่เปลี่ยนไปของบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท รวมไปถึงผลักดันให้กรุ๊ปก้าวสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ ต่อไปเราจะไม่หยุดแค่เพียงกลุ่มของเราเท่านั้น แต่เจ เวนเจอร์สยังพร้อมที่เข้าไปเป็นส่วนในการขับเคลื่อน Digital Transformation ให้กับพันธมิตรของเรา ด้วยองค์ความรู้ และเทคโนโลยีที่เรามี รวมพลังกับบริษัทลูกของเราเอง สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้น” ธนวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับ AIS ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ มุ่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากภัยมิจฉาชีพออนไลน์ให้แก่ประชาชนชาวไทยอย่างเข้มข้น ผ่านการส่งเสริมทักษะดิจิทัลและความรู้เท่าทันภัยทางการเงิน เพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งในการใช้งานบนโลกออนไลน์และการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลระบบการเงินของประเทศ และผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างเกราะป้องกันภัยทางการเงินดิจิทัลให้แก่ประชาชนในวงกว้าง หัวใจสำคัญของความร่วมมือนี้คือ การดำเนินงานเชิงรุกในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจนี้…
BizTalk x Sunny Horo กับคอลลัมน์ ดวงธุรกิจ Weekly ชวนมาอัพเดต ดวงประจำวันที่ 7 - 13 เมษายน 2568 กัน ใครเกิดตรงกับวันไหน มาดูกันเลย…
Biztalk ประจำวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2568 พาไปนครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ติดตามโอกาสทางการค้าไทย ผ่านโครงการเชื่อมต่อการขนส่งทางรางในเส้นทาง สิงคโปร์-คุนหมิง ที่จะนำพาสินค้าไทยไปยังจีนและส่งต่อไปยังสหภาพยุโรป พร้อมอัพเดทความเคลื่อนไหวโครงการตั๋วร่วมและรถไฟ 20 บาทตลอดสาย ทุกสายกันยายนนี้…
ในบริบทของอุตสาหกรรมการผลิตโดยรวม การมุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังคงเป็นประเด็นสำคัญอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สำหรับภาคธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG) แนวโน้มที่โดดเด่นในปัจจุบันคือการให้ความสำคัญกับการเพิ่มพูนผลกำไรและผลตอบแทนที่มอบให้กับผู้ถือหุ้นเป็นลำดับต้น ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุน ทำให้หลายองค์กรอาจลดทอนความสำคัญของการลงทุนในด้านความยั่งยืนลง ซึ่งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดว่าธุรกิจต้องเลือกระหว่าง "ความยั่งยืน" และ "ผลกำไร" เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว…
LINE ประเทศไทย จัดงาน LINE Developers Meetup #6 สุดยิ่งใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ กรุงเทพมหานคร งานรวมพลคนไอทีและนักพัฒนาผู้สนใจเทคโนโลยีจาก LINE ครั้งสำคัญนี้…
Biztalk เสาร์นี้กับ ตั๊ก ฐิติกร ทิพย์มณเฑียร ร่วมประเมินทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเหตุแผ่นดินไหวกับ คุณสัมมา คีตสิน นักเศรษฐศาสตร์อสังหาริมทรัพย์ https://www.youtube.com/watch?v=gL0ooLDVi3o -AI กับการทำงานสื่อ สรุปแล้วเราจะตกงานมั้ย?
This website uses cookies.