เกาสง, ไต้หวัน – เมืองเกาสงประกาศแผนพัฒนาเมืองสู่ความเป็นสมาร์ทซิตี้ระดับโลก โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการเดินหน้าพัฒนา “Kaohsiung City GPT” แพลตฟอร์ม Generative AI (GenAI) ที่พัฒนาขึ้นเองโดยใช้ข้อมูล LLM และ VLM ที่สร้างขึ้นจากเมืองเกาสง เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของเมือง
Charles Lin รองนายกเทศมนตรีนครเกาสง เปิดเผยว่า “เป้าหมายของเราคือการสร้างระบบนิเวศข้ามอุตสาหกรรม โดยบูรณาการเทคโนโลยี 5G, AI และ IoT เข้ากับบริการของรัฐบาล เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและพัฒนาเมืองให้ทันสมัย”

Kaohsiung City GPT: หัวใจสำคัญของการพัฒนาเมือง
Charles Lin ระบุว่า “Kaohsiung City GPT” เป็นแพลตฟอร์ม GenAI ที่พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลนครเกาสง, Nvidia, Chunghwa Telecom และพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อ “แก้ไขปัญหาท้องถิ่น” โดยแพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในภาษาท้องถิ่น โดยใช้ข้อมูลเฉพาะของเมืองเกาสงในการพัฒนา AI
ส่วนต่อมาคือ การยกระดับการให้บริการ GenAI สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่ซับซ้อนและให้คำแนะนำแก่รัฐบาล เพื่อปรับปรุงการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้เมืองเกาสงยังคำนึงถึง ความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพราะการพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ของตนเองช่วยให้รัฐบาลสามารถควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ
โดยเป้าหมายในปลายทางคือ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI เมืองเกาสงมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยเน้นไปที่การสร้าง Large Language Model (LLM) และ Vision Language Model (VLM) เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาของเมืองอย่างตรงจุด โดยมีการเก็บข้อมูลท้องถิ่นที่เฉพาะเจาะจง เพื่อนำมาพัฒนา AI ให้สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เมืองเกาสงจะเป็นเจ้าภาพในการการลงทุนด้านงบประมาณทั้งหมด

การพัฒนาด้านการแพทย์อัจฉริยะ
ไม่เพียงแค่การสร้าง GenAI ระดับเมือง Charles Lin ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านการแพทย์อัจฉริยะ โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลกว่า 18 แห่ง และ Taiwan AI Lab เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ สร้างศูนย์การแพทย์อัจฉริยะที่สามารถแบ่งปันข้อมูลทางการแพทย์ได้อย่างปลอดภัย โดยรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย
เร่งการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ โดยการใช้ AI เข้ามาวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์และเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย และสุดท้ายคือ การส่งออกการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการร่วมมือกันพัฒนาแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพอัจฉริยะกับโรงพยาบาลในจังหวัดกาญจนบุรี
Charles Lin ระบุว่า “เรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น ถนนและทางหลวง” โดยอีกหนึ่งโครงการที่เมืองเกาสงเร่งพัฒนาคือ Digital Twin เพื่อสร้างแบบจำลองดิจิทัลของเมือง เพื่อจำลองสถานการณ์ต่างๆ เช่น คาดการณ์ปริมาณน้ำฝน เพราะเมืองเกาสงนั้นจะมีช่วงเวลาที่ฝนไม่ตกยาวนานกว่า 5 เดือน ขณะที่ฝนจะตกหนักมากในช่วงฤดูร้อน ทำให้เมืองต้องบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบให้เพียงพอต่อภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และครัวเรือน
นอกจากนี้ เทคโนโลยี Digital Twin ยังถูกนำมาใช้กับการวิเคราะห์สภาพการจราจร รวมถึงในกรณีที่เกิดภัยพิบัติได้อีกด้วย

เป้าหมายสู่ผู้นำด้าน AI ระดับภูมิภาค
สุดท้ายปลายทางของการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ เมืองเกาสงตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำด้าน AI ในระดับภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ที่สามารถรองรับแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ต่างๆ หรือการร่วมมือกับ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) บริษัทผู้ผลิตชิปอันดับต้นของโลก เพื่อพัฒนาชิปประมวลผล AI ในระดับ 2 นาโนเมตร อีกด้วย
ซึ่งหากทำได้สำเร็จ เมืองเกาสงจะเป็นผู้นำในการส่งออกประสบการณ์และความรู้ด้าน AI และการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ไปยังเมืองอื่นๆ ทั่วโลก
–ไต้หวัน ชูโมเดล “Kaohsiung Smart City” สร้างเมืองอัจฉริยะและปลอดภัยด้วย GenAI