“LINE ประเทศไทย” เปิดแผนพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำ! ดันแพลตฟอร์มเปิด ขยายอาณาจักรนักพัฒนาไทย สู่การเติบโตไร้ขีดจำกัด ในงาน LCT25

"LINE ประเทศไทย" เปิดแผนพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำ! ดันแพลตฟอร์มเปิด ขยายอาณาจักรนักพัฒนาไทย สู่การเติบโตไร้ขีดจำกัด ในงาน LCT25

LINE ประเทศไทย ประกาศวิสัยทัศน์ครั้งใหญ่ในงาน LINE CONFERENCE THAILAND 2025 (LCT25) ตอกย้ำความเป็น “แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย” พร้อมเปิดตัวแผนพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำ มุ่งขยายโอกาสให้นักพัฒนา พาร์ทเนอร์ และผู้ประกอบการไทย เชื่อมต่อไอเดีย สร้างสรรค์โซลูชัน ตอบโจทย์ผู้ใช้ LINE กว่า 56 ล้านคนทั่วประเทศ

หัวใจสำคัญของงาน LCT25 คือการเปิดตัว “LINE MINIAPP” อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันของตนเองบน LINE ได้อย่างง่ายดาย ลดข้อจำกัดในการพัฒนา Native App ที่ต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก โดย LINE MINIAPP แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Unverified MINIAPP และ Verified MINIAPP ซึ่งมอบฟีเจอร์เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสให้นักพัฒนาและธุรกิจ เช่น ช่องทางการค้นหาและเข้าถึงที่สะดวกขึ้น การเพิ่ม Short Cut บนโฮมสกรีน ข้อความแจ้งเตือน (Service Message) จากระบบ LINE MINIAPP ฟรี และการติดตั้งเครื่องมือ Tracking เพื่อนำข้อมูลจากการใช้งาน LINE MINIAPP ของลูกค้ามาวิเคราะห์

นอกจากนี้ LINE ยังได้เปิดตัว “LINE MINIAPP Playground” พื้นที่ให้นักพัฒนาสามารถทดลองสร้าง MINIAPP ของตนเองได้ก่อนพัฒนาจริง พร้อมทั้งเปิดเวทีให้พาร์ทเนอร์อย่าง The Omelet and Anybot Thailand มาร่วมแบ่งปันโซลูชันสำหรับการสร้าง MINIAPP แบบ Low-code และ OKKAMI พาร์ทเนอร์ผู้มากประสบการณ์ในการสร้าง LINE MINIAPP ด้านการจัดการโรงแรม

“LINE OAPLUS” แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานสุดแกร่ง เปิดโอกาสนักพัฒนาสร้างสรรค์โซลูชันบน LINE ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นแพลตฟอร์มเปิด LINE ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าพัฒนา “LINE OAPLUS” แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกองค์กรสามารถสร้างบริการบน LINE ได้อย่างง่ายดาย ด้วยผลการใช้งานที่ผ่านมาของแพลตฟอร์มนี้ในการสร้างเครื่องมือและโซลูชันต่างๆ บน LINE เช่น MyShop, MyCustomer และ MyCustomer | CRM พบว่าแพลตฟอร์มมีความเสถียรในการใช้งานถึง 98.36% และมี Downtime ของระบบโดยรวมสูงสุดเพียง 6 วันเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดแพลตฟอร์ม LINE OAPLUS อย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้ เพื่อสร้างความยืดหยุ่น ลดต้นทุนด้านทรัพยากรและเวลา และเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้นักพัฒนาและภาคธุรกิจในการสร้างสรรค์บริการต่างๆ บน LINE นอกจากนี้ LINE ยังมีแผนที่จะเปิด Marketplace เพื่อรวบรวมบริการและโซลูชันที่พัฒนาขึ้นผ่านแพลตฟอร์มนี้ และนำเสนอโมเดลในการสร้างรายได้ร่วมกับนักพัฒนาอย่างเป็นระบบในระยะยาว

“LINE BOT Marketplace” ศูนย์รวมบอทอัจฉริยะ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้ LINE ในอนาคต

ด้านการพัฒนาจุดแข็งของกรุ๊ปแชท LINE มุ่งมั่นที่จะสร้าง “LINE BOT Marketplace” ศูนย์รวมบอทบน LINE ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในหลากหลายมิติ เช่น การนัดหมาย สรุปข้อมูลการทำงาน แจ้งเตือนกิจกรรม และการจัดการงานต่างๆ ให้ง่ายขึ้น LINE มีแผนที่จะเปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกองค์กรสามารถสร้างสรรค์และนำเสนอบอทใน BOT Marketplace แห่งนี้ได้อย่างหลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้บอทมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัว อำนวยความสะดวกทั้งในด้านไลฟ์สไตล์และการทำงานบนแชท LINE ได้อย่างอิสระในอนาคต

“LINE DEVELOPER PARTNER” โปรแกรมสนับสนุนนักพัฒนาชั้นนำ มุ่งสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง

นอกเหนือจากแผนพัฒนาเทคโนโลยีแล้ว LINE ประเทศไทย ยังได้เปิดตัว “LINE DEVELOPER PARTNER” โปรแกรมรวบรวมองค์กรนักพัฒนาชั้นนำในไทย ที่สามารถสร้างสรรค์โซลูชันบนแพลตฟอร์ม LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยองค์กรนักพัฒนาเหล่านี้จะได้รับการคัดเลือกจาก LINE และได้รับ Certified Badge ใน 3 ระดับ ได้แก่ Authorize, Professional และ Expert เพื่อเข้าถึงทักษะความรู้เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญของ LINE การสนับสนุนด้านการตลาด และโอกาสในการร่วมโปรเจ็กต์กับพาร์ทเนอร์ธุรกิจองค์กรต่างๆ ระดับประเทศ

LINE DEVELOPER PARTNER มีแผนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยในงาน LCT25 ได้มีการเปิดเวทีให้ 3 พาร์ทเนอร์ผู้ผ่านเข้าร่วมโปรแกรมแล้ว ได้แก่ Jenosize, EGG Digital และ Crescendo Lab มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และ Use Case ที่น่าสนใจ

เดินหน้าสู่อนาคตดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไทย

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีและโอกาสใหม่ๆ ที่ LINE ประเทศไทย มอบให้กับนักพัฒนาไทยในงาน LCT25 เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นแพลตฟอร์มเปิดที่สนับสนุนนักพัฒนาไทย สามารถเข้ามามีส่วนร่วม ต่อยอดการสร้างสรรค์โซลูชันที่ตอบโจทย์คนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไทยสู่อนาคตดิจิทัลอย่างแข็งแกร่ง

AIS Cloud PC ขยายฐานสู่ 10 ประเทศเอเชีย เปลี่ยนแท็บเล็ตเป็นคอมพกพาได้ทุกที่ เริ่มต้นเพียง 299 บาท

Scroll to Top