Technology IT

LINE ชวนมองทิศทางเศรษฐกิจไทย พร้อมแนะสร้างกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยท่ามกลางความไม่แน่นอนรอบตัว

LINE ประเทศไทย จัดงาน THAILAND NOW & NEXT: Thriving through The Economic Instability ชวนธุรกิจใหญ่และแบรนด์ร่วมเจาะลึกและเข้าใจสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมเปิดอินไซต์การใช้ดาต้าบน LINE เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างกลยุทธ์ใหม่ นำพาธุรกิจเติบโตต่อได้อย่างยั่งยืน

รัฐธีร์ ฉัตรดำรงค์ศักดิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมา GDP ของไทยเติบโตแบบผันผวนจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ถึงแม้ในปี 2024 นี้ คาดว่าจะมีการฟื้นตัวด้วยอัตราการเติบโตประมาณ 2.3% ถึง 2.6% จากแรงสนับสนุนของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น หากแต่หนี้ครัวเรือนที่มีสัดส่วนสูงถึงกว่า 90% รวมถึงปัจจัยลบภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลก และการทะลักเข้ามาของสินค้าจีนในภูมิภาคอาเซียน ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่น่ากังวล เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นทั้งหลายเหล่านี้ ชี้ว่าประเทศไทยรวมถึงธุรกิจต่างๆ กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั้งระดับมหภาคและจุลภาค

เปิดพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภค

ในขณะที่ ชินตา ศรีจินตอังกูร Thailand Site Leader บริษัท นีลเส็นไอคิว (ประเทศไทย) จำกัด ได้มาร่วมแบ่งปันข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ภายใต้หัวข้อ UNFOLDING CONSUMER INSIGHTS IN A CHALLENGING THAILAND โดยเปิดเผยงานวิจัยของนีลเส็น ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีรูปแบบพฤติกรรมที่เปลี่ยนจากการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังไปสู่การใช้จ่ายแบบพิถีพิถันและตั้งใจมากขึ้น โดยเกิดขึ้นจาก 4 ตัวแปรสำคัญ คือ

(1) สถานะของผู้บริโภค ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะปรับตัวกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมได้ดี โดยมีการประเมินการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้เงินนั้นเกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า

(2) ปัจจัยขับเคลื่อนการบริโภค ที่สำคัญคือ สภาวะเงินเฟ้อในไทย ทำให้ผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อสิ่งตอบแทนที่เท่าเดิม โดยสินค้าที่ผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญคือ สินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน อย่างสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) อีกทั้ง ผู้บริโภคยังมีความภักดีต่อแบรนด์น้อยลง พร้อมที่จะเปลี่ยนไปซื้อสินค้าที่มองว่าคุ้มค่ากว่า

(3) ความเหลื่อมล้ำทางการเงิน ในปี 2024 แม้ว่าผู้บริโภคจำนวนมากจะเริ่มมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น แต่กลุ่มใหญ่ในสังคมไทยมากกว่า 50% ยังระมัดระวังและมีความกังวลในการใช้จ่าย ผู้บริโภคส่วนมากยังให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายที่เน้นความเรียบง่าย การวางแผน และการหลีกเลี่ยงความสิ้นเปลือง

(4) นิยาม “ความคุ้มค่า” แบบใหม่ ผู้บริโภคไม่ได้มองแค่เรื่องราคาที่ถูกลง แต่ยังพิจารณาถึงคุณค่าในรูปแบบอื่นๆ ภายใต้ราคาที่เข้าถึงได้ เช่น เป็นสินค้าใหม่ เป็นสินค้าที่สร้างความยั่งยืน เป็นสินค้าที่มาจากธรรมชาติ เป็นต้น

จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หลายธุรกิจได้ตระหนักและปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง

ใช้ดาต้าตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภค

ศรีสุภาคย์ อารีวณิชกุล ผู้อำนวยการธุรกิจองค์กร LINE ประเทศไทย ได้เผยถึงอินไซต์การใช้งานดาต้าบนแพลตฟอร์ม LINE ของธุรกิจต่างๆ ในไทยที่น่าสนใจตลอดช่วงปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวเสริมกลยุทธ์ใหม่โดยใช้ดาต้า เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยสามารถสรุปอินไซต์การปรับตัวที่เกิดขึ้นของแบรนด์เป็น 4 กลยุทธ์ด้วยกัน 

(1) ใช้ช่องทางโฆษณาแบบผสมผสาน โดยใช้ทั้งช่องทางโฆษณาแบบ Reservation เพื่อเข้าถึงระดับ Mass ควบคู่ไปกับช่องทางโฆษณาบน LINE Ads เพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง ช่วยให้แบรนด์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาได้ดีขึ้น

(2) ใช้กลุ่มเป้าหมายใหม่ในการยิงโฆษณา โดยทดลองเลือกกลุ่มเป้าหมายในเซกเมนต์ใหม่ๆ นอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายโดยตรงที่เคยเลือกใช้ เพื่อขยายฐานผู้มีแนวโน้มสนใจสินค้าของแบรนด์ได้กว้างและครอบคลุมขึ้น เช่น กลุ่มธุรกิจยานยนต์ ที่ลองขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ที่สนใจเรื่องแต่งงาน ครอบครัว หรือเสียงเพลง เป็นต้น

(3) ให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูล 1st Party Data โดยใช้เครื่องมือ MyCustomer ทำหน้าที่เป็นถังเก็บ รวบรวม และบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อนำมาจำแนก แบ่งกลุ่มเป้าหมาย ในการสื่อสารและใช้ทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง อาทิ ธุรกิจกลุ่มการเงินและประกัน ที่มีการอัปเดตข้อมูลบัญชี การทำธุรกรรมต่างๆ ของผู้ใช้แต่ละราย หรือนำเสนอบริการอันหลากหลาย ให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคนผ่าน LINE OA อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่แบรนด์ไม่มีข้อมูล 1st Party Data เป็นของตนเอง ก็สามารถใช้ Mission Stickers มาเป็นกลยุทธ์เสริมได้ อาทิ กลุ่มธุรกิจ FMCG และของใช้ส่วนตัว ที่ใช้ Mission Stickers ร่วมกับฟีเจอร์ ‘แบบสอบถาม’ ของ MyCustomer ในการเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคได้โดยตรง เป็นต้น

(4) สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล ด้วยการเอาดาต้ามาจำแนก แบ่งกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ นำเสนอคอนเทนต์ให้ตรงกลุ่ม ตรงใจ ตรงการใช้งานจริงของแต่ละคน เช่น ธุรกิจยานยนต์ ที่มีการยิงโฆษณาด้วยเนื้อหาที่แตกต่างกันไปยังกลุ่มลูกค้าตามระดับความสนใจซื้อ ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจการเงิน ที่มีการแสดงผล Rich Menu บน LINE OA แตกต่างกันไปตามระดับสมาชิกของลูกค้าแต่ละคน เป็นต้น

ส่ง 3 โซลูชันรับ 3 กลุ่มธุรกิจ

เมื่อแบรนด์มีการใช้งานโซลูชันและเครื่องมือดิจิทัลในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งจากผู้บริโภคและเศรษฐกิจ LINE จึงมุ่งวางแผนพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพโซลูชันและเครื่องมือเพื่อธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

โดยภายในงาน วีระ เกษตรสิน รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ LINE ประเทศไทย ได้เผยถึงโร้ดแมปการพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องมือ โซลูชันต่างๆ บน LINE ภายในปี 2024-2025 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มสำคัญ ได้แก่

-กลุ่มบริการด้านโฆษณา ที่มีการเพิ่มรูปแบบใหม่และเพิ่มตัวเลือกในการระบุกลุ่มเป้าหมายที่ละเอียด ครอบคลุมมากขึ้น โดยล่าสุด ได้เปิดให้แบรนด์สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจในกลุ่มผู้ติดตามบน LINE OA แล้ว! และจะมีการขยายไปสู่กลุ่มผู้ใช้งาน LINE OpenChat ผู้ใช้งานบริการอื่นๆ บน LINE รวมถึง LINE TODAY ในอนาคต

-กลุ่มโซลูชันด้านดาต้า ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการดาต้าได้ดีและสะดวกยิ่งขึ้นบน MyCustomer ผ่านความสามารถใหม่ๆ อาทิ การจับคู่ข้อมูลด้านโปรไฟล์ของลูกค้ากับผู้ติดตามใน LINE OA การมีระบบอัตโนมัติมาช่วยดำเนินงานการตลาดให้ การเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบภายนอกได้ และการสร้างกลุ่มเป้าหมายคาดการณ์โดย AI ในขณะที่ MyCustomer | CRM มีแผนเปิดกว้างการเชื่อมต่อกับช่องทางการขายอื่นๆ มากขึ้น รวมไปถึงกับแอปฯ LINE MAN อีกทั้งยังมีการเพิ่มฟังก์ชั่นการสร้างกิจกรรมพิเศษตามกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ

-กลุ่มเครื่องมือเพื่อติดตามผล ที่จะเดินหน้าผลักดันการใช้งาน Conversion API เพื่อช่วยแบรนด์เพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามผลพฤติกรรมผู้บริโภคได้แม่นยำ ครอบคลุมขึ้นกว่าเดิม

ทั้งนี้ LINE ยังคงสานต่อจุดมุ่งหมายในการเป็นแพลตฟอร์มเปิด โดยเน้นไปที่การเปิดกว้างในการเชื่อมต่อกับเครื่องมือใหม่ๆ ภายใต้แพลตฟอร์ม LINE OA Plus การเพิ่มความสะดวกในการช้อปปิ้งผ่าน LINE OA เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวให้กับผู้ใช้ และการพัฒนาโซลูชันในการทำ Chat Commerce บน LINE ให้มีศักยภาพครบถ้วน รอบด้านมากขึ้น และผลิตภัณฑ์กลุ่มเทคโนโลยี เน้นไปที่ MyCustomer API, LINE SHOPPING API และ Mini App ช่วยให้แบรนด์สามารถใช้เทคโนโลยีบน LINE สร้างการเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพมากขึ้นในอนาคต

“เทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ภาคธุรกิจไทยจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ รับรู้ข้อมูล และปรับตัวอย่างทันท่วงที การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้แบรนด์เติบโตและอยู่รอดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง LINE พร้อมที่จะเป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับภาคธุรกิจไทย ในการนำข้อมูลและเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัว อยู่รอด และเติบโตอย่างมั่นคง ในยุคที่การแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว” รัฐธีร์ กล่าวสรุป

ผู้สนใจงาน Thailand NOW & NEXT 2024 สามารถติดตามข่าวสารและรับชมงานย้อนหลังได้ทาง YT: LINE for Business ได้เร็วๆ นี้

เปิดลิสต์หลากแบรนด์ในไทย ใช้ LON ส่งแจ้งเตือนสำคัญผ่าน LINE เชื่อถือได้ ปลอดภัย ไร้กังวลข้อความลวง

supersab

Recent Posts

AIS ยกระดับ HUB OF E-WASTE รวมพลังสร้างความตระหนักรู้ สู่ภารกิจ Decarbonization พร้อมส่งแคมเปญ “อุ่นใจ ไปรฯ ทั่วไทย ตามล่าหา E-Waste” ในวัน International E-Waste Day

วันขยะอิเล็กทรอนิกส์สากล หรือ International E-Waste Day 14 ตุลาคมปีนี้ AIS ในฐานะองค์กรไทยรายแรกที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก WEEE Forum (Waste Electrical and Electronic…

30 mins ago

Digio เปิดใจ 13 ปี แห่งความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมเปิดประสบการณ์แนะแนวทางสำเร็จให้คนรุ่นใหม่และข้อควรระวังของวงการสตาร์ทอัพ

Digio สตาร์ทอัพฟินเทค ผู้พัฒนาและให้บริการ mPOS และ ระบบรับชำระเงินอันดับต้นๆ ของไทยเตรียมประกาศความสำเร็จก้าวสู่ปีที่ 13 พิสูจน์การเติบโตอย่างยั่งยืนของสตาร์ทอัพไปสู่จัดเริ่มต้นขององค์กรที่ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ แนะเทคนิค 4 สเต็ปการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพ ตั้งแต่การระดมสมอง จนไปสู่การระดมทุน…

37 mins ago

เซ็นทรัลพัฒนา ออกตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน สนับสนุนโครงการพลังงานสะอาด มุ่งสู่การเป็นองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050

เซ็นทรัลพัฒนา รายแรกในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกไทยที่เสนอขายตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability-linked Bond) มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) การจัดการน้ำและน้ำเสียอย่างยั่งยืน (Sustainable water & wastewater management) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy Efficiency) และโครงการที่เกี่ยวกับความยั่งยืนอื่น ๆ…

48 mins ago

depa เผย HelpT เปิดระบบ 1 เดือน ประสานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้วกว่า 300 กรณี

กระทรวงดีอี โดย ดีป้า (depa) เผยสถิติการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยผ่านแพลตฟอร์ม HelpT น้ำท่วม ช่วยด้วย! ช่องทางสนับสนุนการสื่อสารระหว่างประชาชนกับหน่วยงานท้องถิ่นที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระบุ 88 หน่วยงานท้องถิ่นจาก 22 จังหวัดเข้าร่วมแพลตฟอร์ม ประสานให้ความช่วยเหลือประชาชนมากกว่า…

17 hours ago

ผุดมาตรการดัน “ไทย” สู่ “Financial Hub” ศูนย์กลางการเงินของโลก

Biztalk วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567 พาไปฟังข้อสรุปผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายและยกร่างกฎหมายเพื่อจัดตั้งศูนย์กลางทางการเงิน ครั้งที่ 1/2567 จากคุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไปฟังกันว่า จะมีมาตรการอะไรที่จะผลักดันให้ไทย ก้าวสู่การเป็น Financial…

1 day ago

อินเทล เผยโฉมโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ตัวแรก สำหรับ AI PC

อินเทล ประกาศเปิดตัวตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series ใหม่ ซึ่งจะขยายขีดความสามารถของ AI บนแพลตฟอร์มเดสก์ท็อป และนำเสนอตัวเลือก AI PC สำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาประสิทธิภาพการประมวลผลระดับสูง นำโดยโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 9 processor 285K เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์เจเนอเรชั่นล่าสุดนี้ประกอบด้วย 5 เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ใหม่ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Performance-core (P-core) ล้ำสมัยสูงสุดถึง 8 คอร์…

1 day ago