เดวิด หวัง กรรมการบริหารหัวเว่ยและประธานคณะกรรมการจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอซีที กล่าวสุนทรพจน์ ณ มหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก MWC Shanghai 2024 ในหัวข้อ ‘เร่งผลักดัน 5.5G และปูทางสู่ยุคเทคโนโลยี AI บนมือถือ’ โดยได้กล่าวย้ำว่า “ปี พ.ศ. 2567 ถือเป็นปีแรกของการเริ่มใช้ 5.5G เชิงพาณิชย์ และการบูรณาการ AI เข้ากับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ในยุคที่เทคโนโลยี AI บนมือถือกำลังมาแรง และบริการอัจฉริยะแพร่หลายมากขึ้น เราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อผลักดันความก้าวหน้าทั้งสองมิติสำคัญ นั่นคือ ‘เครือข่ายสำหรับ AI’ และ ‘AI สำหรับเครือข่าย’ เพื่อเร่งพัฒนา 5.5G และเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับยุคทองของเทคโนโลยี AI บนมือถือ
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา การใช้ 5G เชิงพาณิชย์ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งและสร้างผลลัพธ์เชิงบวกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอุตสาหกรรมมือถือทั่วโลก เทคโนโลยี 5G ขยายขอบเขตการบริการระดับโลก มอบความเร็วที่สูงขึ้นเพื่อประสบการณ์การใช้งานเหนือระดับ พลิกโฉมการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างครอบคลุมทั่วโลก
5G ยังคงพัฒนาเร็วยิ่งขึ้นในปัจจุบัน การเปิดตัวมาตรฐานการใช้งาน 5G-A ส่งผลให้เครือข่าย 3GPP Release-18 ถูกระงับการใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2024 ในมหานครเซี่ยงไฮ้ ผู้ให้บริการและพันธมิตรมากกว่า 60 รายได้ประกาศการใช้งาน 5.5G เชิงพาณิชย์ ในขณะเดียวกัน เทอร์มินัล 5.5G เชิงพาณิชย์พร้อมเผยศักยภาพ และเครือข่าย 5.5G จะยังคงขับเคลื่อนคลื่นลูกใหม่ในการยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัลต่อไป
เหตุการณ์สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายทำให้เกิดยุคทองของการสื่อสารหลายครั้ง ในปี พ.ศ. 2534 เครือข่าย GSM และการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นยุคทองของการสื่อสารด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือที่โทรได้ทุกที่ทุกเวลา ในปี พ.ศ. 2550 เครือข่าย 3G และสมาร์ทโฟนกลายเป็นดาวรุ่งของยุคอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ทำให้การเข้าถึงข้อมูล ทั่วโลกทำได้อย่างง่ายดาย ในปี พ.ศ. 2567 เป็นปีแรกของ 5.5G เชิงพาณิชย์และการบูรณาการ AI เข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ และยุคทองของเทคโนโลยี AI บนมือถือกำลังใกล้เข้ามา ซึ่งจะทำให้การบริการอัจฉริยะแพร่หลาย และเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญ 3 ประการในยุคนี้
ประการแรก ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์จะเปลี่ยนจากการสัมผัสเป็นแบบต่อเนื่องหลายรูปแบบ ซึ่งหมายความว่าวิธีที่เราโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์จะขยายไปสู่ภาษา ท่าทาง และอารมณ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยมอบประสบการณ์ตามความต้องการได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
ประการที่สอง การพลิกโฉมการผลิตเนื้อหา ก่อนหน้านี้ ผู้คนได้รับข้อมูลผ่านเครื่องมือค้นหาเป็นหลัก ในอนาคตข้อมูลดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นโดย AI และการผลิตข้อมูลจะไม่ถูกสร้างไว้ก่อน แต่จะถูกปรับแต่งตามความต้องการ ให้บริการแบบเรียลไทม์เฉพาะบุคคลอย่างครอบคลุม
ประการที่สาม อุปกรณ์เคลื่อนที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เนื่องจากอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่จะเปลี่ยนจากสมาร์ทโฟนเป็นระบบผู้ช่วยอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี AI terminal และ embodied AI ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์มือถือจะกลายเป็นช่องทางเชื่อมต่อ AI โดยสมบูรณ์แบบ
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเทคโนโลยี AI บนมือถือจะช่วยสร้างประสบการณ์สดใหม่ให้สังคมและสร้างโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมมือถือ
การปฎิสัมพันธ์แบบใช้รูปภาพ (graphical interaction) ทำให้ปริมาณการรับส่งข้อมูลบนมือถือแซงหน้ากฎของมัวร์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตรา DoU เติบโตขึ้น 125 เท่าในช่วง 10 ปี ซึ่งหมายความว่า อัตรา DoU เพิ่มขึ้นสองเท่าทุก 17 เดือน ในยุคทองของเทคโนโลยี AI บนมือถือที่กำลังจะมาถึง ปฎิสัมพันธ์รูปแบบใหม่แพร่หลายไปทั่วโลก โดยเนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นจะกลายเป็นวิธีการหลักในการรับข้อมูล แทนที่การดึงข้อมูล ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการโต้ตอบถึง 100 เท่า นอกจากนี้ การสร้างเนื้อหาด้วย AI (AIGC) ทำให้การผลิตเนื้อหาในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึง 3D และวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ง่ายกว่าที่เคย ซึ่งจะทำให้ปริมาณเนื้อหาเพิ่มขึ้น 100 เท่า สืบเนื่องจากโมเดลขนาดเล็กจำนวนมากที่ติดตั้งในอุปกรณ์ ทำงานร่วมกับโมเดลพื้นฐานบนคลาวด์แบบเรียลไทม์ จำนวนวัตถุโต้ตอบจึงเพิ่มขึ้น 100 เท่า ทุกสิ่งล้วนขับเคลื่อนการเติบโตของข้อมูลระลอกใหม่ ซึ่งแซงหน้ากฎของมัวร์อีกครั้ง
ในด้าน Internet of Vehicles (IoV) หรือยานยนต์ที่เชื่อมต่อได้แบบอัจฉริยะจะพลิกโฉมประสบการณ์การขับขี่ ทำให้การขับขี่มีความปลอดภัย ง่ายและเร้าใจยิ่งขึ้น ห้องโดยสารอัจฉริยะจะสร้างประสบการณ์การขับขี่อันน่าจดจำและประสบการณ์เครือข่ายกิกะบิตจะรองรับระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เทคโนโลยีการสตรีมวิดีโอหลายหน้าจอ แอปพลิเคชัน Extended Reality (XR) และข้อกำหนดอื่น ๆ ซึ่งทำให้ยานยนต์อัจฉริยะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับการพักผ่อนและการทำงาน
ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะจะพลิกโฉมระบบการขับขี่แบบเดิม ข้อมูลการขับขี่ 100 GB จะถูกอัปโหลดเพื่อฝึกสอนระบบการขับขี่อัจฉริยะทุกเดือน ช่วยเพิ่มความแม่นยำในแบบจำลอง การรับรู้ และการตอบสนองในสภาพแวดล้อมการขับขี่บนถนนจริง นอกจากนี้ระบบการสื่อสารของยานยนต์ (Vehicle-to-Everything – V2X) ความเร็วระดับมิลลิวินาทีจะวางกลยุทธ์การขับขี่ที่เชื่อถือได้แบบเรียลไทม์และมีเสถียรภาพ โดยรวมแล้ว ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะในยานยนต์จะปลดล็อกคุณค่าการเชื่อมต่อ ทั้งในแง่ประสบการณ์การขับขี่ เวลาและความปลอดภัย โดยเครือข่ายเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบจะส่งผ่านระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะในยานยนต์
ขีดจำกัดของเทคโนโลยี Internet of Everything (IoE) ลดลงอย่างมากในยุคเทคโนโลยี AI บนมือถือ เนื่องจากเครื่องจักรสามารถประมวลผลข้อมูลและเคลื่อนที่ได้เหมือนมนุษย์ การเชื่อมต่อเครือข่ายจะขยายจากมนุษย์ไปสู่มนุษย์ดิจิทัล สร้างผู้ช่วย AI และพนักงาน AI อัจฉริยะที่เชื่อมต่อกันถึง 1 หมื่นล้านคน
สำหรับบุคคล ในอนาคตทุกคนจะมีผู้ช่วย AI ที่ทำงานบนสมาร์ตโฟน แว่นตา และอุปกรณ์ AI ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะจะก้าวไปไกลกว่าเครื่องมือ และกลายเป็นเพื่อนร่วมทางที่ตอบสนองความต้องการในทุกสถานการณ์ เช่น การทำงาน การพักผ่อน และการเรียนรู้แบบเรียลไทม์
ในภาคอุตสาหกรรม โรงงานอัจฉริยะทุกแห่งจะมีสมองเพื่อประมวลผล ซึ่งทำให้บูรณาการระบบพนักงาน AI เข้ากับกิจกรรมการผลิตได้อย่างไร้รอยต่อ พนักงาน AI มีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองและตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของกระบวนการตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งแต่กระบวนการผลิต การบำรุงรักษาไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพและการขนส่ง
จะมีผู้ช่วยและพนักงาน AI ที่เชื่อมต่อกันนับหมื่นล้านคน ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว AI จะมีจำนวนมากกว่าการเชื่อมต่อของผู้คน และช่วยบุกเบิกยุคใหม่ของการเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร
ยุคแห่งเทคโนโลยี AI บนมือถือจะเปิดโอกาสธุรกิจใหม่จำนวนมหาศาล ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมจึงต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อคว้าประโยชน์สูงสุดจากยุคทองนี้ โดย 5.5G เป็นเสาหลักสำคัญของยุคเทคโนโลยี AI บนมือถือหัวเว่ยเร่งการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งและผนึ กำลังร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ใหม่ ๆ ซึ่งจะต้องอาศัยการทำงานร่วมกันในสองมิติสำคัญต่อไปนี้
ประการแรกคือ ‘เครือข่ายสำหรับ AI’ ซึ่งหมายถึงการใช้เครือข่ายขับเคลื่อนการพัฒนา AI เพื่อวางรากฐานอันมั่นคงสำหรับยุค AI บนมือถือ โดยบริการหลากหลายที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จะเพิ่มข้อกำหนดศักยภาพเครือข่ายที่สูงขึ้น เช่น แบนด์วิธอัปลิงก์และดาวน์ลิงก์ขนาดใหญ่ที่มีค่าความหน่วงต่ำ เพื่อตอบสนองความต้องการของเทคโนโลยี Internet of People (IoP) และ IoV เราต้องเร่งขับเคลื่อนวิวัฒนาการของย่านความถี่ทั้งหมดเพื่อรองรับประสบการณ์ 5.5G เพื่อปลดล็อกคุณค่าสูงสุดของแต่ละย่านความถี่ และวางรากฐานสำหรับประสบการณ์เครือข่ายที่เหนือชั้น
ประการที่สอง คือการผลักดัน ‘AI สำหรับเครือข่าย’ ซึ่งหมายถึงการใช้ AI เพื่อเสริมศักยภาพเครือข่าย และทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายเพิ่มขึ้นในทุกมิติ หากต้องการนำ AI มาใช้อย่างเต็มศักยภาพ การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการและการบำรุงรักษา (O&M) เครือข่ายมีความจำเป็น เช่น โมเดลรากฐานโทรคมนาคมของเราช่วยเร่งวิวัฒนาการของเครือข่ายไปสู่ L4 Autonomous Networks (ANs) และมีแอปพลิเคชันสองประเภท คือ copilots แบบ role-based และเอเจนท์เฉพาะสถานการณ์ โดย Copilots ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในบทบาทต่าง ๆ ด้วยคำถามและคำตอบที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลระบบ O&M ในทางกลับกัน เอเจนท์มีความสามารถในการเข้าใจวัตถุประสงค์ของผู้ใช้และประสานงานงานเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้โดยอัตโนมัติ
ในยุคแห่งเทคโนโลยี AI บนมือถือ รากฐานเครือข่ายที่แข็งแกร่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันและโมเดลธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เราจำเป็นต้องยกระดับโมเดลธุรกิจและเพิ่มมูลค่าของการเชื่อมต่อในทุกสถานการณ์ ในตลาดผู้บริโภค จะมีแอปพลิเคชันอัจฉริยะใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความต้องการด้านประสบการณ์ของผู้บริโภคจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ สิ่งนี้จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยผู้ให้บริการเครือข่ายจะเปลี่ยนจากการสร้างรายได้จากการรับส่งข้อมูลไปสู่การสร้างรายได้จากประสบการณ์หลากหลายมิติ ส่วนในภาคอุตสาหกรรม บริการอัจฉริยะจะยังคงได้รับความนิยม และสร้างโอกาสในทำรายได้ให้กับผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อขยายขอบเขตจากบริการการเชื่อมต่อไปสู่บริการสุดล้ำที่ผสานการเชื่อมต่อแบบอัจฉริยะ
ผมเชื่อว่าในทศวรรษหน้า เราจะใช้เทคโนโลยี AI บนมือถือได้อย่างเต็มศักยภาพ โลกอัจฉริยะกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว และเครือข่าย 5.5G จะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาในอนาคต และเช่นเคย หัวเว่ยยังคงมุ่งมั่นผนึกกำลังร่วมกับผู้เล่นในอุตสาหกรรมทั้งหมดเพื่อคว้าโอกาสอันยิ่งใหญ่จากเทคโนโลยี AI บนมือถือและสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกันอย่างเต็มรูปแบบ
ปี พ.ศ. 2567 เป็นปีแรกของการเปิดตัว 5.5G เชิงพาณิชย์ และการเริ่มใช้งานเครือข่ายออปติคอล F5.5G การทำงานผสานกันระหว่างเครือข่าย, คลาวด์, และระบบอัจฉริยะทำให้แอปพลิเคชันอัจฉริยะแพร่หลายและมอบประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ในมหกรรม MWC Shanghai 2024 หัวเว่ยร่วมเจาะลึกประเด็นท้าทายร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิดต่าง ๆ เช่น การขยายความสำเร็จของ 5G ในยุค 5G-A และการใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่เกิดจากการเติบโตของรายได้ของเหล่าผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อนำทางสู่โลกอัจฉริยะได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่: https://carrier.huawei.com/cn/events/mwcs2024
–HONOR เปิดตัวนวัตกรรม AI Defocus Eye และ AI Deepfake Detection ครั้งแรกที่งาน MWC 2024
โค้ก โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย สร้างความฮือฮาให้กับตลาดเครื่องดื่มอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "โค้ก" ซีโร่ กลิ่นวานิลลา ความอร่อยใหม่ที่ผสานความซ่าส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ "โค้ก" เข้ากับความหอมหวานละมุนละไมของวานิลลาได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือมาในสูตรไม่มีน้ำตาล ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen…
บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น (Epson) ประกาศแต่งตั้ง โยชิดะ จุนคิชิ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและตัวแทนผู้อำนวยการ (President and Representative Director) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (Chief…
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดย กองสิ่งแวดล้อม ฝ่ายพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง ช่วงเวลากลางคืน การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ โดยเริ่มตั้งแต่จุดก่อสร้าง Cut…
LINE MAN ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Lotus’s และ Lotus’s go fresh ขยายฐานบริการ LINE MAN MART ให้ครอบคลุมกว่า 1,400 สาขาทั่วประเทศ…
พฤกษา ผนึกกำลัง โรงพยาบาลวิมุต มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพครบวงจรให้ลูกบ้านตลอดปี 2568 ภายใต้แนวคิด "สุขภาพดีเริ่มต้นที่บ้าน" จิตชญา ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง…
ออเนอร์ (HONOR) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป HONOR Magic7 Pro 5G ที่สร้างยอดขายเติบโตสูงถึง 2.4 เท่า นับตั้งแต่เปิดให้พรีออเดอร์เมื่อวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568…