ยังไงดี! เปิดตัว OPPO Find N5 ในราคา 69,999 บาท ตั้งเป้าเจาะตลาดพรีเมียม แต่ใส่กล้อง Ultrawide และกล้องหน้ามาแค่ 8MP

OPPO Find N5 เปิดตัวแบบสร้างความฮือฮาให้กับวงการสมาร์ทโฟนจอพับ หลังประกาศราคามาที่ 69,999 บาท โดยทาง OPPO เล็งว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ต้องการเจาะกลุ่มผู้บริหาร และลูกค้าพรีเมียม

คำถามคือ แบรนด์ OPPO ในวันนี้มีภาพลักษณ์ที่ตรงใจกลุ่มผู้บริหาร หรือลูกค้าพรีเมียมหรือไม่ เพราะหากจำกันได้ว่าทาง OPPO เองก็เคยมีปัญหาเรื่องการติดตั้งแอปพลิเคชันด้านการเงินแถมลงมาในตัวเครื่อง ถึงแม้ว่าวันนี้จะได้รับการแก้ไขไปแล้วก็ตาม

ซึ่งถ้ามองในเรื่องภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดูพรีเมียม วันนี้ก็คงต้องยอมรับ Apple และ Samsung นั้นมีภาพลักษณ์ที่ดีกว่ามาก

หากลงมามองถึงสเปคและฟีเจอร์ OPPO เคลมว่า ฟีเจอร์ที่ให้มาตอบโจทย์การทำงาน เช่น มัลติทาสก์, พกพาสะดวก, ประสิทธิภาพระดับ PC นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด่นๆ อีกเช่น

• Boundless View: เปิดหลายแอปฯ พร้อมกันสูงสุด 3 แอปฯ บนหน้าจอเดียว
• AI Toolbox: ผู้ช่วยอัจฉริยะจัดการงาน
• AI Call Summary: สรุปข้อมูลจากการโทร/ประชุม
• เชื่อมต่อ Mac ได้ลื่นไหล: เข้าถึงและซิงก์ไฟล์จากระยะไกล

แน่นอนว่าในหลายๆ ฟีเจอร์ที่ให้มาสมาร์ทโฟนในยุคนี้ส่วนมากทำได้อยู่แล้ว เพราะทางฟากค่าย Android ทั้งหลายก็ทำงานร่วมกับ Google เพื่อดึงความสามารถของ Gemini เข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถ AI ให้กับแบรนด์มือถือ จะเห็นได้ว่าไม่ว่าแบรนด์ไหนก็มี AI ใช้ ขึ้นอยู่กับว่าในบางฟีเจอร์ใครมีข้อมูลมาเทรนได้ดีกว่ากัน เช่นพวกฟีเจอร์ Magic Eraser ที่ลบวัตถุออกและแทนที่ด้วยฉากใหม่ที่ดูเนียนตา

แต่หากมองกระแสของ AI กับอุปกรณ์มือถือในช่วงต้นปีให้ดี จะพบว่า AI บางฟีเจอร์ มือถือในราคาระดับ 7,000 บาทก็ทำได้แล้ว การที่ต้องพึ่งพา AI กับสมาร์ทโฟนราคาระดับท็อปเท่านั้นอาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป ซึ่งตรงนี้การที่จะชูจุดขายว่าแบรนด์มีความพรีเมียมด้วย AI อาจจะไม่ใช่คำตอบอีกต่อไปแล้ว

หากลงมาดูที่สเปค จะพบว่านอกจากการเคลมว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดเมื่อพับเครื่องที่ 8.93 มิลลิเมตร ซึ่งก็บางกว่า HONOR Magic V3 ที่หนา 9.2 มิลลิเมตร ส่วนเมื่อกางออกจะอยู่ที่ 4.21 มิลลิเมตร ก็บางกว่าทาง HONOR ที่หนา 4.35 มิลลิเมตร แต่น้ำหนักโดยรวมหนักกว่าทาง HONOR อยู่เล็กน้อย โดย Find N5 หนัก 229 กรัม ส่วน Magic V3 หนัก 226 กรัม

อีกหนึ่งจุดขายเดียวในรุ่นนี้คือ การใช้ Snapdragon® 8 Elite แบบ 7 cores ในมือถือจอพับเป็นเครื่องแรก ด้าน RAM ให้มา 16GB และ ROM 512GB

แบตเตอรี่ ให้มา 5600mAh ชาร์จไว 80W SUPERVOOC และชาร์จไร้สาย 50W AIRVOOC และมาตรฐานกันน้ำ IPX9 เป็นอีกส่วนที่ต้องยอมรับว่าให้มามากกว่าคู่แข่งจริง

สเปคกล้อง จุดแข็งหรือจุดอ่อน หากจะแข่งขันในกลุ่มพรีเมียม

ส่วนกล้องที่เป็นอีกจุดหนึ่งที่ OPPO ก็ชูว่าเป็นจุดขายหลัก เพราะที่ผ่านมาก็ได้ร่วมมือกับทาง Hasselblad มาตลอดในช่วงหลัง โดยเฉพาะกับสมาร์ทโฟนตัวแฟล็กชิปก็จะดึง Hasselblad มาเป็นจุดขายร่วมตลอด

แต่กับใน OPPO Find N5 หากเราลองคิดดูว่าจะต้องซื้อสมาร์ทโฟนในราคาระดับนี้ แต่กล้องที่ได้นั้น ในส่วนของกล้องหลักให้มา 50MP f/1.8 รองรับ AF มี OIS และ EIS ส่วนกล้อง Telephoto ก็ให้มา 50MP เช่นกัน

ซึ่งจุดที่น่าสนใจมากคือ ทำไมถึงใส่กล้อง Ultrawide มาแค่ 8MP รวมถึงกล้องหน้าทั้ง 2 จุด คือจอหลักและจอด้านนอก ก็ให้มาที่ 8MP เช่นกัน ถ้าจะให้มามากกว่านี้จะทำให้ต้องเพิ่มราคาค่าตัวไปอีกหรือ?

ส่วนการถ่าย Video ความละเอียดสูงสุดก็ยังทำได้เท่ากับสมาร์ทโฟนจอพับในปีก่อน คือกล้องหลังได้ที่ 4K@60fps และ กล้องหน้าที่ 4K@30fps

สุดท้ายนี้ หาก OPPO ยังมั่นใจว่าการเปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับในครั้งนี้ ต้องการเจาะตลาดพรีเมียมจริง เจาะกลุ่มผู้บริหารจริง จึงกล้าตั้งราคามาที่ 69,999 บาท เมื่อเทียบกับอีก 2 แบรนด์ในรุ่นที่ใส่ ROM มาเท่ากัน แพงกว่า Galaxy Z Fold6 เล็กน้อย (68,900 บาท) และแพงกว่า HONOR Magic V3 ค่อนข้างมาก (54,990 บาท) ก็คงต้องมาดูกันว่า ยอดขายจะเข้ามาเบียดแบรนด์ที่ชื่อเสียงในกลุ่มผู้ใช้พรีเมียมได้จริงหรือไม่

และต้องไม่ลืมว่า กลุ่มลูกค้าที่เลือกใช้ iPhone ที่เป็นกลุ่มพรีเมียมหลักของประเทศไทย ถึงแม้จะบ่นเรื่องกล้องสวยสู้ใครไม่ได้ และไม่มีจอพับให้ใช้ แต่เขาเลือกใช้เพราะความปลอดภัย และความสะดวกสบายของระบบนิเวศที่ Apple สร้างขึ้นมา

–vivo Y39 5G แบตอึด 6500mAh กล้องหลัง 50MP ราคาเร้าใจ 7,999 บาท

• Facebook
• X
• Line