พรีวิว Oppo Find X8 ซีรีส์ สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุด MediaTek Dimensity 9400 ที่ให้ประสิทธิภาพแรงขึ้นกว่าเดิม ทั้ง CPU เร็วขึ้น 35% และ GPU เร็วขึ้น 41% แถมยังมี AI ที่ฉลาดขึ้นอีกด้วย โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อม RAM 16GB
หน้าจอเป็นแบบ ProXDR ความสว่างสูงสุด 4,500 nits รองรับ PWM dimming โดย Find X8 มีขนาด 6.59 นิ้ว ส่วน Find X8 Pro มีขนาด 6.78 นิ้ว
ทั้งคู่กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 และ IP69 รองรับชาร์จไว SuperVOOC 80W และชาร์จไร้สาย 50W มีระบบปลดล็อคด้วยใบหน้าและลายนิ้วมือ
จุดแตกต่างหลักๆ ของสองรุ่นนี้ นอกจากขนาดหน้าจอแล้ว ยังมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าเล็กน้อยใน X8 Pro ตัวเครื่องที่เบากว่าใน X8 ปุ่ม Quick Button ใน X8 Pro และระบบกล้องที่อัพเกรดขึ้นใน X8 Pro
ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 29,999 บาท
รูปลักษณ์ตัวเครื่อง
Oppo Find X8 มีดีไซน์ตามแบบฉบับของ Oppo วัสดุงานประกอบให้ความรู้สึกแข็งแรงโดดเด่นด้วยดีไซน์ Cosmos Ring ที่ล้อมรอบกล้อง Hasselblad
ส่วน Oppo Find X8 Pro ให้ความรู้สึกที่หนักแน่นกว่า (เพราะตัวเครื่องใหญ่กว่า) และมีดีไซน์ Cosmos Ring ที่ใหญ่กว่า รุ่นที่รีวิวเป็นสีขาว มีลวดลายคล้ายหินอ่อน ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในบางมุมมอง
ทั้งสองรุ่นมี Alert Slider ที่ช่วยให้ปรับโหมดเสียงได้อย่างรวดเร็ว
หน้าจอของทั้งคู่แสดงผลได้สวยงาม คมชัด สว่าง และลื่นไหล ตามมาตรฐานสมาร์ทโฟน Android ในปัจจุบัน
ที่น่าสนใจคือ ได้เพิ่มฟีเจอร์คล้าย Dynamic Island ของ iPhone แต่มีขนาดเล็กกว่า และมีลูกเล่นน้อยกว่า
ประสิทธิภาพและระบบปฏิบัติการ
MediaTek Dimensity 9400 เป็นชิปเซ็ตที่แรงและประหยัดพลังงานที่สุดในตอนนี้ ทั้ง CPU เร็วขึ้น 35% GPU เร็วขึ้น 41% และ AI ก็ฉลาดขึ้น
Oppo Find X8 และ X8 Pro มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น ด้วยการใช้วัสดุระบายความร้อนแบบใหม่ จึงมั่นใจได้ว่าจะเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
ColorOS 15 ที่พัฒนาบน Android 15 เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย มาพร้อมกับการอัปเดตความปลอดภัย 6 ปี และอัปเดตซอฟต์แวร์ 5 ปี Oppo ได้ปรับปรุงอนิเมชั่นกว่า 800 แบบ และเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้ามาอีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Circle to Search และ Google Gemini รวมถึงฟีเจอร์แชร์ข้อมูลไปยัง iOS ที่ช่วยให้แชร์ไฟล์ไปยัง iPhone ได้ง่ายขึ้น
กล้อง
กล้องเป็นจุดเด่นของ Oppo Find X series โดยทั้ง Find X8 และ X8 Pro มาพร้อมเลนส์ Ultra-wide 15 มม. 50MP และเลนส์หลัก 24 มม. แต่ X8 Pro จะมีรูรับแสงที่กว้างกว่า และมีเลนส์ Periscope 73 มม. 50MP เหมือนกัน
X8 Pro มีเลนส์ Periscope 135 มม. เพิ่มเข้ามา ซึ่งเป็นเลนส์ Dual Periscope Zoom ตัวแรกของ Oppo ที่วางจำหน่ายทั่วโลก ให้ช่วงซูม 30x-60x
Hasselblad มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบ Portrait Mode โดยเพิ่มฟิลเตอร์ 3 แบบ ให้เลือกใช้งาน
ปุ่ม Quick Button และประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอ
ตัว Pro มาพร้อมปุ่ม Quick Button ที่ทำหน้าที่คล้ายกับ Camera Control ใน iPhone 16 series โดยปุ่มนี้จะอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ซึ่งอาจจะอยู่ไกลไปหน่อยสำหรับบางคน แต่ก็มีผู้ใช้บางส่วนที่รู้สึกว่าตำแหน่งนี้ใช้งานได้สะดวก
Quick Button สามารถตั้งค่าให้เปิดแอปกล้องได้ด้วยการแตะสองครั้ง และสามารถซูมเข้า-ออกได้ด้วยการเลื่อนนิ้ว
ประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอของทั้งสองรุ่นทำได้ดีเยี่ยม สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K 60fps และรองรับ Dolby Vision HDR ในทุกเลนส์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟน Android
สรุป พรีวิว Oppo Find X8 ซีรีส์ จุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ คือดีไซน์ ซึ่งเป็นจุดแข็งของมาโดยตลอด รวมถึงระบบกล้อง ที่ให้ภาพถ่ายที่สวยงาม
–พรีวิว Realme GT 7 Pro กับสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ
