Technology IT

สวทช. จัดงาน NAC2025 สุดยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วย AI เพื่ออนาคตประเทศไทยที่ยั่งยืน

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 20 (20th NSTDA Annual Conference: NAC2025) อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วย AI เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน: AI-driven Science and Technology for Sustainable Thailand” ระหว่างวันที่ 26-28 มีนาคม 2568 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

งาน NAC2025 เป็นเวทีระดับประเทศที่เปิดโอกาสให้ นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ผู้บริหารจากภาครัฐและเอกชน และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันสัมผัสความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุค AI อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้ AI ใน 5 ศูนย์วิจัยแห่งชาติภายใต้สังกัด สวทช. ได้แก่ ศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC), ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC), ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC), ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) และศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC)  

ไฮไลต์สำคัญที่พลาดไม่ได้ในงาน NAC2025

  • พระบรมราชูปถัมภ์: สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเปิดการประชุมและทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันที่ 27 มีนาคม 2568 เวลา 09.00-14.00 น.
  • สัมมนาพิเศษ: “Decoding Thailand’s AI Future: Strategy for Competitive Edge” ในวันที่ 26 มีนาคม 2568 สวทช. ผนึกกำลังกับ Techsauce เชิญวิทยากรชั้นนำของประเทศร่วมถอดรหัสและวางยุทธศาสตร์เส้นทางสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับประเทศไทย ตั้งแต่การวางรากฐานนโยบาย ค้นหาโอกาส Quick Win ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เรียนรู้บทเรียนจากทั่วโลกเพื่อกำหนดทิศทางที่เหมาะสมกับไทย เจาะลึกปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านกรณีศึกษาจากภาคธุรกิจชั้นนำ รวมถึงตัวอย่างการประยุกต์ใช้ AI จริงในภาคส่วนต่าง ๆ ผ่านผลงานวิจัย สวทช.
  • สัมมนาวิชาการ: กว่า 40 หัวข้อที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญด้าน วทน. ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้ AI ในการพัฒนาภาคเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
  • นิทรรศการ: กว่า 100 บูธแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก สวทช. และหน่วยงานพันธมิตร ที่เน้นการพัฒนา AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมของประเทศ
  • 5 ผลงานวิจัยเด่น: ภายในงานแถลงข่าวยังมีการนำเสนอ 5 ผลงานวิจัยเด่น ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน วทน. ด้วย AI ได้แก่
    1. Pathumma LLM: โมเดล AI ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเข้าใจบริบทและวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง โดยใช้เทคโนโลยี Multi-Modal AI ซึ่งรวม 3 ความสามารถหลัก ได้แก่ Text LLM สำหรับประมวลผลภาษาไทย Vision LLM สำหรับวิเคราะห์และเข้าใจภาพ และ Audio LLM สำหรับจดจำและตอบสนองต่อเสียงภาษาไทย ระบบถูกพัฒนาแบบ Open Source เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน ขับเคลื่อนการพัฒนา AI ไทย และรองรับการใช้งานในทุกภาคอุตสาหกรรม พร้อมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยี AI ของสังคมไทย
    2. Genomics Medicine: การใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้านพันธุกรรมมนุษย์ (Genomics Medicine) เพื่อยกระดับการแพทย์ไทย ระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์แบบเดิมร่วมกับข้อมูลพันธุกรรม ช่วยให้แพทย์ระบุตำแหน่งการกลายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของโรคได้แม่นยำ นำไปสู่การวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย
    3. Hydrogen Economy: สวทช. ขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนแบบองค์รวม โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการพัฒนาไฮโดรเจนชีวภาพ (Biohydrogen) และไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) จากกระบวนการทางชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้ในระบบเศรษฐกิจแบบ BCG ทั้งภาคพลังงาน การขนส่ง และอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการพัฒนายานยนต์ไฮโดรเจน (FCEV) ที่เป็นเทคโนโลยีสะอาดช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    4. การประยุกต์ใช้ AI เพื่อตรวจวัดและระบุไมโครพลาสติกในแหล่งน้ำ: นวัตกรรมตรวจวัดไมโครพลาสติกในแหล่งน้ำที่ประยุกต์ใช้ AI เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ ระบบสามารถจำแนกชนิดพลาสติก (PE, PP, PET, PS และ PVC) และปริมาณได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 นาที ด้วยอุปกรณ์แบบพกพาราคาประหยัด ทำให้การติดตามตรวจสอบไมโครพลาสติกในแหล่งน้ำต่างๆ มีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูงขึ้น
    5. Gunther อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และแอปพลิเคชัน Janine: นวัตกรรมเฝ้าระวังการหกล้มและเคลื่อนไหวผิดท่าสำหรับผู้สูงอายุ ผสานการทำงานระหว่างเซนเซอร์ Gunther IMU ที่ช่วยบ่งชี้ท่าทางและการเคลื่อนไหว และแอปพลิเคชัน Janine ที่ประมวลและแสดงผลแบบเรียลไทม์ โดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ในการเรียนรู้ท่าทางจึงไม่ต้องตั้งโปรแกรมเฉพาะ ช่วยให้ผู้สูงอายุและผู้ดูแลติดตามและป้องกันความเสี่ยงต่อการหกล้มและการบาดเจ็บระหว่างการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • OPEN HOUSE: เปิดห้องปฏิบัติการวิจัยและโครงสร้างพื้นฐานด้าน วทน. ชั้นนำของประเทศ 9 เส้นทาง ในวันที่ 26 และ 28 มีนาคม 2568
  • กิจกรรมเยาวชน: สร้างแรงบันดาลใจด้าน AI และนวัตกรรม ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านเวิร์กช็อปและการแข่งขันที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น หุ่นยนต์นำทางในเขาวงกต NSTDA Micro-Mouse

การพัฒนา AI Ecosystem ของประเทศไทย

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า การพัฒนา AI Ecosystem ที่แข็งแกร่งเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่ความเป็นผู้นำด้าน AI ในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเน้น 5 ด้าน ได้แก่

  1. จริยธรรม AI
  2. โครงสร้างพื้นฐาน
  3. การพัฒนาบุคลากร
  4. วิจัยและนวัตกรรม
  5. การส่งเสริมธุรกิจ AI

ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า งาน NAC2025 เป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอความก้าวหน้าทาง วทน. ที่ สวทช. และเครือข่ายพันธมิตรได้ร่วมกันพัฒนาขึ้น เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุค AI อย่างเต็มรูปแบบ โดยมุ่งหวังให้งานนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ

“Super AI Engineer Season 5” เปิดตัวยิ่งใหญ่ ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ปั้นบุคลากร AI เสริมแกร่งขีดความสามารถแข่งขันประเทศไทย

supersab

Recent Posts

AIS-True เปิดฉากระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ทั่วไทย พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อรัฐบาลสั่งการ

AIS และ True Corporation สองผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ ได้ประกาศความพร้อมในการเปิดใช้งานระบบแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast และ SMS ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อหน่วยงานภาครัฐสั่งการ AIS: ระบบ Cell…

7 hours ago

ดีพร้อม-บางจากฯ ผนึก 5 พันธมิตรธุรกิจ ผลิต “น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน” 1 ล้านลิตรต่อวัน ดันไทยสู่ฮับการบินพลังงานสะอาด ชิงความได้เปรียบเศรษฐกิจโลก

กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ จับมือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ 5 องค์กรธุรกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)…

9 hours ago

ก.อุตฯ ผนึก World Bank เปิดเกมรุก “Industrial Decarbonization” ดันไทยสู่ Hub ลงทุนสีเขียว

“เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เปิดเวที CEO Forum ชูแนวทาง Industrial Decarbonization ภายใต้โครงการ Low Carbon City หนุนผู้ประกอบการไทยลดคาร์บอน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมลดก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน…

12 hours ago

Tops เขย่าตลาด FMCG ปี 68 ทุ่ม 5,000 รายการ Own Brand ชูคุณภาพพรีเมียม ราคาโดนใจ ผนึกชุมชนโกอินเตอร์

ท็อปส์ (Tops) ประกาศศักดาผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ปี 2568 ทุ่มงบไม่อั้น พัฒนาพอร์ตสินค้า Own Brand ทะลุ 5,000 รายการ ชูจุดแข็งด้านคุณภาพระดับพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้…

13 hours ago

รฟม. แจ้งรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู เปิดให้บริการเดินรถ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) – สถานีตลาดมีนบุรี (PK29) และจัด Feeder รับ – ส่ง สถานีตลาดมีนบุรี (PK29) – สถานีมีนบุรี (PK30)

ตามที่ เกิดเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา โดยแรงสั่นสะเทือนได้ส่งผลกระทบมาถึงกรุงเทพมหานคร ทำให้รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู (MRT สายสีชมพู) ต้องงดให้บริการชั่วคราว เพื่อแก้ไขรางจ่ายไฟเพื่อความปลอดภัยในการเดินรถ นั้น จากการตรวจสอบพบว่าเกิดความเสียหายที่แผ่นปิดรอยต่อคานทางวิ่ง จำเป็นต้องซ่อมแซม ซึ่ง กระทรวงคมนาคม, กรมการขนส่งทางราง…

13 hours ago

“แสตมป์ กระจกเกรียบ” ศิลปะล้ำค่าแห่งสยาม ไปรษณีย์ไทยเปิดตัวแสตมป์ที่ระลึก วันอนุรักษ์มรดกไทย 2568 ดันไทยสู่สายตาโลก

ไปรษณีย์ไทย ได้เปิดตัวแสตมป์ที่ระลึกชุดพิเศษเนื่องในโอกาสวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช 2568 ด้วยการนำเสนอศิลปกรรมอันทรงคุณค่าที่กำลังจะเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ "กระจกเกรียบ" ศิลปะแห่งสยามประเทศที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์แต่กลับหาชมได้ยากยิ่งในปัจจุบัน โดยมีกำหนดการเปิดจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2568 เป็นต้นไป ในราคาดวงละ…

14 hours ago

This website uses cookies.