NetApp บริษัทซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์และเน้นการใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลาง ประกาศการอัพเดตและปรับปรุงไปป์ไลน์ข้อมูลที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับ AI มัลติคลาวด์แบบไฮบริด และความก้าวหน้าในการจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อต่อต้านแรนซัมแวร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโซลูชันชั้นนำในอุตสาหกรรมของเน็ตแอพ ที่ขับเคลื่อนความเรียบง่าย ความคุ้มค่า ความปลอดภัย และความยั่งยืนให้กับลูกค้า
Harv Bhela ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเน็ตแอพ กล่าวว่า “ปัจจุบัน ลูกค้าต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนใหญ่ 2 ประการ ได้แก่ การเข้ามาของ AI และภัยคุกคามของแรนซัมแวร์ โดยวันนี้ เน็ตแอพได้เปิดตัวนวัตกรรมรูปแบบใหม่ ที่ทำให้ไปป์ไลน์ข้อมูล AI ง่ายต่อใช้งาน สามารถปรับขนาดได้ และมีประสิทธิภาพสูงทั่วทั้งพื้นที่ข้อมูลไฮบริดมัลติคลาวด์ ในขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องข้อมูลจากภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งโซลูชันเหล่านี้ทำให้เราอยู่ในระดับแนวหน้าในการสร้างผลลัพธ์ AI ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสำหรับลูกค้าของเรา”
ไปป์ไลน์ข้อมูลที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับ AI
เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน องค์กรต่างๆ จะต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพผ่านความคิดริเริ่มด้าน AI ของตน ซึ่งองค์กรจะต้องพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการจากข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ไหลผ่านไปป์ไลน์ 5 ขั้นตอน โดยชุดข้อมูลที่จำเป็นต่อการป้อนไปป์ไลน์เหล่านี้อาจอยู่ในที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Data Lake ของทั่วทั้งองค์กร ภายในองค์กร และในระบบคลาวด์ ซึ่งจะเพิ่มความซับซ้อนในการออกแบบและการปฏิบัติงาน เพราะไซโลข้อมูลทำให้ไม่สามารถมองเห็นประเภทข้อมูลและตำแหน่งได้ ทำให้การจัดการหรือใช้งานในปริมาณงาน AI เป็นเรื่องยาก
ในฐานะผู้นำด้านไฮบริดมัลติคลาวด์ เน็ตแอพช่วยลดความซับซ้อนนี้ด้วยการนำเสนอระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ All-Flash และคลาวด์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้าง Data Lake ที่ทันสมัยและเร่ง AI ได้ ผู้ใช้สามารถติดตามโมเดล AI หลายเวอร์ชันในการผลิตกลับไปยังข้อมูลการฝึกอบรมเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาใช้ AI อย่างรับผิดชอบ และมั่นใจว่าพื้นที่เก็บข้อมูลถูกรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม MLOps เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ONTAP AI ผลิตภัณฑ์ Converged Infrastructure ที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกันกับ “NVIDIA DGX” ระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก เพื่อให้องค์กรทุกแห่งสามารถรับมือกับปริมาณงาน AI ที่ซับซ้อนที่สุดด้วยโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานที่ขจัดความซับซ้อนในการออกแบบและการใช้งาน โดยวันนี้ เน็ตแอพประกาศว่า AFF C-Series พร้อมแฟลชความจุได้ถูกเพิ่มเข้าไปในสถาปัตยกรรม ONTAP AI เพื่อยกระดับความคุ้มค่าและความยั่งยืนไปอีกขั้น
Charlie Boyle รองประธาน แพลตฟอร์ม DGX ของ NVIDIA กล่าวว่า “องค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากพลังของ Generative AI จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่สามารถส่งมอบโมเดลที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่จากคลังข้อมูลทางธุรกิจจำนวนมหาศาล ที่สามารถปรับให้เหมาะกับคำศัพท์ ทรัพย์สินทางปัญญา และอุตสาหกรรมที่เหมาะสมต่อธุรกิจของพวกเขา ซึ่ง NetApp ONTAP AI ที่ขับเคลื่อนโดยระบบ NVIDIA DGX และซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตนเพื่อส่งมอบแอปพลิเคชัน Generative AI โดยใช้ประโยชน์จากโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับขนาดได้ มีประสิทธิภาพ และนำมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว”
นอกจากนี้ เน็ตแอพยังคงสร้างไปป์ไลน์ข้อมูล AI ที่ผสานรวมเข้ากับคลาวด์สาธารณะหลักทั้งสามแห่งเพื่อประสบการณ์ไฮบริดมัลติคลาวด์อย่างแท้จริง โดยในงาน NetApp INSIGHT 2023 Thomas Kurian ซีอีโอของ Google Cloud กล่าวถึงนวัตกรรมที่กำลังดำเนินอยู่และความร่วมมือระหว่างเน็ตแอพกับทาง Google Cloud โดยเน้นย้ำถึงการเปิดตัว Google Cloud NetApp Volumes ในเดือนสิงหาคม 2566 และวันนี้ เน็ตแอพ และ Google ประกาศการสนับสนุน Vertex AI ของ Google Cloud พร้อมด้วย Google Cloud NetApp Volumes เพื่อรองรับแอปพลิเคชัน Generative AI แบบไฮบริดต่อไป
Ronen Schwartz รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปด้านพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ของ เน็ตแอพ กล่าวว่า “Google Cloud NetApp Volumes ที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้ปฏิวัติการใช้งานขององค์กรในระบบคลาวด์ ด้วยประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่ผสมผสานกับความเรียบง่ายและความยืดหยุ่น ซึ่งสำหรับลูกค้าที่ลงทุนในไปป์ไลน์ข้อมูล Generative AI ข้อเสนอนี้ช่วยให้ข้อมูลของเน็ตแอพภายในองค์กรเชื่อมต่อโดยตรงกับ Vertex AI ของ Google บน Google Cloud NetApp Volumes โดยไม่ต้องมีวิศวกรรมเพิ่มเติม”
ปัจจุบันด้วย Google Cloud NetApp Volumes เน็ตแอพจึงเป็นบริษัทเดียวที่ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลระดับองค์กรแบบเดียวกันทั้งภายในองค์กรและเป็นบริการโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์เนทีฟจาก first-party เพียงแห่งเดียวที่ทำงานบนคลาวด์สาธารณะที่ใหญ่ที่สุดทั้งสามแห่ง ได้แก่ Google Cloud Amazon AWS และ Microsoft Azure
ยิ่งไปกว่านั้น ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเรียนรู้ หรือ machine learning บนคลาวด์ ส่งผลให้ Amazon Sagemaker ที่สนับสนุน Amazon FSx for NetApp ONTAP จะมีการเพิ่มเครื่องมือ Amazon Sagemaker notebook ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึง AWS FSx for NetApp ONTAP ผ่านโปรโตคอลออบเจ็กต์ S3 แบบเนทีฟได้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่แต่ก่อนจัดเก็บไว้ใน NFS รูปแบบไฟล์ภายในองค์กรหรือในระบบคลาวด์อื่นอีกด้วย
Archana Venkatraman ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านการจัดการข้อมูลบนคลาวด์ของ IDC Europe กล่าวว่า “Generative AI เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่มีศักยภาพในการช่วยให้บริษัทต่าง ๆ บรรลุข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญทางธุรกิจและมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ปริมาณงาน AI จะทรงพลังเท่ากับข้อมูลที่พวกเขาได้รับเท่านั้น บริษัทต่างๆ จึงต้องการรากฐานที่มั่นคงของการจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลจะไหลไปยังโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่เกี่ยวข้องอย่างไม่ถูกจำกัด โดยนวัตกรรมล่าสุดจากเน็ตแอพแสดงให้เห็นถึงความคิดที่ลึกซึ้งและเน้นย้ำความมุ่งมั่นในช่วงห้าปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับการช่วยให้องค์กรต่าง ๆ รวบรวม จัดเตรียม และจัดการข้อมูลได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ซึ่งแนวทางที่ตั้งมั่นไว้นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงของวิธีที่องค์กรต่าง ๆ จะสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI และจัดเก็บข้อมูลในสภาพแวดล้อมบนระบบคลาวด์ภายในองค์กร ไฮบริด และสาธารณะต่อไปได้”
การรักษาความปลอดภัยจากแรนซัมแวร์ในการจัดเก็บข้อมูลชั้นนำของตลาดและการกู้คืนระบบที่ขยายวงกว้าง
ในปี 2023 การโจมตีส่วนใหญ่จากแรนซัมแวร์ทำให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งนับเป็นมูลค่าตั้งแต่ 1 ล้านถึง 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว เน็ตแอพกำลังช่วยให้ลูกค้าสามารถปกป้องตนเองและข้อมูลของพวกเขาผ่านพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยที่สุดในอุตสาหกรรม พร้อมการรับประกันการกู้คืนแรนซัมแวร์ (Ransomware Recovery Guarantee) ที่มีประสิทธิภาพสูง
การใช้ประโยชน์จากการผสานคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยหลักและการป้องกันแรนซัมแวร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ONTAP ทำให้ ONTAP สามารถบล็อกประเภทไฟล์ที่เป็นอันตราย ผู้ดูแลระบบที่หลอกลวง และผู้ใช้ที่เป็นอันตรายได้โดยอัตโนมัติด้วยการตรวจสอบความถูกต้องของผู้ดูแลระบบในรูปแบบต่าง ๆ และจัดทำสแน็ปช็อตเพื่อป้องกันการงัดแงะที่ไม่สามารถลบได้ แม้กระทั่งจากผู้ดูแลระบบการจัดเก็บข้อมูลก็ตาม ดังนั้นการป้องกันภัยแรนซัมแวร์แบบอัตโนมัติของ ONTAP จึงสามารถตรวจจับการโจมตีได้ในเวลาใกล้เคียงเรียลไทม์ ทำการสแนปช็อตในระดับสตอเรจเพื่อสำรองข้อมูลเพิ่มเติม และเปิดใช้งานการกู้คืนได้ภายในไม่กี่นาที ซึ่งถือเป็นประสิทธิภาพการตรวจจับภัยคุกคามระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม
วันนี้ เน็ตแอพขยายการรับประกันการกู้คืนแรนซัมแวร์ให้พร้อมใช้งานสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่าย NetApp ONTAP ภายในองค์กรทั้งหมด รวมถึง NetApp AFF, ASA และ FAS ซึ่งเน็ตแอพจะรับประกันการกู้คืนข้อมูลสแน็ปช็อตในกรณีที่มีการโจมตีแรนซัมแวร์ โดยเน็ตแอพจะเสนอการชดเชย* ให้หากไม่สามารถกู้คืนสำเนาข้อมูลผ่านเน็ตแอพหรือผ่านหนึ่งในพันธมิตรที่เชื่อถือได้ของเน็ตแอพ
Takeshi Sato จากสถาบันเทคโนโลยีชิบาอุระ กล่าวว่า “ลูกค้าเน็ตแอพสามารถควบคุมข้อมูลของตนเพื่อการส่งมอบแอปพลิเคชันที่คล่องตัวด้วยความยืดหยุ่นและการกำกับดูแล เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจจะมีความต่อเนื่อง ซึ่งการอัปเดตเหล่านี้ทำให้ เน็ตแอพ เป็นผู้ให้การจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยที่สุดในอุตสาหกรรมเพื่อการต่อต้านแรนซัมแวร์”
Fredy Cheung รองประธานภาคพื้นประเทศจีน อาเซียน และเกาหลีใต้ ของเน็ตแอพ กล่าวว่า “ปัจจุบัน องค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยต้องเผชิญกับภูมิทัศน์ทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อนจากเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น AI รวมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นเพื่อควบคุมพลังการเปลี่ยนแปลงของ AI อย่างเต็มที่ เราจำเป็นต้องสร้างไปป์ไลน์การส่งข้อมูลยุคใหม่ที่แข็งแกร่ง ปรับขนาดได้ และปลอดภัย ด้วยการใช้ประโยชน์จาก AI ของเน็ตแอพและการปรับปรุงความปลอดภัยของข้อมูล เราสามารถอำนวยความสะดวกให้องค์กรต่าง ๆ เคลื่อนย้ายข้อมูลทได้อย่างราบรื่นและเร่งปริมาณการใช้ข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
เมื่อใช้ร่วมกับการรับประกันการกู้คืนแรนซัมแวร์ เน็ตแอพจะมอบความอุ่นใจให้กับลูกค้าด้วยบริการรับประกันแรนซัมแวร์ (Ransomware Assurance Service) ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าระบบขององต์กรได้รับการปกป้องจากการโจมตีแรนซัมแวร์ โดยบริการนี้จะตรวจสอบการกำหนดค่าของลูกค้าสำหรับสแนปช็อตข้อมูลที่ปลอดภัย และดำเนินการทดสอบการกู้คืนจากทีมงานที่พร้อมให้บริการตลอดเวลา ลูกค้าจึงสามารถไว้วางใจเน็ตแอพในการช่วยเหลือในการกู้คืนข้อมูลในกรณีที่มีการโจมตีได้แน่นอน
เน็ตแอพและพันธมิตรขับเคลื่อนความปลอดภัยและความยืดหยุ่นทั่วทั้งโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด เช่น ความร่วมมือของเน็ตแอพกับซิสโก้ได้ส่งมอบชุดสถาปัตยกรรมที่ปลอดภัยสำหรับ FlexPod ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานแบบหลอมรวม ที่รวมถึงการกู้คืนแรนซัมแวร์และการแบ่งส่วนที่ปลอดภัย เป็นต้น
ล่าสุด เน็ตแอพยังได้ประกาศเปิดตัวโซลูชันการกู้คืนความเสียหาย (Disaster Recovery หรือ DR) ใหม่สำหรับ VMware ซึ่งรวมเข้ากับ Control Plane แบบครบวงจรของ NetApp BlueXP โดยตรง โดยเน็ตแอพสามารถรวมศูนย์การจัดการกับระบบสตอเรจทั้งหมดได้ไม่ว่าระบบนั้นจะอยู่ภายในองค์กรหรืออยู่บนระบบคลาวด์สาธารณะหลักทุกแห่งก็ตาม สำหรับโครงสร้างพื้นฐานการทำงานของระบบ VMware ในลักษณะนี้ทำให้ปัจจุบันเน็ตแอพเป็นผู้นำเสนอโซลูชันในลักษณะนี้ได้แต่เพียงผู้เดียวสำหรับการทำ Disaster Recovery จาก VMware ภายในองค์กรไปที่คลาวด์ ซึ่งจะสามารถช่วยลดต้นทุนในการจัดหาโครงสร้างพื้นฐาน DR หรือศูนย์สำรองให้เหลือต้นทุนที่น้อยที่สุด และด้วย NetApp BlueXP DR ใหม่สำหรับโซลูชัน VMware นี้ที่มีขั้นตอนง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน จะช่วยให้สามารถ failover และ failback จากโครงสร้างพื้นฐาน VMware ภายในองค์กรไปยังคลาวด์สาธารณะโดยตรง โดยเริ่มจาก AWS FSx for NetApp ONTAP หรือไปยังศูนย์ข้อมูลภายในองค์กรทางเลือกได้อย่างง่ายดาย