Depository Trust & Clearing Corporation (DTCC) ประกาศในวันนี้ถึงแพลตฟอร์ม Project Ion ของบริษัทซึ่งอยู่ในระหว่างการพัฒนาสำหรับเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินทางเลือกที่ทำงานบนเทคโนโลยีข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (DLT) ได้เริ่มใช้งานในสภาพแวดล้อมแบบคู่ขนานกับการผลิต ไปพร้อมกับการสนับสนุนมาตรฐานด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นในการทำงานของบริษัท วันนี้ แพลตฟอร์ม Project Ion ได้ทำหน้าที่ดำเนินการทำธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์แบบทวิภาคีเฉลี่ยมากกว่า 100,000 รายการต่อวัน และสูงสุดเกือบวันละ 160,000 รายการ แบบคู่ขนานร่วมกับระบบการชำระเงินเดิมของ Depository Trust Company (DTC) บริษัทในเครือ DTCC ที่ยังทำหน้าที่หลักในการบันทึกข้อมูล
แพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ภาคเอกชนของ DTCC นี้ได้รับการพัฒนาบนความร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีและผู้ประกอบการชั้นนำระดับโลกมากมาย อาทิ Apex Clearing Corp., Barclays, BNY Mellon, Charles Schwab Corp., Citadel Securities, Citi, Credit Suisse Securities USA LLC, Fidelity Investments, Fnality International, Goldman Sachs & Co., J.P. Morgan, Morgan Stanley & Co, Raymond James Financial Inc., Robinhood Securities LLC, State Street Corporation, และ Virtu Financial Inc.
เป้าหมายสูงสุดของแพลตฟอร์ม Project Ion คือการนำเสนอบริการชำระเงินที่ยืดหยุ่น มั่นคงปลอดภัย และปรับเปลี่ยนขนาดการทำงานได้แก่ลูกค้าของบริษัท พร้อมทางเลือกการใช้เทคโนโลยีข้อมูลแบบกระจายศูนย์สำหรับบริษัทที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอุบัติใหม่ โดย DTCC จับมือกับ R3 ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสำหรับวิสาหกิจชั้นนำ เพื่อพัฒนาและเปิดใช้งานแพลตฟอร์ม Project Ion ซึ่งทำงานด้วยซอฟต์แวร์ระบบข้อมูลแบบกระจายศูนย์ Corda ของ R3
–กสทช. เปิด 5 Facts กรณีควบรวมทรู-ดีแทค
“การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นหลักชัยสำคัญในตลาดการซื้อขายหลักทรัพย์ และสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือและการจับมือเป็นพันธมิตรธุรกิจที่แน่นแฟ้นระหว่าง DTCC และลูกค้าของเรา” เมอร์เรย์ พอซมานเตอร์ กรรมการผู้จัดการ ประธานบริษัท DTCC Clearing Agency Services และหัวหน้าฝ่ายงาน Global Business Operations กล่าว “Project Ion คือก้าวสำคัญของเราในการสร้างความก้าวหน้าของการเปลี่ยนแปลงตลาดการเงินสู่ระบบดิจิทัล และเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ อันน่าตื่นใจเพื่อการขับเคลื่อนประสิทธิภาพ การบริหารความเสี่ยง และการลดต้นทุนที่ดียิ่งขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมนี้ สินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีอุบัติใหม่อย่างเทคโนโลยีข้อมูลแบบกระจายศูนย์กำลังเป็นตัวกำหนดทิศทางและพัฒนาวงการธุรกิจบริการทางการเงิน โดยเรายังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมโซลูชันเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้น รวมถึงการส่งมอบมูลค่าใหม่ ๆ และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้ก้าวไปข้างหน้า”
Project Ion ถูกออกแบบให้สอดคล้องตามมาตรฐานข้อกำหนดที่เข้มงวด เพื่อส่งมอบความยืดหยุ่นในการทำงาน ขีดความสามารถเพื่อรองรับงานปริมาณมาก ความมั่นคงปลอดภัย การปรับเปลี่ยนขนาดงาน และการควบคุมความเสี่ยงบนมาตรฐานระดับสูงซึ่งเป็นที่ยอมรับของ DTCC นอกจากนี้ Project Ion ยังถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนวงจรโครงข่ายการชำระเงินแบบ T+0 รวมถึง T+2, T+1 และวงจรการชำระเงินแบบขยาย
“Project Ion นำเสนอเอกสารและโครงสร้างพื้นฐานแบบคู่ขนานสำหรับธุรกรรมทวิภาคีแบบจำกัด ร่วมกับระบบปัจจุบันของ DTC ที่ยังคงทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลหลักสำหรับการทำธุรกรรม เมื่อบริษัททุกระดับในอุตสาหกรรมการเงินต่างนำระบบเทคโนโลยีข้อมูลแบบกระจายศูนย์ไปใช้งานอย่างกว้างขวาง จึงทำให้ DTCC เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มนี้เพื่อเพิ่มทางเลือกและความยืดหยุ่นให้แก่ลูกค้า ซึ่งผู้ที่พร้อมใช้งานแพลตฟอร์ม Project Ion ก็จะสามารถเริ่มต้นการพัฒนาก้าวต่อไปได้ ในขณะที่ลูกค้ารายอื่น ๆ ก็ยังสามารถใช้งานโซลูชันดั้งเดิมของเราได้ต่อไป” มิเชล ฮิลเลอรี ผู้จัดการทั่วไป Equity Clearing and DTC Settlement Service แห่ง DTCC กล่าวเสริม
ด้วยการผลิตแบบคู่ขนานในขณะนี้ DTCC กำลังทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อขยายขอบเขตการทำงานของแพลตฟอร์ม โดยแพลตฟอร์ม Project Ion จะได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและอุตสาหกรรมให้ดียิ่งขึ้น การพัฒนาในอนาคตยังรวมถึงการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานและขีดความสามารถของ DTC รวมถึงการขยายแพลตฟอร์ม Project Ion ไปสู่บริษัท National Securities Clearing Corporation (NSCC) ในเครือ DTCC เพื่อใช้ประโยชน์จากระบบค้ำประกันการค้าของคู่สัญญากลาง (CCP) ของ NSCC สำหรับธุรกรรมทุกรายการที่ผ่านการหักบัญชีแล้ว
