Redis ผู้ให้บริการด้านฐานข้อมูล จับมือ AWS เปิดตัวโซลูชัน เสริมความเร็ว แรง ประหยัด พร้อมเผยยุทธศาสตร์ Generative AI พลิกโฉมธุรกิจไทย
ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันดุเดือด ความรวดเร็วและประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญ Redis ผู้ให้บริการฐานข้อมูลชั้นนำ เล็งเห็นถึงความต้องการดังกล่าว จึงได้เปิดตัวโซลูชันใหม่บนแพลตฟอร์ม AWS ยกระดับการพัฒนาแอปพลิเคชันให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น พร้อมชูจุดเด่นด้านความเร็ว การตอบสนอง และความคุ้มค่า
ชิ เล่ย สถาปนิกโซลูชันอาวุโสแห่ง Redis เผยว่า โซลูชันใหม่นี้ ช่วยให้นักพัฒนาสร้างสรรค์ระบบที่รวดเร็ว รองรับการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ด้วยเวลาแฝงระดับมิลลิวินาที พร้อมการันตีความพร้อมใช้งาน (uptime) สูงถึง 99.999% ทั่วโลก
“Redis Cloud ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดต้นทุน ด้วยการใช้ทรัพยากรหลายฐานข้อมูลบนโครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน โดยยังคงประสิทธิภาพการทำงาน และรองรับการปรับเพิ่ม-ลดการใช้งานได้อย่างราบรื่น” ชิ เล่ย กล่าวเสริม
Redis Cloud เสริมพลัง Generative AI
ไม่เพียงแค่ความเร็วและประสิทธิภาพ Redis Cloud ยังสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชัน Generative AI ด้วยฐานข้อมูลแบบเวกเตอร์ ผสานการทำงานกับ Amazon Bedrock แพลตฟอร์ม AI สมัยใหม่
Liftoff และ iFood คือตัวอย่างความสำเร็จของธุรกิจที่นำโซลูชันนี้ไปใช้ โดย Liftoff ระบุว่า Redis Cloud ช่วยลดภาระการจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ พร้อมรักษาเสถียรภาพในเวลาอันรวดเร็ว ขณะที่ iFood ชี้ว่า ระบบนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปลดล็อกศักยภาพนักพัฒนา
Redis ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา เช่น การสืบค้นข้อมูลขั้นสูง การจัดการข้อมูลหลายประเภทในแพลตฟอร์มเดียว และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลอันทรงพลังอย่าง Redis Insight
นักพัฒนาที่สนใจสามารถเริ่มใช้งาน Redis บน AWS ได้ทันทีผ่าน AWS Marketplace
Redis นำเสนอโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่รองรับ Generative AI ผ่านฐานข้อมูลแบบเวกเตอร์ ช่วยให้ AI ประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการใช้งาน Retrieval Augmented Generation (RAG) ที่ช่วยให้ระบบ AI ดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาเสริมการตอบคำถาม
จุดเด่นของ Redis กับ AI
- ความเร็วสูงสุด: Redis Vector Database ได้รับการยืนยันว่าเร็วที่สุดในตลาด ด้วยประสิทธิภาพที่รองรับการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์
- ลดค่าใช้จ่าย: ระบบ Semantic Caching และการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ LLM Memory ช่วยลดต้นทุนด้าน AI โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่
- ความยืดหยุ่น: รองรับการผสานกับเครื่องมือยอดนิยมอย่าง LangChain และ LlamaIndex
ประยุกต์ใช้ Generative AI ในธุรกิจไทย
Redis ได้จัดงานสัมมนา นำเสนอกรณีศึกษาเกี่ยวกับการใช้ Generative AI ในงานต่างๆ เช่น
- การค้นหาเอกสาร (Document Retrieval): AI สามารถดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ได้ทันที
- แชทบอตอัจฉริยะ: ระบบ RAG ช่วยให้ AI ตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
- การป้องกันการฉ้อโกง: เทคโนโลยี AI วิเคราะห์พฤติกรรมและแจ้งเตือนความผิดปกติแบบเรียลไทม์
ชัชเจริญ ชีวกขนิษฐ์ Senior Solution Architect, AWS Thailand กล่าวว่า Amazon Bedrock เป็นบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและปรับขนาดแอปพลิเคชัน Generative AI พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ดึงข้อมูลเชิงลึก และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างเนื้อหา (ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ)
“Redis ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ Amazon Bedrock อย่างไร้รอยต่อ ทำให้การพัฒนาและปรับใช้งาน Generative AI เป็นเรื่องง่ายขึ้น โดย ‘RAG in a Box’ ของ Redis ช่วยอำนวยความสะดวกในการประมวลผลข้อมูลแบบครบวงจร ตั้งแต่การสร้างฝังตัวข้อมูล (embedding) ไปจนถึงการนำข้อมูลไปใช้งาน” ชัชเจริญ กล่าว
ด้วยการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยี AI องค์กรไทยสามารถใช้ Redis และ AWS ในการเสริมสร้างนวัตกรรมและความสามารถทางการแข่งขันในยุคดิจิทัล โดย Redis ยังเน้นถึงความพร้อมในการสนับสนุนและการฝึกอบรมสำหรับนักพัฒนาไทย
Redis และ AWS ได้แสดงให้เห็นว่า การนำ AI มาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจไทยก้าวสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล
#Redis #AWS #GenerativeAI #ฐานข้อมูล #AI #เทคโนโลยี #นวัตกรรม #ธุรกิจไทย #AmazonBedrock #VectorDatabase #RAG
