Samsung เดินหน้าสื่อสารภาพลักษณ์ สร้างแบรนด์เลิฟกลุ่มผู้บริโภค Gen MZ คือกลุ่ม Gen Millennials หรือ Gen Y ที่มีอายุระหว่าง 25-39 ปี และกลุ่ม Gen Z ที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปี ผ่านกลยุทธ์การตลาด และแคมเปญ CSR ตั้งเป้าเบอร์หนึ่งในใจผู้บริโภค
ปารมี ทองเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า จากข้อมูลประชากรพบว่า ในปี 2025 กลุ่มคน Gen MZ จะเป็นประชากรหลักของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีมากถึง 3 ใน 4 หรือ 75% และคนกลุ่มนี้ยังมีอิทธิพลต่อการใช้จ่ายกับแบรนด์เพื่อสนับสนุนไลฟ์สไตล์ของชีวิตแต่ละคน
โดยจากการเจาะอินไซต์และการใช้ชีวิตของ Gen MZ พบว่า
- กลุ่ม Gen MZ มองหาโมเมนต์ของการหลบหนีจากความเครียด ความวุ่นวาย เพื่อไปหาจุดลงตัวของการทำงานและใช้ชีวิต
- แนวคิดความสำเร็จของเด็ก Gen M และ Z ไม่แตกต่างกันมาก แต่วิธีการมีความแตกต่างกัน คือ Gen Z ต้องการความสำเร็จอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจทำตามขั้นตอนดั้งเดิม ขณะที่ Millennials ยังทำตามขั้นตอน
- คนทั้ง 2 กลุ่มนี้มักจะแสดงความเห็นออกมาอย่างชัดเจน เพราะเชื่อว่าทุกคนเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ ความต่างของรูปลักษณ์
- นอกจากนี้ยังชอบความเป็นตัวเอง และแสดงความเป็นตัวตน จากผลสำรวจพบว่า 55% ของ Gen Z จะซื้อสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตน ขณะที่ทั้ง 2 เจน จะเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง
และจากการศึกษาทำให้ Samsung ต้องปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่เพื่อสร้างแบรนด์เลิฟกับกลุ่มผู้บริโภค ตั้งแต่ สร้างนวัตกรรมรองรับกลุ่มลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม เพื่อให้เกิด Work-life Balance ได้จริง ผ่านการออกแบบ SmartThings ให้เชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในบ้าน เช่น การเชื่อมต่อเครื่องซักผ้ามาที่ Smart Device อื่นๆ ให้ตรวจสอบเวลาการซักผ้าได้ หรือ ออกแบบมอนิเตอร์ให้คนใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น รวมถึงออกแบบทีวีให้เป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน
ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะ Bespoke ที่ดึง Artist เข้ามาช่วยออกแบบตู้เย็นให้มีสีเข้ากับบ้าน หรือกับสมาร์ทโฟนที่ให้ผู้ใช้เลือกสีที่เป็นตัวเองได้ ไปจนถึงการออกแบบขนาดของผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับขนาดของห้องพักที่หลากหลาย
–J Ventures ปักธง ปี 2566 มุ่งสู่ผู้นำด้าน DX ด้วยโซลูชันแบบ End-to-end
โดยทั้งนวัตกรรมและการออแบบผลิตภัณฑ์ Samsung ยึดเรื่องความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม และการตอบแทนสังคม เป็นแกนหลัก ตั้งแต่การรีไซเคิลวัตถุดิบ ทั้งพลาสติกตัวเครื่องและสายไฟ มีแอปฯ สำหรับตรวจสอบการใช้ไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่การออกแบบกล่องกระดาษก็ให้นำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ นำไปแปลงป็นของตกแต่งบ้านได้ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม Net Zero ในปี 2050
และจากความตั้งใจทั้งหมด Samsung ใช้การสื่อสารไปถึงคนทั้ง 2 กลุ่มนี้ผ่านการสร้างประสบการณ์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เช่น การใช้พื้นที่สยามสแควร์ทำเป็นลานกิจกรรม สร้างประสบการณ์ของแบรนด์
ใช้ KOLs เชื่อมต่อไปถึงกลุ่มลูกค้า ที่ผ่านมาได้ผลตอบรับถึง 40 ล้าน Engagements มีการเข้าถึงผ่านโซเชียลมีเดีย 2.4 ล้านครั้งต่อวัน ผ่านคอนเทนต์มากกว่า 10,000 ชิ้น
สำหรับแกนหลักในการขับเคลื่อนแผนการตลาดในประเทศไทยนั้น Samsung เลือกใช้พนักงาน Gen MZ ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 60% เป็นแกนหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่เข้าใจคนในวัยเดียวกัน ทำให้สามารถออกแบบแคมเปญต่างๆ ได้ตรงใจมากกว่า
ปี 2023 เดินหน้าแคมเปญเจาะ Gen MZ ต่อเนื่อง
สำหรับปี 2023 นี้ Samsung ตั้งเป้าเป็นผู้นำเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Customization หรือ Personalization ทำให้เกิดการตื่นตัวและความตื่นเต้น รวมไปถึงการ Empower ผู้คนผ่านแคมเปญ ทั้งเรื่องความเท่าเทียม การเลือก KOLs ที่มีความหลากหลายและบ่งบอกความเป็นตัวเองผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ
นอกจากนี้ยังเดินหน้าทำโครงการ CSR เช่น #TeamUnstoppable แคมเปญที่รวบรวมเด็ก ม.ปลาย เข้ามาพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์การเป็นอยู่ของสังคม รวมไปถึงการจัดโครงการ Samsung Solve for Tomorrow ให้เด็กได้มีความรู้ด้าน Coding เพื่อให้มีสกิลการคิด วิเคราะห์ โดยปีล่าสุดรับเด็กถึง 400 คน เข้ามาฝึกอบรม ซึ่ง คุณปารมี ยังเปิดเผยว่า หากโครงการพัฒนาเยาวชนเติบโตไปได้ ก็มีแนวโน้มจะขยายเป็น Academy ในอนาคต
“เราอยู่ใน Private Sector เราเป็นผู้ที่ส่งเสริมเด็กรุ่นใหม่ โดยดึงหลายๆ หน่วยงานเข้ามาเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นสตาร์ทอัพ ปัจจุบันร่วมมือกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอีกหนึ่งบริษัทที่เข้ามาสอนเรื่อง Design Thinking” ปารมี กล่าว
“เราจะไม่หยุดพัฒนาการสื่อสาร สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อเข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” ปารมี กล่าวทิ้งท้าย
