บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (เอสซีจี) หรือ SCG กลุ่มบริษัทชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ประกาศตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการผลิตวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมกับเพิ่มทักษะการสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ด้วยแพลตฟอร์มการพัฒนาแอปพลิเคชัน Low-Code จากเอาท์ซิสเต็มส์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มองค์ความรู้แก่พนักงานในการสร้างสรรค์แอปพลิเคชันคลาวด์เนทีฟที่มีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจจากการร่วมมือกับเอาท์ซิสเต็มส์ โดยล่าสุดบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านกระบวนการทางการเงินและบัญชีไปสู่ดิจิทัลด้วยเอาท์ซิสเต็มส์
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ประกอบกับความต้องการให้ทีมไอทีมุ่งเน้นการทำงานที่เน้นเป้าหมายทางธุรกิจมากขึ้น เอสซีจีจึงได้นำแพลตฟอร์ม Low-Code จากเอาท์ซิสเต็มส์มาใช้เพิ่มทักษะแก่ทีมงานไอทีและพัฒนาแอปพลิเคชันระบบบัญชีต่าง ๆ ให้มีความทันสมัยเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยทีมของเอสซีจีเอง ด้วยแนวทางการพัฒนาแบบ Low-Code เอสซีจีสามารถสร้างแอปพลิเคชันเพื่อรองรับการดำเนินงานของบริษัทในเครือได้มากกว่า 200 แห่งและยังวางแผนสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ รวมถึงต่อยอดพัฒนานวัตกรรมโซลูชันเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศในอนาคต
–มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เตรียมขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ปี 2567
–FWD ประกันชีวิต สร้างกลยุทธ์ ‘เข้าถึงง่าย-เข้าถึงใจ’ ผ่าน Brand Experience จับมือแบรนด์ดัง เจาะไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค
เป้าหมายหลักของเอสซีจีคือการเพิ่มทักษะและพัฒนาองค์ความรู้แก่ทีมงานภายในอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้บริษัทฯ เน้นการพัฒนาด้วยรูปแบบการเขียนโค้ดเป็นหลัก และอาศัยความเชี่ยวชาญของแผนกไอที หรือว่าจ้างบุคคลภายนอกเพื่อให้ทำงานร่วมกับบริษัทอื่น ๆ ในเครือกว่า 200 บริษัท
ทั้งนี้หน่วยงานด้านไอทีภายใต้สำนักงานบัญชีที่ทรัพยากรต่าง ๆ เป็นความท้าทายหลักขององค์กร เพราะธุรกิจหลักมุ่งไปที่การพัฒนาแอปพลิเคชันระดับองค์กรที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถรักษาต้นทุนรวมถึงความสามารถในการปรับเปลี่ยนที่สูงขึ้นได้ ซึ่งจากการนำเทคโนโลยี Low-Code ของเอาท์ซิสเต็มส์มาใช้ ทำให้เอสซีจีสามารถพัฒนาแอปฯ ใหม่ ๆ ได้มากกว่า 10 แอปฯ ในเวลาเพียง 1 ปี ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขหรืออัปเดตระบบต่าง ๆ ของบริษัทในเครือ ดังนั้นจึงเป็นความสำเร็จที่ตอกย้ำความสามารถของเทคโนโลยี Low-Code ของเอาท์ซิสเต็มส์สำหรับนักพัฒนาในทุกองค์กร ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้
พิชิต ลีละพันธ์เมธา ผู้อำนวยการสำนักงานบัญชีกลาง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสซีจี แอคเค้าน์ติ้ง เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันบริษัทเอสซีจี มีธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (Cement Building Materials) ธุรกิจเคมี (Chemical) และธุรกิจแพคเกจจิ้ง Packaging) ที่อยู่ภายใต้การดูแลโดยส่วนกลาง (Corporate) ซึ่งจะรวมถึงฝ่ายไอทีที่ให้การสนับสนุนเรื่องดิจิทัลในทุกด้าน เช่น การพัฒนาระบบบัญชีให้กับทุกธุรกิจในเครือ อาทิ การของบประมาณ ขอสินทรัพย์ และรับผิดชอบดูแลเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาใช้งานในองค์กรอีกด้วย เช่น High-Code, Low-Code, Blockchain, Robotic Process Automation (RPA) เป็นต้น และเนื่องจากบุคลากรไอทีจากส่วนกลางดูแลรับผิดชอบงานด้านเทคโนโลยีทั้งหมดในองค์กร ดังนั้นจึงสามารถนำเทคโนโลยีที่มีอยู่นำมาใช้งานได้อย่างสอดประสานกันได้อย่างลงตัว”
“แพลตฟอร์ม Low-Code ของเอาท์ซิสเต็มส์ช่วยให้เราขยายทักษะและความสามารถด้านไอทีในการพัฒนาระบบใหม่ ๆ ที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแก่ทีมงานบัญชีต่าง ๆ ของเรา นอกจากนี้ยังช่วยให้เราพัฒนาและอัปเดตแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกมากกว่า 20 แอปฯ โดยบางแอปฯ เราพัฒนาได้รวดเร็วขึ้นถึง 50% ที่สำคัญเราพัฒนาด้วยทีมงานของเราเอง นอกจากนี้เอสซีจียังได้ต่อยอดจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมให้ความรู้และเพิ่มทักษะแก่บุคลากรจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยตั้งเป้าผลิตนักพัฒนาที่ผ่านการรับรองมาตราฐานจากเอาท์ซิสเต็มส์เพิ่มเป็น 20 ราย ภายในปีนี้” พิชิต กล่าวเพิ่มเติม
“อีกจุดเด่นหลัก ๆ ของการนำเทคโนโลยี Low-Code มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในเครือคือเราสามารถผสานเข้ากับแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมถึงแพลตฟอร์มที่ใช้อยู่ปัจจุบันได้ทันที อาทิ SAP, Microsoft และ SCG Integration Hub โดยใช้ เอาท์ซิสเต็มส์เป็นตัวเชื่อม (Gateway API)”
“เป้าหมายในอนาคตของเอสซีจีคือการเป็นศูนย์กลางการผลิตวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเป็นแหล่งเพิ่มพูนทักษะให้แก่พนักงาน โดยเราวางแผนอัปเกรดทักษะต่าง ๆ สำหรับการใช้งานเทคโนโลยี Low-Code เพื่อสร้าง Prototype ออกแบบและพัฒนา UX/UI และมีแผนต่อยอดความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง เอาท์ซิสเต็มส์ ที่เป็นผู้ให้บริการหลัก ร่วมพัฒนาองค์ความรู้และชุดทักษะที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างโมเดลธุรกิจ Low-Code Consultant เนื่องจากตลาดในประเทศไทยมีความต้องการเป็นอย่างสูง” พิชิต กล่าวสรุป
สิงคโปร์ เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพระดับโลก GITEX ASIA เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 23 - 25 เมษายน 2568 ณ มารีน่า เบย์ แซนด์ส…
“กรุงศรี ออโต้” ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญ ด้วยผลงานพอร์ตสินเชื่อรถจักรยานยนต์ประจำปี 2567 ที่เติบโตอย่างโดดเด่นถึง 10% สวนทางกับภาพรวมตลาดที่หดตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยอดสินเชื่อใหม่ที่ดำเนินการผ่านช่องทางดิจิทัลเติบโตสูงถึง 22% สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อบริการของกรุงศรี มอเตอร์ไซค์ ชญาน์ธิป พันธุ์มณี…
ดีป้า เผยผลสำรวจล่าสุด ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลไตรมาสแรกปี 2568 กลับสู่แดนบวกที่ระดับ 50.1 หลังอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยนโยบายผ่อนคลาย และการแข่งขันเทคโนโลยี AI ระดับโลก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ กีดกันการค้า และการปรับตัวไม่ทันเทคโนโลยีใหม่…
เทศกาลสงกรานต์ปี 2568 ที่เซ็นทรัลพัฒนาจัดขึ้นทั่วประเทศภายใต้ชื่องาน ‘Thailand’s Songkran Festival 2025’ ปิดฉากลงอย่างสวยงาม สร้างปรากฏการณ์ความสนุกและความประทับใจครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยยอดผู้เข้าร่วมงานรวมทั่วประเทศกว่า 10 ล้านคน ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Festive Landmark…
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยความสำเร็จอันงดงามของการจัดงาน "Maha Songkran World Water Festival 2025" ณ บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร โดยในช่วง 3 วันแรกของการจัดงาน…
กรมการขนส่งทางรางเผยวันที่สาม (13 เมษายน 2568) ของวันหยุดยาวต่อเนื่องของเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 1.10 ล้านคน-เที่ยว ไม่มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟ สะสม 3 วัน…
This website uses cookies.