ประเทศไทยเตรียมพร้อมรับบทผู้นำด้านจริยธรรม AI ในเวทีโลก ประกาศเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุม “UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก พร้อมเผยผลสำรวจความพร้อมด้าน AI ของประเทศไทย สะท้อนศักยภาพการพัฒนาและใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบ โปร่งใส เป็นธรรม
กรุงเทพฯ, 4 ธันวาคม 2567 – กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศความร่วมมือเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลก “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ภายใต้แนวคิด “Ethical Governance of AI in Motion” ณ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568
การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยคาดว่าจะมีผู้นำและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสมาชิกยูเนสโกกว่า 194 ประเทศ รวมกว่า 800 คนเข้าร่วมงาน ตอกย้ำความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านจริยธรรม AI และยกระดับการกำกับดูแลการประยุกต์ใช้ AI ของโลกสู่การปฏิบัติจริงอย่างยั่งยืน
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ โดยเฉพาะ AI ซึ่งต้องอยู่ภายใต้หลักจริยธรรม พร้อมเผยข้อมูลจากรายงาน AI Readiness Measurement 2024 โดย ETDA และ สวทช. พบว่าในปี 2567 องค์กรต่างๆ ในประเทศไทยมีแผนนำ AI มาใช้เพิ่มขึ้นสูงถึง 73.3% ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 20% สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวในการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในองค์กร
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ประกาศ “แนวทางการประยุกต์ใช้ AI อย่างมีธรรมาภิบาลสำหรับผู้บริหาร” และ “คู่มือแนวทางการประยุกต์ใช้ Generative AI อย่างมีธรรมาภิบาลสำหรับองค์กร” เพื่อเป็นแนวทางการใช้ AI ในระดับองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
“ประเทศไทยมีความพร้อมในหลายมิติ จึงพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงาน “UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ ส่งเสริมความร่วมมือ และเสริมสร้างความสามารถในการกำกับดูแล AI ในประเทศกำลังพัฒนา สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาคมโลก และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไทยในการเป็น “แหล่งเรียนรู้” ด้าน AI Governance” ประเสริฐ กล่าว
ศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงบทบาทของกระทรวง อว. ในการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กันไป โดยมี สวทช. เป็นหน่วยงานหลักในการผลักดัน
“ประเทศไทยได้มีการส่งเสริมและพัฒนาความพร้อมในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ผ่านการประเมินความพร้อมด้าน AI ตามกรอบแนวทางของ UNESCO RAM ซึ่งครอบคลุมในหลายมิติ ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์จะนำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อพัฒนาศักยภาพและปรับปรุงในมิติต่างๆ ที่จำเป็น” ศุภชัย กล่าว
ซิง ฉวี่ รองผู้อำนวยการใหญ่ UNESCO ชื่นชมประเทศไทยในความเป็นผู้นำด้านธรรมาภิบาลจริยธรรม AI และการผลักดันความร่วมมือระดับนานาชาติ พร้อมเน้นย้ำภารกิจของยูเนสโกในการสร้างสันติภาพผ่านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม ซึ่งมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาท
ซิง ฉวี่ กล่าวถึงการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมาพร้อมกับความก้าวหน้าด้าน AI แต่ก็อาจนำมาสู่ความท้าทาย เช่น ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล และผลกระทบต่อการจ้างงาน
“การที่ประเทศไทยนำกรอบแนวทางการประเมินความพร้อมด้าน AI ของยูเนสโก (UNESCO RAM) มาใช้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการประเมินความพร้อมด้าน AI ส่งเสริมการใช้ AI อย่างโปร่งใส และเป็นไปตามกรอบธรรมาภิบาลและจริยธรรม” ซิง ฉวี่ กล่าว
UNESCO RAM: กรอบการประเมินความพร้อมด้าน AI
UNESCO RAM เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ประเทศต่างๆ เข้าใจสถานะความพร้อมด้าน AI ของตนเอง ครอบคลุมมิติต่างๆ เช่น นโยบายและกฎหมาย การศึกษาและการพัฒนาทักษะ โครงสร้างพื้นฐาน และจริยธรรม โดยประเทศไทยอยู่ระหว่างการประเมินตามกรอบ UNESCO RAM เพื่อนำผลลัพธ์ไปพัฒนาศักยภาพและกำหนดนโยบายด้าน AI ของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้
ภายในงานแถลงข่าว มีการจัดเวทีเสวนาใน 2 หัวข้อสำคัญ ได้แก่
- “Thailand’s Journey in Driving AI Ethics & Governance: Insights from Hosting the Global Forum on the Ethics of AI” โดย ดร.เวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผอ. NECTEC, ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาอาวุโส ETDA และ ดร.วีระ วีระกุล รองประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย
- “Policy and Strategic Frameworks”, in the Region Readiness Assessment Methodology (RAM)” โดย นายอิราคลี โคเดลี หัวหน้าหน่วยจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ UNESCO ร่วมกับ ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผอ. ETDA, ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผอ. NECTEC
ความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ ก้าวสำคัญของประเทศไทย
ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐของไทยและ UNESCO ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการพัฒนา AI อย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงจริยธรรม ความรับผิดชอบ และธรรมาภิบาล เพื่อสร้างระบบนิเวศ AI ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
#AI #AIEthics #UNESCO #Thailand #AIGovernance #UNESCOGlobalForum #DigitalEconomy #Tech #Innovation #UNESCORAM
–HwaCom Systems เปิดตัว Fiber Monitor จัดการเครือข่ายใยแก้วนำแสงยุคใหม่