ประเทศไทยประกาศยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติจีนและคาซัคสถาน (ผ.30) เป็นการชั่วคราวตามนโยบายรัฐบาล เริ่มต้นตั้งแต่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 เร่งกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่เป้าหมายรายได้ 2.38 ล้านล้านบาทในปี 2566
ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 กันยายน 2566 ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน โดยยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมการเดินทางเข้าราชอาณาจักรของนักท่องเที่ยวสัญชาติจีนที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายหลักของไทย และสัญชาติคาซัคสถานที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนแรกของคณะรัฐมนตรี โดยมีมติให้ยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติจีนและคาซัคสถานซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยเร่งเครื่องอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ของปี 2566 และส่งผลดีถึงต้นปี 2567
–Agoda จัดงาน ‘Fly For Less’ พร้อมเปิดตัวบริการจองตั๋วเครื่องบินใจกลางกรุงเทพฯ
สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นักท่องเที่ยวตลาดจีนถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของประเทศไทย โดยยังมีการฟื้นตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 และเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงทั้งด้านรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งนี้เชื่อมั่นว่ามาตรการยกเว้นการตรวจลงตราจะเป็นแรงส่งช่วยพลิกฟื้นการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาอีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่า ตลอดช่วงระยะเวลา 5 เดือนที่มีการยกเว้นการตรวจลงตราจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนประมาณ 1,912,000 – 2,888,500 คน ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับปี 2562 จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 41 – 62 สร้างรายได้เข้าประเทศ 92,583 – 140,313 ล้านบาท ขณะที่นักท่องเที่ยวคาซัคสถานในช่วง 5 เดือนดังกล่าวจะมีจำนวนประมาณ 129,485 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ประมาณ 7,930 ล้านบาท โดยมาตรการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการ Quick Win ที่รัฐบาลใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในระยะสั้น และขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากของประเทศ
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 กันยายน 2566 จำนวน 2,284,281 คน ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวอันดับที่ 2 รองจากมาเลเซียที่เดินทางเข้าประเทศไทยมากที่สุด ทั้งนี้ ถ้าไม่มีมาตรการในการยกเว้นการตรวจลงตรา ( Visa Exemption) จะมีแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2566 จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,470,430 คน ซึ่งคิดเป็นอัตราการฟื้นตัวร้อยละ 31 สร้างรายได้ 174,358 ล้านบาท แต่เมื่อมีการยกเว้นการตรวจลงตราจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการกระตุ้นตลาด ทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 4.04-4.4 ล้านคน และมุ่งสู่เป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้ 257,500 ล้านบาทในปี 2566 เนื่องจากเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง (Ease of Traveling) นักท่องเที่ยวไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการขอตรวจลงตรา และเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายขึ้น รวมถึงในช่วงวันที่ 1 – 8 ตุลาคมนี้ที่จะเป็นช่วง Golden week ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมออกเดินทางท่องเที่ยว ประกอบกับพันธมิตรด้านสายการบินมีความพร้อมจัดทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน ตลอดจนการเปิดเส้นทางการบินใหม่ อาทิ เฉิงตู – สมุย, ปักกิ่ง – เชียงใหม่, กวางโจว – เชียงใหม่, เซี่ยงไฮ้ – เชียงใหม่, เซี่ยงไฮ้ – ภูเก็ต, กวางโจว – ภูเก็ต, คุนหมิง – หาดใหญ่ ทั้งนี้ ระยะของมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรายังครอบคลุมถึงช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่และตรุษจีนที่จะช่วยส่งเสริมกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในช่วงต้นปี 2567 อีกด้วย
สำหรับตลาดคาซัคสถานถือเป็นตลาดที่เติบโตได้ดีและมีศักยภาพสูง โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 กันยายน 2566 มีนักท่องเที่ยวคาซัคสถานเดินทางเข้าประเทศไทยแล้วจำนวน 108,636 คน ซึ่งนับว่าเป็นสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงที่สุด โดยนักท่องเที่ยวคาซัคสถานนิยมเดินทางมาพักผ่อนที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก การยกเว้นการตรวจลงตราให้กับนักท่องเที่ยวคาซัคสถานจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางมากขึ้น
การยกเว้นการตรวจลงตราของทั้งสองประเทศดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว และผลักดันให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในปี 2566 บรรลุเป้าหมายทั้งทางด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 – 30 ล้านคนและรายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาทต่อเนื่องไปจนถึงเป็นแรงส่งในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในปี 2567 ด้วยนโยบายของรัฐบาลที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของภาคการท่องเที่ยวอันเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
โค้ก โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย สร้างความฮือฮาให้กับตลาดเครื่องดื่มอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "โค้ก" ซีโร่ กลิ่นวานิลลา ความอร่อยใหม่ที่ผสานความซ่าส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ "โค้ก" เข้ากับความหอมหวานละมุนละไมของวานิลลาได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือมาในสูตรไม่มีน้ำตาล ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen…
บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น (Epson) ประกาศแต่งตั้ง โยชิดะ จุนคิชิ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและตัวแทนผู้อำนวยการ (President and Representative Director) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (Chief…
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดย กองสิ่งแวดล้อม ฝ่ายพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง ช่วงเวลากลางคืน การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ โดยเริ่มตั้งแต่จุดก่อสร้าง Cut…
LINE MAN ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Lotus’s และ Lotus’s go fresh ขยายฐานบริการ LINE MAN MART ให้ครอบคลุมกว่า 1,400 สาขาทั่วประเทศ…
พฤกษา ผนึกกำลัง โรงพยาบาลวิมุต มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพครบวงจรให้ลูกบ้านตลอดปี 2568 ภายใต้แนวคิด "สุขภาพดีเริ่มต้นที่บ้าน" จิตชญา ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง…
ออเนอร์ (HONOR) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป HONOR Magic7 Pro 5G ที่สร้างยอดขายเติบโตสูงถึง 2.4 เท่า นับตั้งแต่เปิดให้พรีออเดอร์เมื่อวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568…