มหาดไทยชง ครม. ขยายสัมปทานบีทีเอส30ปี พร้อมเก็บค่าตั๋วตลอดสาย 15-65 บาท มั่นใจคนเดินทางได้รับความสะดวก

วันที่ (13 ส.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เสนอเรื่องขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) ของกระทรวงมหาดไทยให้ ครม.พิจารณาอนุมัติ โดยให้มีการขยายเวลาร่วมลงทุนโครงการฯ เพิ่มเติมอีก 30 ปี จากเดิมสิ้นสุดปี 2572 เป็นสิ้นสุดปี 2602 เพื่อให้ทันตามแผนการเปิดให้บริการเดินรถไฟสายเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคตช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์มีความต่อเนื่องในการเดินทาง โดยไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายขบวนรถ รวมถึงได้รับความสะดวก ปลอดภัย และค่าโดยสารที่เหมาะสม

ทั้งนี้ในรายละเอียดสัญญา ได้ระบุถึงผลตอบแทน ที่ผู้รับสัมปทานจะต้องชำระผลตอบแทนให้แก่กรุงเทพมหานคร มีดังนี้ -ภาระค่างานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล สำหรับส่วนต่อขยายที่ 2 ภาระดอกเบี้ยและค่ธรมเนียมสำหรับภาระหนี้เงินกู้ที่มีต่อกระทรวงการคลังไม่เกิน 44,429 ล้านบาท
-ภาระส่วนต่างระหว่างค่าจ้างการให้บริการเดินรถ ส่วนต่อขยายที่ 1และ 2 กับรายได้ค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2และค่าตอบแทนเพิ่มเติม
-ภาระค่าจ้างการให้บริการเดินรถ คงค้างของส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 ก่อนวันที่สัญญาร่วมลงทุนมีผลบังคับใช้
-ภาระค่าตอบแทนเพิ่มเติมจำนวนเท่ากับร้อยละ 5 ของรายได้ค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2

นอกจากนี้ช่วงระหว่างปี 2573- 2602 ผู้รับสัมปทานจะแบ่งรายได้ให้กับกรุงเทพมหานครภายหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานเดิม คือตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.2572 จนถึงวันที่ 4 ธ.ค.2602 ดังนี้ ระยะเวลา 15 ปีแรก ( 2572- 2587) อัตราร้อยละ 10 ของรายได้ค่าโดยสาร ระยะเวลา 10 ปีต่อมา ปี 2488-2597 อัตราร้อยละ 15 ของรายได้ค่าโดยสาร และระยะเวลา 5 ปีสุดท้าย ปี 2598 -2602 อัตราร้อยละ 25 ของรายได้ค่าโดยสาร และหากผลตอบแทนของผู้รับสัมปทาน เกินกว่าร้อยละ 9.60 ผู้รับสัมปทานก็จะแบ่งกระแสเงินสดสุทธิต่อผู้ถือหุ้น ในส่วนที่ทำให้ผลตอบแทนเกิน ให้แก่กรุงเทพมหานครเพิ่มเติมด้วย

ส่วนหลักเกณฑ์การปรับเพดานค่าโดยสาร กำหนดใช้ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศเพียงอย่างเดียว โดยอัตราค่าโดยสารเส้นทางหลักระหว่างปี 62 ถึง 4 ธ.ค.72 กำหนดเป็น 15+ 1+ 4 (X-๑) ( X คือจำนวนสถานี) สูงสุดไม่เกิน 44 บาท โดยจะปรับค่าโดยสารได้ทุก 24 คือน ส่วนโครงสร้างค่าโดยสารส่วนต่อขยาย ปี 2562-2602 และเส้นทางหลัก ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 2572- 2602 กำหนดเป็น 15+ 3X (X คือจำนวนสถานี) โดยราคาสูงสุดไม่เกิน 65 บาท โดยจะปรับอัตราค่าโดยสารทุก ๆ 24 เดือน

ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้รับโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ทำให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดเส้นทางซึ่งจะต้องรับภาระหนี้จากการโอนโครงการรวมถึงค่าบริหารจัดกรเดินรถ

ขณะเดียวกันยังกำหนดให้กระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งปันผลประโชน์จากค่ำโดยสารรวมถึงหลักกณฑ์อื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการรวมโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และดำเนินการเจรจากับผู้รับสัมปทานเดิม และจัดทำร่างสัญญาร่วมลงทุน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการได้ดำเนินการเจรจาและจัดทำร่างสัญญาร่วมลงทุนเสร็จแล้ว และผ่านการตรวจร่างสัญญาจากสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นที่เรียบร้อย

ภาพประกอบจาก Facebook : รถไฟฟ้าบีทีเอส

Scroll to Top