รถแท็กซี่กว่า 100 คัน จอดนิ่งอยู่ในลานกว้างนานนับปี ตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาดต่อเนื่องมาจนถึงระลอก 3 ก็ยังไม่มีคนมาเช่าออกไปขับรับ-ส่งผู้โดยสาร
นายวิฑูรย์ แนวพาณิช นายกสมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย กล่าวว่า ตั้งแต่โควิดรอบแรก มาถึงรอบที่ 3 จำนวนรถแท็กซี่ปรับลดลงเรื่อย ๆ จากปี 62 ที่มีแท็กซี่ในระบบกว่า 110,000 คัน ลดลงในปี 63 เหลือ 90,000 คัน และในปี 64 เหลือ 80,000 คัน แต่มีรถวิ่งให้บริการจริงเพียง 30,000 คันเท่านั้น ที่เหลืออีกกว่า 50,000 คัน ต้องจอดนิ่ง รายได้จากการขับแท็กซี่ลดลงจากวันละ 2,000 บาทเหลือไม่ถึง 300 บาท ทำให้คนเลิกอาชีพขับแท็กซี่เป็นจำนวนมาก แต่ภาระของสหกรณ์แท็กซี่ที่ต้องแบกรับยังคงอยู่ ขณะที่มาตรการช่วยเหลือของภาครัฐมาไม่ถึงกลุ่มแท็กซี่ ซ้ำยังมีคู่แข่งเข้ามาเพิ่ม ทำให้เดือดร้อนหนัก
สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือระยะเร่งด่วน คือ การตรึงราคาก๊าซแอลพีจี และ เอ็นจีวี. สำหรับรถแท็กซี่ เพื่อช่วยลดต้นทุน , การเปิดเวทีเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้และหาทางออกให้กับผู้ประกอบการแท็กซี่ ที่มีรถแต่ไม่มีคนขับ เช่น การพักชำระหนี้ , การปรับลดดอกเบี้ย เป็นต้น เนื่องจากมาตรการที่เคยออกมา แท็กซี่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในทางปฏิบัติ และ ขอให้รัฐมีมาตรการเยียวยาค่าครองชีพให้ผู้ขับรถแท็กซี่ ที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งคนเหล่านี้ เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 เช่นกัน โดยเสนอให้จัดงบเยียวยา คนละ 3,000 บาทต่อเดือน นาน 4 เดือนก็ถือว่าช่วยได้มาก