Clip Video

รีวิว CardiacSense Watch 3 นาฬิกาที่ตอบโจทย์ผู้มีปัญหาด้านหัวใจ

สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมา รีวิว CardiacSense Watch 3 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ถูกพัฒนามาแบบเฉพาะทาง เพื่อคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจโดยเฉพาะ เดี๋ยวเราจะมาดูกันตั้งแต่การออกแบบ การใช้งาน และฟีเจอร์ที่เป็นไฮไลต์ กันครับ

เริ่มจากหน้าตากันก่อนเลยครับ เจ้าตัวนี้ทรงกล่องจะยาวๆ คือเขาวางนาฬิกาพาดยาวมาในกล่องเลย ส่วนการชาร์จ มาเป็นแท่นเลยครับ ซึ่งจะต่างจากสมาร์ทวอทช์ในยุคนี้ที่มักจะใช้เป็นแถบแม่เหล็กแปะชาร์จ

ตัวเครื่องวัสดุเป็นพลาสติก ตัวเรือนแข็งแรงดีครับ แต่อาจจะดูหนาไปนิดนึง ซึ่งเพราะเขาใส่เซ็นเซอร์เข้ามาหลายตัวครับ เพื่อให้การวัดอัตราการเต้นของหัวใจมีความแม่นยำเทียบเท่ากับอุปกรณ์การแพทย์

ตัวเรือนมีปุ่มที่กดได้ปุ่มเดียว ใช้สำหรับเปิด/ปิด ตัวเครื่อง มี ECG sensor หรือเซ็นเซอร์วัดการเต้นของหัวใจ ทางด้านซ้ายล่างของตัวเรือน ส่วนด้านขวาบนเป็น SpO2 Sensor ช่วยวิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด เดี๋ยวจะมาบอกอีกทีว่าทั้ง 2 เซ็นเซอร์นี้ใช้ทำอะไร 

ส่วนด้านใต้ตัวเรือน จะมีทั้ง ECG และ PPG sensor ซึ่งทั้ง 2 ตัวเอาไว้ช่วยในการวัดค่าหัวใจ

สำหรับตัวสายใช้ซิลิโคนที่ยืดหยุ่นได้ระดับนึงครับ เพื่อให้ใส่แล้วสบายข้อมือ

เจ้าตัวนี้ใช้งานได้โดยการ Sync ผ่าน Bluetooth ครับ เบื้องต้นจะต้องโหลดแอปพลิเคชัน CardiacSense มาก่อน จากนั้นก็ทำการ Pair Device หรือจับคู่อุปกรณ์นั่นแหละครับ ที่ตัวนาฬิกาจะขึ้นเลขรหัสมาก็ให้เราพิมพ์เข้าไปที่สมาร์ทโฟน แค่นี้ก็จับคู่กันเรียบร้อยครับ

หลังจากเชื่อมต่อแล้ว หน้าจอก็จะเป็นแบบนี้เลยครับ โดยหน้าแรกจะบอกเวลา วันที่ สถานะแบตเตอรี่ และสถานะการเชื่อมต่อ ซึ่งเราก็สามารถใช้นิ้วปัดไปหน้าต่อได้ไป เพราะหน้าจอเป็นทัชสกรีน โดยหน้าถัดไปจะบอกจำนวนแคลอรี่ จำนวนก้าวที่เดิน ในแต่ละวัน รวมถึงอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์

ปัดมาอีกจะพบกับหน้าที่มีสัญลักษณ์ให้เราเอานิ้วแตะไปที่ 2 จุดของตัวเรือน คือเซ็นเซอร์ ECG และ SpO2 ที่ผมบอกไปในข้างต้น ซึ่งตรงนี้คือการวัดค่าหัวใจแบบละเอียดครับ ซึ่งขณะวัดจะต้องเปิดแอปพลิเคชันเอาไว้ด้วย

หน้าถัดไปคือการแสดงสถานะเชื่อมต่อ และรหัสของตัวเรือนที่เรากรอกไปตอนจับคู่นาฬิกากับมือถือเราครับ

และหน้าสุดท้ายคือ Factory Reset หรือการคืนค่าเริ่มต้น

เมนูของเครื่องก็มีแค่นี้เลยครับ ไม่ซับซ้อนเหมือนกับสมาร์ทวอทช์ทั่วไป เพราะอย่างที่บอกไปว่า มันออกแบบมาเพื่อคนที่มีปัญหาโรคหัวใจโดยเฉพาะ

ส่วนที่ตัวแอปพลิเคชัน ตรงนี้ขอไม่ลงลึกครับ เพราะมันเป็นฟังก์ชันที่เราต้องเข้าไปปรึกษากับแพทย์ก่อนเพื่อดูข้อมูลตามที่แพทย์แนะนำครับ ซึ่งทางโรงพยาบาลเองก็ต้องใช้แพลตฟอร์มเดียวกันครับ เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้จากทั้ง 2 ฝั่ง

เรามาดูการวัดค่าแบบละเอียดกันดีกว่าครับ หลังจากเราเอานิ้วแตะไปที่ลัญลักษณ์ถูก ก็ให้เอานิ้วไปกดไว้ตรงเซ็นเซอร์ทั้ง 2 จุด จากนั้นจะเห็นว่า หน้าแอปพลิเคชันจะถูกเปลี่ยนเป็นหน้าวัดค่าการเต้นหัวใจแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะมีกราฟให้ดูกันชัดๆ เหมือนกับเวลาเราไปหาหมอเลยครับ

ตรงนี้วิธีดูไม่ยากครับ เราจะเห็นเส้นแนวตั้งที่เป็นเส้นยาวๆ ถ้าหัวใจปกติ ความห่างของแต่ละเส้นจะเท่ากันครับ นั่นคือหัวใจเราเต้นปกติ แต่กับคนที่มีปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะ เราจะเห็นชัดเจนเลยว่าเส้นแนวตั้งยาวๆ มันจะมีช่องว่างที่ไม่เท่ากัน ห่างมากบ้าง น้อยบ้าง ซึ่งตรงนี้สามารถใช้เป็นข้อมูลเข้าไปปรึกษาแพทย์ต่อได้ครับ

ข้อดีอีกอย่างของการได้วัดหัวใจด้วยตัวเองจากทุกที่คือ เวลาเราไปพบแพทย์ บางครั้งเราตื่นเต้น ทำให้อาจจะได้ข้อมูลที่คาดเคลื่อน หรือบางคนหัวใจเต้นผิดจังหวะแค่บางช่วงเวลา และช่วงเวลานั้นไม่ตรงกับช่วงที่ไปพบแพทย์ ทำให้แพทย์ไม่สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้

สุดท้าย หลังจากวัดเสร็จแล้ว รีพอร์ทจะถูกส่งเข้าไปที่อีเมลที่เรากรอกเอาไว้ในแอปพลิเคชัน สำหรับใช้เป็นข้อมูลให้แพทย์วิเคราะห์ได้ครับ

ก็ประมาณนี้ครับ สำหรับการ รีวิว CardiacSense Watch 3 ส่วนตัวผมก็ต้องบอกว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจทีเดียวครับ เพราะมันทำสิ่งที่สมาร์ทวอทช์ทั่วไปทำไม่ได้ คือการวัดค่าหัวใจแบบละเอียดที่มากกว่าการโชว์แค่ตัวเลข ซึ่งในอนาคตเทคโนโลยีเหล่านี้คงจะถูกพัฒนาไปมากขึ้น คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ก็จะทำให้เราป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคหัวใจกันได้ดีขึ้นไปอีกครับ

แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นยังไงก็คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้ครับ สำหรับวันนี้ ผม แสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

รีวิว Xiaomi Smart Band 8 Pro หลังใช้เอง 3 เดือน

supersab

Recent Posts

AIS ยกระดับ HUB OF E-WASTE รวมพลังสร้างความตระหนักรู้ สู่ภารกิจ Decarbonization พร้อมส่งแคมเปญ “อุ่นใจ ไปรฯ ทั่วไทย ตามล่าหา E-Waste” ในวัน International E-Waste Day

วันขยะอิเล็กทรอนิกส์สากล หรือ International E-Waste Day 14 ตุลาคมปีนี้ AIS ในฐานะองค์กรไทยรายแรกที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก WEEE Forum (Waste Electrical and Electronic…

28 mins ago

Digio เปิดใจ 13 ปี แห่งความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมเปิดประสบการณ์แนะแนวทางสำเร็จให้คนรุ่นใหม่และข้อควรระวังของวงการสตาร์ทอัพ

Digio สตาร์ทอัพฟินเทค ผู้พัฒนาและให้บริการ mPOS และ ระบบรับชำระเงินอันดับต้นๆ ของไทยเตรียมประกาศความสำเร็จก้าวสู่ปีที่ 13 พิสูจน์การเติบโตอย่างยั่งยืนของสตาร์ทอัพไปสู่จัดเริ่มต้นขององค์กรที่ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ แนะเทคนิค 4 สเต็ปการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพ ตั้งแต่การระดมสมอง จนไปสู่การระดมทุน…

35 mins ago

เซ็นทรัลพัฒนา ออกตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน สนับสนุนโครงการพลังงานสะอาด มุ่งสู่การเป็นองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050

เซ็นทรัลพัฒนา รายแรกในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกไทยที่เสนอขายตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability-linked Bond) มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) การจัดการน้ำและน้ำเสียอย่างยั่งยืน (Sustainable water & wastewater management) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy Efficiency) และโครงการที่เกี่ยวกับความยั่งยืนอื่น ๆ…

46 mins ago

depa เผย HelpT เปิดระบบ 1 เดือน ประสานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้วกว่า 300 กรณี

กระทรวงดีอี โดย ดีป้า (depa) เผยสถิติการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยผ่านแพลตฟอร์ม HelpT น้ำท่วม ช่วยด้วย! ช่องทางสนับสนุนการสื่อสารระหว่างประชาชนกับหน่วยงานท้องถิ่นที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระบุ 88 หน่วยงานท้องถิ่นจาก 22 จังหวัดเข้าร่วมแพลตฟอร์ม ประสานให้ความช่วยเหลือประชาชนมากกว่า…

17 hours ago

ผุดมาตรการดัน “ไทย” สู่ “Financial Hub” ศูนย์กลางการเงินของโลก

Biztalk วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567 พาไปฟังข้อสรุปผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายและยกร่างกฎหมายเพื่อจัดตั้งศูนย์กลางทางการเงิน ครั้งที่ 1/2567 จากคุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไปฟังกันว่า จะมีมาตรการอะไรที่จะผลักดันให้ไทย ก้าวสู่การเป็น Financial…

1 day ago

อินเทล เผยโฉมโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ตัวแรก สำหรับ AI PC

อินเทล ประกาศเปิดตัวตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series ใหม่ ซึ่งจะขยายขีดความสามารถของ AI บนแพลตฟอร์มเดสก์ท็อป และนำเสนอตัวเลือก AI PC สำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาประสิทธิภาพการประมวลผลระดับสูง นำโดยโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 9 processor 285K เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์เจเนอเรชั่นล่าสุดนี้ประกอบด้วย 5 เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ใหม่ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Performance-core (P-core) ล้ำสมัยสูงสุดถึง 8 คอร์…

1 day ago