สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะพามา รีวิว HONOR Magic V2 ว่าที่สมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในตลาดขณะนี้ มีความหนาเมื่อพับที่ 9.90 มิลลิเมตร คือถ้าลองเอามาวางเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไปที่ใส่เคส ก็ต้องบอกว่าแทบไม่เห็นความแตกต่าง
แถมหน้าจอตอนที่พับอยู่แบบนี้ ยังใช้งานได้ง่ายเพราะสเกลความกว้าง-ยาว ของหน้าจอมันเท่าๆ กับสมาร์ทโฟนทั่วไปเลยครับ สำหรับตอนพับหน้าจอจะอยู่ที่ 6.43 นิ้ว ซึ่งเล็กกว่าแฟล็กชิปทั่วไปแค่ไม่กี่มิลเท่านั้น
ขณะที่ถ้ากางออกมาจะบางเพียง 4.7 มิลลิเมตร เท่านั้น ซึ่งบางก็เห็นความบางก็อาจจะกังวลว่ามันแข็งแรงมั้ย ก็ต้องบอกว่าเขาใช้ไทเทเนียมมาทำบานพับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเลยครับ มันแข็งแรงกว่าวัสดุชนิดอื่นแน่ๆ ด้านการพับ ทาง Honor ก็เคลมว่า มันทนต่อการพับได้มากกว่า 4 แสนครั้ง คือถ้าพับวันละ 100 ครั้ง ก็อยู่ได้ 10 ปี สบายๆ
ส่วนความรู้สึกเมื่อใช้งานตอนที่กางออกมา ด้วยความที่หน้าจอมันใหญ่ถึง 7.92 นิ้ว แน่นอนว่าข้อดีคือดูคอนเทนต์ได้เต็มตา แต่คนมือเล็ก หรือนิ้วสั้น อาจจะต้องขยับการจับตัวเครื่อง ซึ่งส่วนตัวผมจะรู้สึกว่าเราจับเครื่องได้ไม่มั่นคงพอ เวลาจะพิมพ์คุยหรือแชตไวๆ ตอนพับน่าจะตอบโจทย์สายพิมพ์ไวมากกว่า
ด้านฟีเจอร์พื้นฐานคือ หากใช้งานแอปฯ อยู่ขณะที่พับ แล้วกางออก แอปฯ ก็จะไปสลับไปแสดงผลในหน้าจอใหญ่แทนทันที และหากพับกลับมาก็จะกลับมาแสดงผลที่หน้าจอ Cover เหมือนเดิม
สำหรับแอปฯ ที่เปิดได้พร้อมกันในหน้าจอใหญ่ ทำได้สูงสุด 3 แอปฯ แต่อีกแอปฯ นึงจะแสดงผลแบบ Floating นะครับ
หากใครอยากจะหาทางตั้งด้วยการพับจอแค่ 90 องศา ก็แนะนำว่าให้ใส่เคสที่ทาง HONOR แถมมาให้ครับ ซึ่งเขาก็ออกแบบมาดี ให้ตั้งได้ไม่ว่าจะวางเครื่องแนวไหน ซึ่งเราสามารถกางออกมาแล้วตั้งดูหนังได้สบายๆ หรือถ้าใครจะต่อคีย์บอร์ดเอาไว้พิมพ์งานแทนการพิมพ์จากเครื่อง ก็ถือว่าสะดวกมากๆ
กลับมาที่หน้าจอกันอีกนิดนึง สำหรับหน้าจอทั้ง 2 จอใช้ LTPO OLED รีเฟรชเรตสูงสุดที่ 120Hz จอสู้แดดได้ดีครับ จอ Cover ให้มา 2500 nits ขณะที่จอ Foldable สู้แดดได้ที่ 1600 nits
ถือว่า HONOR เขาเอาใจใส่กับสเปคหน้าจอไม่ว่าจะใช้ตอนพับหรือตอนกางออกมาเลยนะครับ
มากันที่น้ำหนัก เป็นอีกจุดนึงที่ไม่ต้องกังวล เพราะเจ้าตัวนี้ต้องถือว่าเบามากๆ แล้วนะครับ น้ำหนักแค่ 231 กรัม เทียบแล้วหนักกว่า iPhone 15 Pro Max แค่ 10 กรัมเท่านั้น
อ่ะ กลับมาดูสเปคต่อกันอีกนิดครับ ด้านชิปเซ็ตใช้ Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 (4 nm) คือที่มันไม่ได้ใช้ Gen 3 เพราะว่าเจ้าตัวนี้มันเปิดตัวในจีนไปตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะออกมาทำตลาดต่างประเทศในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมานี่เอง โดยรุ่นที่ขายในไทย จะมีความจุเดียวคือ RAM 16GB และ ROM 512GB
ด้านแบตเตอรี่ เจ้าตัวนี้ถูกออกแบบแบตเตอรี่มาอย่างดีครับ เพราะใส่มาถึง 5000mAh ขณะที่ตัวเครื่องบางได้ขนาดนี้ ซึ่งเขาใช้เทคโนโลยี แบตเตอรี่คู่ซิลิคอนคาร์บอน ที่หนาเพียง 2.72 มิลลิเมตร และยังรองรับชาร์จไวที่ 66W แต่ก็น่าเสียดายนิดนึงที่ไม่รองรับ Wireless Charging
มาดูเรื่องการถ่ายภาพกันบ้าง
เจ้าตัวนี้ให้กล้องมาจัดเต็มจริงๆ ครับ กล้องหลัก 50 MP รูรับแสง f/1.9 มี OIS มาให้ด้วย ด้าน Ultrawide ระยะ 13mm ให้มา 50 MP เช่นกัน ด้านรูรับแสง f/2.0 และสุดท้าย เลนส์ Telephoto 20 MP ระยะ x2.5 หรือประมาณ 62mm รูรับแสงที่ f/2.4
ถ่าย Video ได้สูงสุด 4K 60fps
ด้านกล้องหน้าให้มา 2 ตัว ทั้งจอ Cover และ จอด้านใน สเปคเท่ากันที่ 16 MP รูรับแสง f/2.2 ถ่าย Video ได้สูงสุด 4K 30fps
ด้านการเล่นเกม ส่วนตัวผมชอบมากๆ โดยเฉพาะเวลากางหน้าจอออกมา เพราะขนาดมันพอดีมือ ดีกว่าเล่นในแท็บเล็ต 7-8 นิ้วมากๆ แถมน้ำหนักยังกระจายตัวได้ดีกว่าเวลาพับจอ เล่นแล้วรู้สึกเบามือกว่าตอนพับจอแบบเห็นได้ชัด
จบไปแล้วนะครับสำหรับการ รีวิว HONOR Magic V2 หลังจากพกไปใช้งานจริงๆ ส่วนตัวผมพูดได้เลยว่ามันครบเครื่องจริงๆ ตอบโจทย์ทั้งการทำงาน บันเทิง ทั้งเล่นเกม ดูหนัง รอยตรงจุดพับแทบไม่เป็นอุปสรรคกับการใช้งานเลย ด้านการถ่ายรูป เรียกว่าได้เลนส์ระดับ Flagship ที่ไม่กั๊กเลยแม้แต่น้อยใส่มาในรุ่นนี้
สำหรับค่าตัวเปิดมาที่ 59,990 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีม่วง และ สีดำ
แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นยังไงก็คอมเมนต์บอกเราได้นะครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่กับการรีวิวสินค้าที่น่าสนใจ สำหรับวันนี้ผม แสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ
–พรีวิว 3 อุปกรณ์เสริมจาก Energea ของสาวก Apple “GoMag Gyre, Flow USB3.2 Gen 2 และ AMPCHARGE GAN35+”