สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมา รีวิว HONOR Magic V3 สมาร์ทโฟนจอพับที่ฮอตที่สุดในตอนนี้ เพราะเปิดตัวมาพร้อมกับจุดแข็งมากมายแบบเรียกว่าตั้งใจมาถล่มคู่แข่งเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องดีไซน์หน้าจอ แบตเตอรี่ ความทนทานของตัวเครื่อง กล้อง และสุดท้าย มี AI ใช้แล้วเหมือนกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ เปิดตัวมาในราคา 54,990 บาท
เอาล่ะครับ เรามาดูกันดีกว่า ว่าหลังจากผมเอาไปใช้งานแล้ว มีส่วนไหนที่ประทับใจบ้าง มาดูกันเลยครับ
เริ่มต้นกันที่เรื่องดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอ สำหรับเจ้าตัวนี้หน้าจอเวลาพับจะอยู่ที่ 6.43 นิ้ว ส่วนถ้ากางออกมาจะมีความกว้าง 7.92 นิ้ว จอเป็น OLED ทั้งคู่ และรองรับรีเฟรชเรตที่ 120Hz
ส่วนตัวผมมองว่า มันเป็นสมาร์ทโฟนจอพับที่ตอบโจทย์คนใช้ตอนไม่อยากกางออกมาได้ดีทีเดียวครับ เพราะสเกลหน้าจอตอนที่พับอยู่มันเท่ากับสมาร์ทโฟน Bar Type ทั่วไป ผมลองเทียบให้ดูกันชัดๆ เลยครับ อย่างผมเองเป็นคนชอบพิมพ์แชตคุยเวลาพับจอลงมา เพราะชอบใช้มือเดียวกดแป้นพิมพ์ ตรงนี้เลยชอบมากๆ
อีกส่วนคือ เวลาเล่นเกม ถึงแม้ว่าถ้ากางออกมามันจะเล่นเกมได้เต็มตากว่า แต่ถ้าจะเอากดถนัดมือ ตอนพับลงมามันกดถนัดมือกว่าครับ
ส่วนตอนที่กางผมจะใช้เวลาอ่านคอนเทนต์ ดูคลิปอะไรพวกนี้มากกว่าครับ เพราะว่ามันเต็มตาดี อีกอย่างเราสายตาเริ่มไม่ดีแล้ว การมีจอใหญ่ๆ พกติดตัวไว้โดยไม่ต้องพกแท็บเล็ตมาอีกเครื่องมันคล่องตัวเวลาเดินทางด้วยรถสาธารณะกว่ามากๆ ครับ
สำหรับด้านน้ำหนักการพกพา อันนี้ก็ตอบโจทย์ครับ คือถ้าเราย้อนไปถึงการพกจอพับในยุคแรกๆ มันจะให้ความรู้สึกเหมือนแบกมือถือ 2 เครื่องใส่กระเป๋า แต่ด้วยน้ำหนัก 226 กรัม เลยทำให้เราไม่รู้สึกว่ามันหนักเลยครับ เพราะน้ำหนักมันเท่าๆ กับพวกสมาร์ทโฟน Bar Type ตัวแฟล็กชิปทั่วไปเลย
ซึ่งที่เขาทำน้ำหนักได้ดีขนาดนี้เป็นเพราะว่า เขาออกแบบตัวเครื่องให้มันบางมากๆ ตอนพับจะอยู่ที่ 9.2 มิลลิเมตร หนากว่าสมาร์ทโฟน Bar Type เล็กน้อย ส่วนกางออกมาจะอยู่ที่ 4.35 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าบางมากๆ ครับ
ส่วนความสว่างหน้าจอก็ให้มาเต็มๆ ที่ 5000 nits สำหรับจอด้านนอก ส่วนจอด้านในให้มาที่ 1600 nits ครับ
แบตเตอรี่
มาดูด้านแบตเตอรี่กันบ้างครับ เจ้าตัวนี้ใช้เป็นซิลิคอนคาร์บอน 3.0 ให้มา 5150mAh ถามว่าใช้พอมั้ย ผมลองเอาไปใช้นอกบ้านทั้งวัน ดูคลิปบ้าง ไถโซเชียลบ้าง ช่วงที่เดินทางบนรถไฟฟ้า และใช้ถ่ายรูปกับคลิปเกือบชั่วโมงในงานนิทรรศการ กลับถึงบ้านแบตก็ยังเหลือเกิน 50% ครับ
ส่วนการชาร์จ สามารถชาร์จแบบมีสายได้เร็วสุดที่ 66W และแบบไร้สายได้ที่ 50W แน่นอนว่าอะแดปเตอร์ และสายชาร์จ แถมมาให้ในกล่องแล้วครับ
ไหนๆ ก็พูดถึงอุปกรณ์ในกล่องแล้ว มาดูกันต่ออีกนิดครับ คือ Pain Point ของสมาร์ทโฟนจอพับมันคือเรื่องเคส ที่หาซื้อทั่วไปยาก ทางออเนอร์เขาเลยจัดเคสมาให้ครับ มีทั้งตัวที่ใส่ครอบหน้าจอนอก และเคสที่ใส่ครอบฝาหลัง แถมยังออกแบบให้มันตั้งได้ด้วย แค่ดึงขาตั้งจากตรงกล้องออกมา คือถ้าดูเผินๆ มันเหมือนจะบอบบางนะครับ แต่เอาจริงๆ มันสามารถปรับองศาให้รับน้ำหนักได้หลายองศาอยู่นะครับ
ความทนทาน
มาต่อกันที่ ความแข็งแรง ทนทาน และเรื่องการกันน้ำกันครับ ต้องบอกว่าอีกส่วนหนึ่งที่คนใช้สมาร์ทโฟนจอพับกังวลก็คือเรื่องความทนทาน แต่กับเจ้าตัวนี้เรื่องความทนทาน ผมบอกเลยว่าเขาทำได้น่าประทับใจมากๆ ครับ เพราะตอนวันเปิดตัวเขาเอาเจ้าตัวนี้เข้าไปปั่นในเครื่องซักผ้า แล้วมันไม่เป็นอะไรเลย ยังใช้งานได้ปกติ
ส่วนหน้าจอด้านนอกที่เขาเคลมว่าทนกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 10 เท่าผมก็ลองเอากรรไกรมาขูดเองเลยครับ ไม่เป็นอะไรเลยเช่นกัน
ส่วนการกันน้ำ รอบนี้ให้ IPX8 กันน้ำได้ลึก 2.5 เมตร อันนี้ไม่ได้ลองครับ แต่ที่ลองคือ เขาบอกว่ามีเทคโนโลยี Wet Hand Touch คือมือเปียกน้ำ จอเปียกน้ำก็ทัชได้ ผมเลยลองทำให้จอเปียกแล้วทัชดูครับ สรุปได้จริงๆ ไม่ทัชแล้วเพี้ยน
อีกส่วนที่คงไม่ได้ลองคือ เจ้าตัวนี้เขาเคลมว่ามันบานพับมันทนมากๆ พับได้ถึง 5 แสนครั้ง แน่นอนว่าคงไม่มีใครว่างมานั่งทดสอบครับ แต่ถ้าดูโดยรวมจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน ต้องบอกว่าแกนพับมันแน่นมาก และให้ความรู้สึกมั่นใจเวลาใช้งาน ด้วยความที่มันพับแล้วแนบสนิท เวลาจะกางก็รู้สึกเลยว่าตัวแกนบานพับมันไม่หลวม มันแน่นมากๆ ครับ
รีวิว HONOR Magic V3 กับกล้องที่มาในระดับแฟล็กชิป
มาถึงเรื่องกล้องกันครับ เป็นอีกเรื่องนึงที่คนเลือกใช้สมาร์ทโฟนจอพับมักจะเซ็ง คือมันได้กล้องไม่เหมาะสมกับราคา รอบนี้เขาก็เลยจัดเต็ม ใส่กล้องหลักที่ 50MP รูรับแสง f/1.6 ตัวที่ 2 เป็น Periscope Tele Camera 50MP รูรับแสง f/3.0 มี OIS และซูมได้สูงสุด 100X และสุดท้าย Ultra-wide รูรับแสง f/2.2 ให้มา 40MP
ถ่าย Video ได้สูงสุดที่ 4K 60fps และยังให้ฟิลเตอร์ของ Harcourt มาด้วย
ส่วนกล้องหน้าให้มา 20MP f/2.2 ทั้งจอนอกและจอด้านใน ถ่าย Video ได้สูงสุดที่ 4K 30fps
สำหรับการถ่ายรูปทั่วๆ ไปแน่นอนว่ากล้องระดับนี้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ ภาพออกมาดี การโฟกัส การเบลอพื้นหลัง ทำได้ดีครับ รวมถึงความคมชัดของวัตถุก็ไม่มีปัญหาเลย ถ้าถ่ายในในสภาวะแสงปกติ
ผมเลยเอาไปลองถ่ายในที่มันมืดจริงๆ แบบในงานนิทรรศการที่แบบชวนขนลุกนิดนึง ซึ่งกล้องของเจ้าตัวนี้มันทำได้ดีมากๆ ในที่แสงน้อยครับ และไม่สวยแค่ในหน้าจอตัวเอง แต่พอเอามาดูในคอมพิวเตอร์แล้ว ลองขยายแล้ว ก็ยังเห็นว่ารายละเอียดเก็บได้ดีมากๆ Noise ถือน้อยมากๆ คือถ้าไม่ขยายดูแบบ 100% คือแทบไม่เห็นเลยครับ
ด้านการเกลี่ยแสงก็ทำได้ดี ตรงไหนมืดตรงไหนสว่าง ไม่มีจุดที่แสงโอเวอร์จนรูปเสียเลย ส่วนความคมชัด ตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่าเขาทำได้ดีมากๆ และ OIS ช่วยการถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี มือสั่นนิดหน่อยภาพก็ยังชัด คือในเซ็ตที่ผมถ่ายมา ไม่มีภาพที่เบลอจนต้องลบทิ้งเลยครับ
เช่นเดียวกัน การถ่าย Video ในที่แสงน้อย ก็ทำได้ดีครับ ไม่มีอาการแบบโฟกัสไม่ติด หรือภาพสั่นให้เห็น ตรงนี้ถือว่าทำได้ดีมากๆ ครับ
ส่วนกล้องหน้า ก็เก็บรายละเอียดได้ดีครับ สีผิวออกมาสวย อันนี้ตอบโจทย์สาวๆ ที่ชอบเซลฟี่แน่นอนครับ
AI
มากันถึงจุดเด่นสุดท้าย คือ AI ที่ใส่มาให้กับเจ้าตัวนี้ครับ
เรามาเริ่มต้นกันที่ฟีเจอร์ AI Eraser กันก่อนครับ ใช้งานง่ายๆ โดยเข้าไปที่แกลเลอรี่ เลือกรูปที่เราอยากปรับแต่ง กด Edit รูป แล้วเราจะเห็นว่ามันมี AI Eraser อยู่ด้านล่างครับ กดเข้าไปเลย จากนั้นก็แค่เลือกจุดที่เราอยากลบ จากนั้น AI มันจะลบส่วนที่เราไม่ต้องการ และใส่ฉากทดแทนมาให้ครับ ส่วนเรื่องเนียนหรือไม่เนียนนั้น ผมให้คุณผู้ชมตัดสินใจกันเองนะครับ
มาดู AI ที่ช่วยเรื่องการแปลภาษากันบ้างครับ เข้าไปที่แอปฯ Note หลังจากเพิ่ม Note ใหม่แล้ว เราจะเห็นสัญลักษณ์รูปเสียงอยู่ทางขวาบนสุดของคีย์บอร์ดครับ จากนั้นกดเข้าไปเลยครับ มันจะเริ่มระบบอัดเสียง จากนั้นเสียงที่เข้ามาจะทั้งหมด AI จะประมวลออกมาเป็นคำพูดให้ครับ รองรับทั้งหมด 9 ภาษา ยังไม่มีภาษาไทย
ซึ่งตรงนี้เราสามารถจะให้มันถอดเสียงตามเจ้าของภาษาใน 9 ภาษานี้ได้ หรือ จะให้มันแปลสดเลยก็ได้เช่นกันครับ เช่นผมพูดภาษาอังกฤษเข้าไป และให้มันแปลเป็นฝรั่งเศสให้เลยก็ได้แบบนี้ครับ
ก็ประมาณนี้ครับ สำหรับจุดเด่นจุดขายหลักของการ รีวิว HONOR Magic V3 ถ้าถามความเห็นส่วนตัว บอกต้องบอกเลยว่ามันคือสมาร์ทโฟนจอพับที่คุณควรเดินไปลองจับลองเล่นเป็นตัวแรกเลยครับ เพราะนอกจากจุดเด่นที่ออกมาถล่มคู่แข่งอย่างที่ผมเล่าให้ฟังไปแล้ว เจ้าตัวนี้ก็ยังใส่สเปคมาให้เต็มมากๆ ทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen3 และ GPU Adreno 750 ให้ RAM 12GB ROM 512GB ในราคา 54,990 บาท
แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นอย่างไรก็คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้นะครับ สำหรับวันนี้ ผม แสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ
–รีวิว Xiaomi 14T Pro รุ่นน้องเรือธงที่ดีที่สุด มาพร้อม LEICA และ Advanced AI
